กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 19 ธันวาคม 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,584.29 — 1,604.49 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ11 อยู่ที่ 23,830 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 23,840 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ11 อยู่ที่ 918 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 9 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 927 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น.ของวันที่ 19/12/11)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 20 ธันวาคม 2554
ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ร้อนแรงต่อเนื่องกดดันราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยสาเหตุหลักยังคงมาจากกระแสข่าวการประชุมสุดยอดผู้นำอียูที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ซึ่งไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเนื่องจากวิธีการแก้ไขปัญหาที่ออกมาเป็นเพียงวิธีการหาเงินเพิ่มเติมเพื่อเข้าช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหา แต่ไม่มีการพูดถึงรายละเอียดในการแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา ทำให้เงินสกุลยูโรยังคงเดินหน้าอ่อนตัวลง ซึ่งปัญหาหนี้ของยุโรปนั้นนำมาซึ่งการตัดสินใจทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือโดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ และในประเทศของเบลเยียมลงสองขั้นสู่ระดับ AA3 จากระดับ AA1 แนวโน้มเครดิตเป็นลบเนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้น เศรษฐกิจขยายตัวช้า และภาระหนี้สิน ขณะเดียวกัน ฟิทช์ยังได้เตือนว่าอาจจะลดอันดับเครดิตอีกหกประเทศในยูโรโซน ได้แก่ อิตาลี สเปน เบลเยียม ไอร์แลนด์ สโลวีเนีย ประกอบกับ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสที่ AAA แต่ลดแนวโน้มอันดับเครดิตลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำมีการปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้ว หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,550-1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำจะดีดตัวกลับในลักษณะ Technical Rebound นักลงทุนจึงจำเป็นต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเพราะการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังขึ้นอยู่กับกระแสข่าวในยุโรป ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้จำเป็นต้องอาศัยข่าวที่เกิดขึ้นเป็นตัวนำทางราคาทองคำต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมามีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมา หากราคาทองคำมีการปรับลดลงทดสอบแนวรับและไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,577 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำมีโอกาสดีดตัวกลับในลักษณะ Technical Rebound และ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,623 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,577 (23,340บาท) 1,565 (23,160บาท) 1,550 (22,940บาท)
แนวต้าน 1,616 (23,920บาท) 1,623 (24,020บาท) 1,638 (24,250บาท)
GOLD FUTURES (GFZ11)
แนวรับ 1,577 (23,550บาท) 1,565 (23,370บาท) 1,550 (23,150บาท)
แนวต้าน 1,616 (24,130บาท) 1,623 (24,230บาท) 1,638 (24,450บาท)
SILVER FUTURES (SVZ11)
แนวรับ 28.36 (895บาท) 28.08 (886บาท) 27.60 (871บาท)
แนวต้าน 29.90 (943บาท) 30.82 (972บาท) 31.80 (1,002บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com หากสนใจเข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ “การลงทุนในโกล์ดฟิวเจอร์ส” ฟรี!!! สำรองที่นั่งได้ทุกวันทาง เว็บไซด์ หรือ โทร 02-2871155 ต่อ 139