กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--ก.ไอซีที
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจการดำเนินการตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 และนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา ระหว่าง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ว่า กระทรวงฯ และ กสทช. ถือได้ว่าเป็นหน่วยงานหลักของประเทศที่มีความสำคัญในการกำหนดนโยบาย กำกับ ควบคุม รวมทั้งดูแลด้านกิจการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศให้พัฒนาไปในทิศทางที่จะให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองหน่วยงานได้ประสานและร่วมดำเนินงานเพื่อพัฒนากิจการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รวมทั้งกระแสการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของโลกให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีมาโดยตลอด
และเพื่อให้การดำเนินงานร่วมกันระหว่างสองหน่วยงานเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรี แถลงไว้ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 กระทรวงไอซีที และ กสทช. จึงได้จัดทำบันทึกความเข้าใจในการดำเนินการขึ้น เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติสำหรับความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศให้มีประสิทธิภาพ โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
“การลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองหน่วยงาน จะได้ร่วมกันดำเนินการเพื่อพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน กิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศให้มีความก้าวหน้า และก่อให้เกิดเอกภาพในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศตลอดจนเพื่อผลักดันแนวนโยบายของรัฐบาลสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม อันจะก่อให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสื่อสารและโทรคมนาคมของประเทศให้เกิดเสถียรภาพ และยั่งยืนต่อไป” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว