กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--นีลเส็น
- จบไตรมาสที่ 3 มูลค่าการซื้อทั้งภูมิภาคสูงถึงห้าพันล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศไทยมียอดซื้อใหญ่เป็นอันดับสาม
- ยอดซื้อสื่อทางโทรทัศน์ — กุญแจสำคัญของการเติบโต
จากผลการสำรวจของนีลเส็น “Southeast Asia Quarterly Advertising Index” พบว่า ยอดซื้อโฆษณา (Advertising Spending) ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โตอย่างต่อเนื่องในทุกสื่อ โดยรวมมูลค่าการซื้อจนถึงจบไตรมาสที่สามสูงกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ กว่าหนึ่งแสนห้าพันล้านบาท) โดยประเทศไทยมียอดการซื้อใหญ่เป็นอันดับสามของภูมิภาค (726 ล้านเหรียญสหรัฐ) รองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ทั้งภูมิภาคมีอัตราการเติบโตถึง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปีที่ผ่านมา
อินโดนีเซียมีอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในภูมิภาค (+24%) เมื่อเทียบกับยอดการซื้อโฆษณาเมื่อสิ้นไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ (+15%) และสิงคโปร์ (+10%) โดยประเทศไทยอยู่ที่อันดับห้าด้วยอัตราการเติบโต 6% (ตาราง 1)
“จากตัวเลขสถิติตามรายงานของเราดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า อัตราการเติบโตของการซื้อโฆษณาที่พุ่งสูงขึ้นควบคู่ไปกับดัชนีความมั่นใจของผู้บริโภค (consumer confidence) ที่ยังคงมั่นคงเมื่อมองในภาครวมของทั้งภูมิภาค ส่งสัญญาณที่ดีว่าสภาพเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีภูมิต้านทานที่ดีต่อเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญความไม่มั่นคงทางการเงิน” เดวิด เว็บบ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่าย Nielsen Advertising Solutions ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตะวันออกกลาง และอัฟริกากล่าว
ตามรายงานเดียวกันนี้ยังพบว่า โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์คือสองสื่อยักษ์ใหญ่ที่ดึงให้ยอดการซื้อโฆษณาของทั้งภูมิภาคพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตในไตรมาสที่สามของปีนี้ถึง 17% และ 14% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว
ในระดับภูมิภาค ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม, บริการด้านการสื่อสาร, และภาครัฐ คือสามหัวข้อที่ใช้เม็ดเงินมากที่สุดในการโฆษณาในไตรมาสที่สามตามลำดับ ส่วนในประเทศไทยนั้นภาครัฐครองอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยรถยนต์ และประกันชีวิต โดยมี Unilever เป็นผู้ซื้อสื่อโฆษณารายใหญ่ที่สุดทั้งในระดับภูมิภาคและในประเทศไทย
“แม้ว่าจะมีสื่อแขนงใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย โทรทัศน์ก็ยังคงครองตลาดการซื้อโฆษณา ด้วยความสามารถในการสื่อสารสู่มวลชนในวงกว้างที่ไม่มีสื่ออื่นเทียบได้ นอกจากนี้ เทคโนโลยีทางการรับชมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น HDTV หรือ TV on-demand ก็ยังเพิ่มความน่าสนใจให้กับโทรทัศน์ ให้สามารถดึงผู้ชมที่มีทางเลือกมากขึ้นไว้ได้ แต่อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ที่งบทางการตลาดมีจำกัด และสื่อทุกแขนงต้องเข้ามาแย่งชิงกัน หนทางเดียวที่สื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อคู่ขวัญที่ครองตลาดมาช้านาน หรือสื่อที่เกิดใหม่ จะอยู่รอดได้ คือการรักษาฐานผู้ชม/ผู้อ่าน/ผู้ฟังของตนเองไว้ให้ดีที่สุด และมุ่งเน้นพัฒนาอัตราการคืนทุน (Return on Investment) จากการลงสื่อโฆษณาของตนให้เหนือคู่แข่ง” เว็บบ์กล่าวเพิ่มเติม
เกี่ยวกับ Nielsen Southeast Asia Advertising Index
The Nielsen Southeast Asia Advertising Index หรือดัชนีการซื้อโฆษณาในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค นั่นจัดทำโดยบริษัทนีลเส็นทุกๆ ไตรมาส ครอบคลุมข้อมูลการซื้อโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการรับชม (ฟรีทีวี) หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ตัวเลขที่ได้ในบางประเทศอาจมาจากการเทียบราคาขายโฆษณามาตรฐาน เมื่อเทียบอัตราเป็นรายปีต่อปีแล้ว ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนอกจากจะสื่อถึงการลงโฆษณาที่มากขึ้นแล้ว อาจสื่อถึงการปรับอัตราการลงโฆษณาของสื่อหรือการเพิ่มพื้นที่ครอบคลุมของสื่อ ข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บในสกุลเงินท้องถิ่น และแปรเป็นสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐด้วยอัตราแลกเปลี่ยนในเดือนพฤศจิกายน ปี 2554
เกี่ยวกับนีลเส็น
Nielsen Holdings N.V. (NYSE: NLSN) เป็นบริษัทผู้นำระดับโลกด้านการให้ข้อมูลและการสำรวจวิจัย โดยมีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการตลาดและกลุ่มผู้บริโภค, ด้านสื่อและการวัดความนิยมของสื่อทุกชนิด, ด้านโลกออนไลน์, ด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร, รวมไปถึงการวัดความสำเร็จของกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรืองานอื่นๆ บริษัทนีลเส็นตั้งอยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองดีเม็น ประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ www.nielsen.com