กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
ที่ปรึกษาทางการเงินระบุ “HYDRO” เนื้อหอมเชื่อนักลงทุนให้ความสนใจเข้าลงทุน เหตุหลังเข้าจดทะเบียนในตลาด mai เงินทุนแข็งแกร่งพร้อมต่อยอดธุรกิจใหม่บุกตลาดต่างประเทศทั้งอาเซียนและตะวันออกกลาง ย้ำพื้นฐานแน่นถือยาวมีสิทธิ์รับปันผลตามนโยบายไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิอย่างแน่นอน
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ในการนำบริษัท ไฮโดรเท็ค จำกัด (มหาชน) หรือ HYDRO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้วรู้สึกพึงพอใจและนับว่าเป็นประสบผลสำเร็จสะท้อนได้จากราคาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนมากกว่า 40% และเชื่อว่า HYDRO จะเป็นบริษัทที่โดดเด่นในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนจะให้ความสนใจเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ทั้งนี้ประเมินจากผลประกอบการปีนี้ที่จะเติบโตเกินกว่า 100% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่มีรายได้รวม 280.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ 18.84 ล้านบาท โดยผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 492.89 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 35.42 ล้านบาท
“ผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2554 บริษัทมีกำไรแล้ว 35.42 ล้านบาท สำหรับนักลงทุนที่ได้จองซื้อหุ้น IPO และซื้อหุ้นในตลาดโดยถือหุ้นในระยะกลางหรือยาวก็จะทำให้ได้รับเงินปันผล ซึ่งทางบริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ และเร็วๆนี้ บริษัทจะมีการลงนามเซ็นสัญญารับงานใหม่ ซึ่งจะช่วยให้แบ็คล็อคของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีมูลค่างานในมือกว่า 1,300 ล้านบาท ทั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ผลประกอบการปี 2555 ของบริษัทเติบโตต่อเนื่องจากปี 2554” นายสมภพ กล่าว
นายสมภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังบริษัทได้เพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 30 ล้านหุ้นราคาเสนอขายหุ้นละ 3.39 บาท ในราคาพาร์ 1 บาท บริษัทได้รับเงินจากการชำระเงินจากผู้ถือหุ้นจำนวน 101.70 ล้านบาท บริษัทจะนำไปลงทุนต่อยอดในธุรกิจใหม่ คือ ลงทุนสร้างโรงงานรีไซเคิลน้ำในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
“บริษัทมีหนี้สินต่อทุนหลัง IPO เพียง 1.03 ต่อหุ้นและยังเป็นหนี้ระยะสั้นเมื่อได้เงินเพิ่มทุนเข้ามาทำให้ฐานเงินทุนบริษัทแข็งแกร่งและพร้อมที่จะลงทุนในธุรกิจใหม่นอกจากนั้นยังสามารถเข้าประมูลงานในภาคราชการที่มูลค่างานใหญ่ขึ้นและยังจะรุกงานในส่วนของต่างประเทศทั้งอาเซียนและตะวันออกกลาง” นายสมภพ กล่าว