กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--ก.ไอซีที
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรมประกวดแผนการประชาสัมพันธ์ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ภายใต้โครงการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ผลงานของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนให้เป็นที่รับรู้และแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายคนชั้นกลางที่นิยมค้นหาข้อมูลข่าวสารจากอินเทอร์เน็ต และเครือข่าย social network เช่น Facebook เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในภารกิจของกระทรวงฯ และเกิดการรับรู้ข้อมูลของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนในหลากหลายแง่มุมมากขึ้น ทั้งในด้านการเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชุมชนผ่านเครื่องมือ ICT การสร้างประโยชน์เชิงเศรษฐกิจและสังคมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยการสร้างองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนสินค้า ภูมิปัญญา และสร้างความสามารถทางการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ ด้วยการประยุกต์ใช้เครื่องมือ ICT ให้เข้ากับวิถีชุมชน ทั้งการจัดเก็บข้อมูลชุมชน การประชาสัมพันธ์ชุมชน สินค้า ภูมิปัญญา สร้างเครือข่ายสังคมแห่งการช่วยเหลือ และสร้างมูลค่าสินค้า บริการของชุมชนผ่านแนวคิด Social Network
ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้จัดกิจกรรมประกวดแผนการประชาสัมพันธ์ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ขึ้น เพื่อสานต่อกิจกรรมในโครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน พร้อมกระตุ้นให้คนไทยทั่วประเทศได้รู้จักและเข้าถึงประโยชน์ของศูนย์ฯ อย่างแพร่หลาย ด้วยการเชิญชวนนิสิตนักศึกษารุ่นใหม่ที่สนใจด้าน ICT ร่วมสร้างสรรค์และส่งผลงานของตนเองเข้าประกวดโดยผ่านช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ Social Network ที่กำหนดไว้
ด้าน นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า “กิจกรรมประกวดแผนการประชาสัมพันธ์ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน” นี้จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้กลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ที่ตั้งกระจายอยู่ในชุมชนต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวน 1,879 แห่ง ตามความสนใจของนิสิตนักศึกษาที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ โดยการนำข้อมูลที่ได้รับรู้มาดำเนินการวางแผนการประชาสัมพันธ์ให้กับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนนั้นๆ และนำเสนอผลงานผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต และ Social Network ที่กำหนดไว้ เพื่อสร้างความสนใจให้กับโครงการฯ และสามารถเผยแพร่ข้อมูลได้เป็นวงกว้าง รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ถึงบทบาท และประโยชน์ของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนมากขึ้น ซึ่งการเผยแพร่ผลงานผ่าน Social Network นี้ถือเป็นวิธีการแข่งขันแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน
“กิจกรรมการประกวดฯ ครั้งนี้ ได้เปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันตั้งวันนี้ถึง 15 มกราคม 2555 โดยการสมัครต้องรวมกลุ่มนิสิต นักศึกษากลุ่มละ 3 - 5 คน เพื่อสมัครเข้าร่วมกิจกรรม จากนั้นให้คัดเลือกศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนที่สนใจ เพื่อจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ส่งเข้าประกวด โดยในแผนจะมีทั้งกิจกรรมการเสนอ slogan ของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ที่นักศึกษาเลือกทำ เพื่อแนะนำศูนย์ฯ การเสนอแผนประชาสัมพันธ์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน หรือ จะสร้างสรรค์โครงการฯ ขึ้นใหม่ และการนำเสนอสื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมของนักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนด้วย” นางจีราวรรณ กล่าว
สำหรับผู้ที่ชนะการประกวดฯ กระทรวงฯ จะมอบทุนการศึกษา และโล่เกียรติยศให้เป็นรางวัล โดยผู้ชนะรางวัลที่ 1 ได้รับ ทุนการศึกษา จำนวน 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ รางวัลที่ 2 ทุนการศึกษา จำนวน 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ และรางวัลที่ 3 ทุนการศึกษา จำนวน 15,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษสำหรับผลงานดีเด่นจากการตัดสินของคณะกรรมการ ระดับภาค 5 รางวัล คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพฯ - ปริมณฑล ซึ่งจะได้รับทุนการศึกษาจำนวน 10,000 บาท โดยผู้ที่ได้รับรางวัลระดับภาค ยังมีสิทธิ์ได้รางวัลระดับประเทศ นอกจากนี้นิสิตนักศึกษาทุกคนที่ได้รับรางวัลทั้งในระดับประเทศ และระดับภาคยังจะได้เกียรติบัตรเป็นรายบุคคลด้วย
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ ฯ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงเป้าหมายของโครงการฯ ว่า “กระทรวงฯ จะเดินหน้าพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน เพื่อให้เด็ก เยาวชน ตลอดจนประชาชนในชุมชน สามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างประโยชน์ด้านการศึกษา การเพิ่มรายได้ ส่งเสริมการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย และในขณะเดียวกันศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนแต่ละแห่งก็สามารถพัฒนาตนเองด้วยการนำแผนการประชาสัมพันธ์ที่ได้จากกิจกรรมนี้ไปใช้เป็นต้นแบบในการจัดทำแผนการประชาสัมพันธ์ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนของตนให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางต่อไปได้”