กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--คปภ.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แจงมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัยแก่ผู้ประสบอุทกภัย เร่งกระชับกระบวนการชำระค่าสินไหมทดแทน เพิ่มศักยภาพของระบบประกันภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชน
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. มีมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัยแก่ผู้ประสบอุทกภัย เช่น ระยะเวลาการจ่ายค่าสินไหมทดแทน การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อเร่งฟื้นฟูความเสียหายของภาคอุตสาหกรรม บ้านที่อยู่อาศัย รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจประกันภัย ดังนี้
1. การกระชับกระบวนการชำระค่าสินไหมทดแทน ด้วยการเพิ่มบุคลากรผู้ประเมินความเสียหายที่มีความเชี่ยวชาญหรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันการศึกษา หรือสมาคมวิชาชีพ เช่นสมาคมวิศวกรรมสถาน สมาคมสถาปนิก เป็นผู้ประเมินความเสียหาย มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน (pool resource) เพื่อกระจายงานสำรวจภัยได้อย่างทั่วถึง และให้การประเมินความเสียหายเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาให้บริการประเมินความเสียหายแล้วประมาณ 300 คน และคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิและนิสิตนักศึกษาอีกประมาณ 200 คน ร่วมเป็นผู้ประเมินความเสียหายเบื้องต้น ทั้งนี้ กำหนดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ ผู้เอาประกันภัยภาคครัวเรือนให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และภาคอุตสาหกรรมให้ได้ร้อยละ 75 ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด ภายใน 6 เดือน รวมถึงมีการแจกคู่มือประกันภัยสำหรับผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัย เพื่อสร้างความเข้าใจในกระบวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่ชัดเจน
2. การรับประกันภัยอุทกภัยในประเทศ และรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ
สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามภาวการณ์ในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยให้มีความคุ้มครองต่อเนื่อง โดยการกำหนดจำนวนเงินจำกัดความรับผิด (Sub Limit) ของกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) สำหรับภัยน้ำท่วม และความรับผิดส่วนแรก (Deductible) เป็นแนวทางหนึ่งที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยต่อไปได้ ทั้งนี้ เนื่องจาก ในความเป็นจริงจำนวนทรัพย์สินที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย โดยทั่วไปแล้วเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมด เช่น เมื่อน้ำลดแล้วตัวโครงสร้างของโรงงาน อาคาร บ้านเรือนยังคงอยู่ และความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นเพียงสัดส่วนจำนวนหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมด ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการเร่งศึกษาการจัดตั้งรูปแบบการประกันมหันตภัยในรูปแบบต่างๆ โดยอาจมีภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้สาธารณชนในภาคครัวเรือนและผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถเข้าถึงความคุ้มครองอุทกภัยได้อย่างทั่วถึงในอัตราเบี้ยประกันต่ำ การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศ
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ร่วมกับเครือข่ายประกันภัยรถยนต์ดำเนินการโครงการ “ประกันภัยรวมใจ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” บูรณาการซ่อมรถ โดยการกำหนดมาตรฐานราคาค่าซ่อมตามระดับน้ำท่วม รองรับการให้บริการซ่อมรถที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านเจ้าของรถที่ไม่มีประกันภัย การให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 20 รายการ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ หากพบหัวเทียน หลอดไฟ และน้ำมันเครื่องไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน จะได้รับการเปลี่ยนฟรี เพื่อช่วยเหลือประชาชนและสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจประกันภัยต่อไป โดยได้ดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วที่วัดดอนเมือง และเทศบาลอำเภอบางบัวทอง และมีแผนที่จะดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถขอรับบริการได้ ตาม เวลา และสถานที่ ดังนี้
1. จ.ปทุมธานี ณ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร วันที่ 16 ธันวาคม 2554 เวลา 9.00 -15.00 น.
2. กรุงเทพฯ เขตบางพลัด บริเวณวัดรวกบางบำหรุ วันที่ 18 ธันวาคม 2554เวลา 9.00 - 15.00 น.
3. กรุงเทพฯ ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา วันที่ 21 - 24 ธันวาคม2554 ในงาน METALEX 2011
“รวมพลังฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการผลิต หลังวิกฤตน้ำท่วม” ซึ่งจะมีการออกบูธของบริษัทประกันภัย และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการประกันภัยแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และมีการเสวนาในหัวข้อ “การประกันภัยกับภัยน้ำท่วม” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186