กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--กระทรวงพลังงาน
สานสัมพันธ์อาเซี่ยนแน่นแฟ้น กระทรวงพลังงาน รุกถิ่นฟิลิปปินส์ นำทัพเชื่อมความร่วมมือด้านพลังงาน ชูแผนการเป็นศูนย์กลางพลังงานของไทย ลั่นเดินหน้า ความมั่นคงด้านพลังงานในภูมิภาค
นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 17 -19กุมภาพันธ์ 2547 นี้ จะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของกระทรวงพลังงาน ฟิลิปปินส์ เพื่อหารือถึง นโยบายด้านพลังงาน ภาพรวมพลังงานของไทยและฟิลิปปินส์ การเป็นศูนย์กลาง ด้านปิโตรเลียมในภูมิภาค แนวทางการเชื่อมโยงท่าเรือศรีราชาของไทยกับท่าเรือปลอดภาษีอ่าวซูบิกของฟิลิปปินส์ การสำรองน้ำมัน รวมถึงแผนการลงทุนด้านพลังงานของไทยในอนาคต และจะได้เยี่ยมชมโรงงานไฟฟ้าพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ และเดินทางไปยังท่าเรือปลอดภาษีอ่าวซูบิค เพื่อเยี่ยมชมกิจการของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)
นอกจากนั้น ทั้งสองประเทศ ได้ร่วมจัดตั้งคณะกรรมการร่วมสองฝ่าย เพื่อร่วมผลักดันให้บรรลุตามความต้องการเบื้องต้น โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะมีสมาชิกรวม 8 ท่าน แบ่งเป็นฝ่ายละ 4 ท่าน ซึ่งตัวแทนคณะกรรมการฝ่ายไทยได้แก่ นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายพรชัย รุจิประภา รองปลัดกระทรวงพลังงาน นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. จำกัด(มหาชน) และนายทรงภพ พลจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์
โดยจะมีการหารือแบบทวิภาคี ซึ่งจะเป็นความร่วมมือระดับกระทรวง ด้านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม น้ำมันและก๊าซ โดยมีสาระสำคัญ ที่จะให้ความร่วมมือในด้านสำรวจ พัฒนาและผลิตปิโตรเลียม รวมถึงจัดเก็บ การจัดจำหน่าย และการใช้ประโยชน์จากสาธารณูปโภคที่มีอยู่ การพัฒนาส่งเสริมให้เกิดการทำงาน ร่วมกัน ระหว่างสองประเทศ การสร้างเสริมโอกาสในการใช้สาธารณูปโภคด้านน้ำมัน รวมถึงความร่วมมือในด้านวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีการพลังงานชนิดอื่น ๆ เช่นพลังงานชีวมวล ก๊าซธรรมชาติอัด และก๊าซหุงต้ม
"ความร่วมมือด้านพลังงาน ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียเกิดขึ้น เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาซึ่งกันและกัน รวมทั้งจะเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้เกิดขึ้นในภูมิภาค และเพิ่มการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้าน ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดี ในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก และเป็นการแสดงศักยภาพ และความพร้อมในด้านต่าง ๆ ของประเทศไทย ที่จะช่วยส่งเสริมยุทธศาสตร์พลังงานของไทยที่จะผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค" นายแพทย์พรหมินทร์กล่าว
อย่างไรก็ตามจากการลงนามข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ(mou) ในช่วงระหว่างการประชุมผู้นำเอเปก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2546 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานไทยและกระทรวงพลังงานฟิลิปปินส์ ได้ลงนามความร่วมมือด้านพลังงานทั้งการลงทุนในการสำรวจขุดเจาะปิโตรเลียม โดยให้บริษัทปตท. สผ. จำกัด(มหาชน) เข้าไปลงทุน และการลงทุนในด้านการทำถังเก็บน้ำมันในอ่าว ซูบิค ซึ่งมีปริมาณ 2.4 ล้านบาเรล และที่คาร์ค 6 แสนบาเรล รวมทั้งสิ้น 3 ล้านบาเรล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทปตท. จำกัด(มหาชน) และจะเป็นแหล่งสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงพลังงาน โทร/โทรสาร 0-2224-3894 www.energy.go.th--จบ--
-รก-