กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--TK
- ยอมรับปีนี้เติบโตเพียง 15% ไม่ถึงเป้าหมาย 20% เพราะน้ำท่วมใหญ่
- เชื่อมั่น ตลาดและผู้ผลิตรถจักรยานยนต์จะกลับมาภายหลังน้ำท่วมใหญ่
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำการให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ตั้งเป้าลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์สุทธิในปีหน้าอย่างน้อย 10% ทั้งนี้เพราะบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์มีความพร้อมที่จะเดินหน้าสายการผลิตได้เต็มรูปแบบในปีหน้า ขณะเดียวกัน ลูกค้ารถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในปีนี้ ยังมีความจำเป็นต้องใช้รถจักรยานยนต์ จึงเป็นการกระตุ้นความต้องการโดยตรง
TK คาดทั้งปีโตประมาณ 15% โดยปรับลดจากเป้าหมาย เนื่องจากในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไตรมาสที่มียอดขายรถจักรยานยนต์สูงสุด ได้รับผลกระทบโดยตรงจากอุทกภัย ทำให้โรงงานรถจักรยานยนต์ปิดโรงงานชั่วคราวตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยเพิ่งเริ่มกลับมาทำการผลิตเป็นบางแห่งในปลายเดือนพฤศจิกายน ทาง TK มั่นใจว่าผลกระทบจากอุทกภัยจะส่งผลในระยะสั้น และคาดว่าในปี 55 เราจะกลับมาโตได้ดีอีกแน่นอน
“แต่ว่าอย่างที่ทราบกันดีว่าจากวิกฤติอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์ประเทศไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทำให้เราไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ ซึ่งปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากผู้บริโภค ทั้งที่ประสบภัยหรืออยู่ในสภาวะที่ระมัดระวังในการใช้จ่าย ทำให้กำลังซื้อลดลงในช่วงดังกล่าว และอีกปัจจัยหนึ่งคือภาคการผลิตก็มีปัญหา ไม่สามารถมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของพื้นที่ๆ ไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในส่วนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์เท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงสินค้าหลายๆ ตัวในตลาดด้วย” นางสาวปฐมากล่าว
นางสาวปฐมากล่าวว่า TK มีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าตลาดรถจักรยานยนต์รวมในปีหน้าจะยังคงเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 10% อย่างไรก็ดี จากการประเมินคุณภาพลูกหนี้ ของบริษัท คาดว่าถึงสิ้นปีจะได้รับผลกระทบบางส่วน จนไปถึงไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า
ในส่วนของปีหน้า บริษัทคาดว่าภาวการณ์ต่างๆ จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และจะกลับมาอยู่ในสถานะที่ขยายตัวต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถโตได้ไม่น้อยกว่าปี 2554 ที่คาดว่าจะโตได้อย่างน้อย 10%
ทั้งนี้เพราะความต้องการที่ชะงักงันในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จะส่งผลให้ปี 2555 มีความต้องการมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณสินค้าในตลาด ซึ่งปัจจุบันสินค้ามีการปรับราคาสูงขึ้นเนื่องจากสินค้าขาดตลาด
“นอกจากตลาดที่ยังคงมีความต้องการ นโยบายกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาลเช่นโครงการรับจำนำข้าว เป็นต้น ดังนั้น เมื่อนโยบายของรัฐบาลได้รับการเดินหน้าอย่างเต็มที่แล้ว เชื่อว่ากำลังซื้อจะกลับเข้ามา บวกกับความต้องการในการทดแทนรถคันเก่าที่เสียหายจากน้ำท่วม จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นกำลังซื้อ และ TK เตรียมรับพนักงานเพิ่มอีก 300 ตำแหน่ง เพื่อรองรับการเปิดสาขาเพิ่มอีก 5-6 สาขาในปีหน้า” นางสาวปฐมากล่าว
นางสาวปฐมากล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากฐานลูกค้าเดิม 2 ล้านรายของ TK ที่กลับมาซื้อเพิ่มแล้ว ทาง TK ยังมีรายชื่อลูกค้าเพิ่มเติมอีก 1 ล้านรายชื่อจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เซทเทเลม (ประเทศไทย) จำกัด จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ TK สามารถสร้างอัตราการเจริญเติบโตของ TK ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปีหน้า