ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของ DTAC เป็น ‘BBB-’

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 20, 2011 17:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating) และอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (Long-term Local Currency Issuer Default Rating) ของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คแซสคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เป็น ‘BBB-’ จาก ‘BBB’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงอยู่ด้านล่าง การปรับลดอันดับเครดิตเป็นผลมาจาก การที่ DTAC ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษ ซึ่งคาดว่าจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินและหนี้สินดำเนินงาน (FFO-adjusted net leverage) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับอ้างอิงของฟิทช์ในการพิจารณาปรับลดอันดับเครดิตของบริษัท เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2554 DTAC ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษจำนวน 38.9 พันล้านบาท ซึ่งจะจ่ายในวันที่ 12 มกราคม 2555 การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทอาจต้องมีการลงทุนในโครงข่าย 3G ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ถึงแม้ฟิทช์คาดว่าบริษัทจะยังคงมีผลประกอบการที่แข่งแกร่งอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า การจ่ายเงินปันพิเศษที่สูงและค่าใช้จ่ายสำหรับค่าธรรมเนียมของใบอนุญาต 3G ที่สูง อาจทำให้อัตราส่วน FFO-adjusted net leverage ของบริษัทเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับประมาณ 1.7 เท่า ณ สิ้นปี 2555 จากสถานะเงินสดสุทธิ (เงินสดมากกว่าหนี้สิน) ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2554 นอกจากนี้การลงทุนก่อสร้างโครงข่าย 3G ที่สูงในช่วงปี 2556-2558 อาจทำให้อัตราส่วน FFO-adjusted net leverage ของบริษัทคงอยู่ที่ระดับประมาณ 2.0 เท่า ในช่วงดังกล่าว อันดับเครดิตของ DTAC สะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่อันดับสองของประเทศ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 30% ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2554 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา DTAC ได้ลงทุนขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากขึ้น และสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด ถึงแม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรง อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการสร้างกำไรและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายตัวของรายได้จากบริการที่ไม่ใช่เสียง (non-voice service revenue) น่าจะช่วยลดผลกระทบจากการเติบโตที่ลดลงของรายได้จากบริการแบบเสียง และส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตที่ประมาณ 5% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 รายได้และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (EBITDAR) ของบริษัทเพิ่มขึ้น 10.8% และ 13.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินและหนี้สินดำเนินงาน (Funds from operation) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16.7 พันล้านบาท จาก 15.3 พันล้านบาท ตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทแม่กับบริษัทลูก (Parent and Subsidiary Rating Linkage Methodology) ฟิทช์จัดอันดับเครดิตของ DTAC โดยเริ่มจากการพิจารณาเครดิตของ DTAC โดยลำพัง (Standalone Rating) แล้วจึงพิจารณาถึงปัจจัยเสริมจากความสัมพันธ์ดังกล่าว (Bottom-up Approach) โดยฟิทช์ได้ให้อันดับเครดิต DTAC เพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิต Standalone ของบริษัทเพื่อสะท้อนถึงการสนับสนุนทางด้านการดำเนินงานและด้านกลยุทธ์จากบริษัทแม่ Telenor ซึ่งถือหุ้นใน DTAC ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ 65.5% และมีอำนาจควบคุมคณะกรรมการและผู้บริหารของ DTAC ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นของ Telenor ใน DTAC ฟิทช์จะทำการพิจารณาความสัมพันธ์และการสนับสนุนดังกล่าวจาก Telenor ใหม่อีกครั้ง อันดับเครดิตของ DTAC ได้พิจารณารวมถึงความไม่แน่นอนทางด้านนโยบาย กฎหมาย และกฎระเบียบของกิจการโทรคมนาคม ซึ่งรวมถึงการสอบสวนการแก้ไขสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจำกัดการถือหุ้นของชาวต่างชาติให้เข้มงวดขึ้น นอกจากนี้การแข่งขันด้านค่าบริการที่เพิ่มขึ้นในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่อาจส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนกำไรของบริษัทได้ หากประเด็นด้านกฎหมายและกฎระเบียบมีผลสรุปและมีแนวทางแก้ไขที่ไม่ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อบริษัท หรือบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของรายได้จากการให้บริการที่ไม่ใช่เสียง (Non-voice Revenue) และ EBITDAR margin ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วน FFO adjusted net leverage ลดลงต่ำกว่า 1.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิตของบริษัท ในทางตรงกันข้ามการลงทุนที่สูงกว่าที่คาดไว้ และ/หรือ การจ่ายเงินปันผลที่สูงซึ่งส่งผลให้ FFO adjusted net leverage สูงกว่า 2.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง หรือ มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎระเบียบของกิจการโทรคมนาคมที่ส่งผลในแง่ลบต่อบริษัท รวมถึงความสัมพันธ์ทางด้านการดำเนินงานและด้านกลยุทธ์กับบริษัทแม่ที่ลดลง อาจส่งผลกระทบในแง่ลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้ รายละเอียดอันดับเครดิตของ DTAC - ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ เป็น ‘BBB-’ จาก ‘BBB’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ เป็น ‘BBB-’ จาก ‘BBB’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - ปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) เป็น ‘A+(tha)’ จาก ‘AA-(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - ปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) เป็น ‘F1(tha) จาก ‘F1+(tha)’ - ปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน เป็น ‘A+(tha)’ จาก ‘AA-(tha)’

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ