สกว.จับมือ สำนักนายกฯ ทุ่ม 45 ล้าน ยกระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ข่าวทั่วไป Thursday February 19, 2004 10:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--สกว.
สำนักนายกฯจับมือ สกว.ทุ่ม 45 ล้านเสริมศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมเฟ้น 10 องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นนำร่องเน้นร่วมคิดร่วมทำวางแผนพัฒนาขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 ด้านเพื่อการทำงานที่จะเกิดประโยชน์กับประชาชนในท้องถิ่นอย่างแท้จริงและสอดคล้องแนวทางการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นที่ได้ดำเนินการไปแล้ว(สามารถดาวน์โหลดเนื้อข่าวและภาพได้ที่ http://pr.trf.or.th/news/index.asp)
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547 ณ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)มีการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยเพื่อดำเนินงานโครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยสองหน่วยงานได้ร่วมสนับสนุนงบประมาณรวมทั้งสิ้น 45 ล้านบาท
นายจาดุร อภิชาตบุตร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีผู้แทนปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่าการทำงานที่ผ่านมาหลายเรื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการที่ทำอะไรโดยไร้แนวทางแห่งการวิจัยสนับสนุนนั้นเป็นแนวทางที่ผิดและหลายอย่างที่ทำไปจึงเท่ากับเป็นการใช้เงินโดยเปล่าประโยชน์ ทั้งที่เงินกลับเป็นตัวตั้งของทุกสิ่งในการทำงานทุกคนจะเร่งรัดยื้อแย่งงบประมาณและในที่สุดงบประมาณก็ถูกตัดสินโดยกฎหมายของรัฐ และในระหว่างนี้ปัญหาที่ยังคงพูดถึงกันมาตลอดคือคอรัปชั่น และกลไกไร้ประสิทธิภาพ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็เป็นกลไกหนึ่งในการบริหารราชการแผ่นดิน ความร่วมมือระหว่างสำนักนายกรัฐมนตรีกับสกว.ครั้งนี้เป็นการทำงานเพื่อพัฒนาให้กลไกนี้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริงด้วยการทำให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดสำนึก รู้ปัญหาและเกิดการแก้ไขและพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง โดยในส่วนของรัฐบาลก็เข้าไปช่วยเหลือในส่วนที่เป็นเรื่องของส่วนรวมซึ่งในภาพรวมแล้วเมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการทำงานอย่างมีศักยภาพก็จะส่งผลต่อภาพรวมของประเทศ
ศ.ดร.ปิยะวัติ บุญ-หลง ผู้อำนวยการกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) กล่าวว่า งานวิจัยดังกล่าวเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากผลการดำเนินงานชุดโครงการวิจัยเรื่อง “การกระจายอำนาจทางการคลัง”ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วและผลการวิจัยถูกนำไปใช้ในการกำหนดเกณฑ์การจัดแบ่งรายได้ภาษีอากรและเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมทั้งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้เห็นความสำคัญและได้ขอให้จัดทำเป็นเอกสารสรุปเพื่อนำไปเผยแพร่สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังทำให้หลายฝ่ายมองเห็นปัญหาและความจำเป็นที่ชัดเจนขึ้นว่าจะต้องเร่งเสริมสร้างขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถบริหารจัดการกิจการของท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรมซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีและสกว.ตระหนักในความสำคัญดังกล่าวจึงร่วมกันสนับสนุนงบประมาณเพื่อทำการศึกษาต่อในเรื่องนี้โดยมีจุดเน้นในการเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและใช้กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันเป็นกระบวนการหลักในการเสริมสร้างการเรียนรู้และความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อในที่สุดจะสามารถทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง
ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย ผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนและสังคม สกว. กล่าวว่า งานวิจัยนี้เน้นการวิจัยเชิงปฎิบัติการที่เป็นการทำงานร่วมของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับนักวิจัยเพื่อร่วมกันกำหนดแผนและวิธีการเพื่อการพัฒนาขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สูงขึ้นใน 5 ด้าน คือ 1)พัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการและในการบริการประชาชน 2)พัฒนาระบบงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบที่ปฎิบัติได้และปรับเปลี่ยนได้ 3)พัฒนาศักยภาพของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง 4)พัฒนาการใช้เทคโนโลยีให้มีระดับสูงขึ้น และ 5)พัฒนาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นองค์กรเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาและปรับเปลี่ยนตนเองได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะดำเนินงานร่วมกับ10 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำร่อง มีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี(พ.ศ.2547-2548) มี ศ.(พิเศษ)สมชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานโครงการฯ--จบ--
-รก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ