กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--เวิรฟ
เมื่อย้อนไปในปี ค.ศ.1886 รถ “เบนซ์ เพเทนท์ มอเตอร์ คาร์” รถยนต์คันแรกของโลกได้ถูกประดิษฐ์ขึ้น ช่วยให้วิถีการดำเนินชีวิตในสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางที่ “รถยนต์” เข้ามามีบทบาทต่อการชีวิตประจำวันของคนมากขึ้น ตลอด 125 ปี หรือกว่าหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ในฐานะผู้นำแห่งโลกยานยนต์ ยังคงเดินหน้าคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง รูปลักษณ์ ดีไซน์ สมรรถนะ ตลอดจนเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งความก้าวหน้าทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกสบายและความเพลิดเพลินในการขับขี่มากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยปกป้องชีวิตของผู้ขับขี่ รวมถึงผู้ที่สัญจรไปมาบนท้องถนนได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ความสะดวกสบายของผู้ขับขี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญ เพราะความสะดวกสบายจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถโลดแล่นอยู่บนถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยด้วยแนวคิดที่ว่า “ผู้ขับขี่ที่รู้สึกผ่อนคลายเท่านั้นที่จะเป็นผู้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย” โดยเราคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่เป็นอันดับแรก เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องต่างๆ ในระหว่างการขับขี่ และมีสมาธิในการขับรถไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นการควบคุมสมรรถนะรถยนต์ การดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์ การควบคุมระบบปรับอากาศภายในรถ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อให้ง่ายต่อการขับขี่ และปัจจัยต่างๆ ที่สามารถช่วยสร้างความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้นให้แก่ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ ตลอดจนการช่วยเสริมให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น
การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ คือ การออกแบบฐานล้อยาว และระบบโครงสร้างตัวถังแบบเทลเลอร์เมดตามคอนเซ็ปต์ต่างๆ ที่ช่วยให้ทุกการขับขี่เป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยในปี ค.ศ.1931 นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการผสานการใช้งานระบบช่วงล่างแบบอิสระกับล้อทั้ง 4 ล้อ โดยทำงานร่วมกับแกนล้อ แบบ Swing axle ทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวล ผู้ขับขี่สามารถขับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขับระยะใกล้หรือไกล โดยเทคโนโลยีโครงสร้างช่วงล่างที่มีความโดดเด่นในยุคนั้นได้ถูกนำมาใช้ในเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น 170 ต่อมาในปี ค.ศ.1961 มีการนำระบบช่วงล่างแบบ Air suspension เข้ามาใช้ในรถเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น 300 SE ซึ่งระบบนี้ช่วยสร้างความสมดุลให้แก่การขับขี่ ด้วยการช่วยลดแรงสั่นสะเทือนอันเกิดจากสภาพพื้นผิวถนนที่ขรุขระ โดยเทคโนโลยีนี้ยังได้รับการพัฒนาและนำมาใช้กับโมเดลตัวท็อปอีกมากมาย อาทิ Prestigious 600 ซึ่งทำให้มาตรฐานความสะดวกสบายในยานยนต์รุดหน้าไปอีกขั้น
ในปี 1998 เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่อันเป็นที่กล่าวขวัญเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมยานยนต์ นั่นคือ ระบบ AIRMATIC หรือ Adaptive Intelligent Ride Control ซึ่งเป็นระบบที่บูรณาการการทำงานของช่วงล่างแบบ Air suspension เข้ากับระบบ ADS (Adaptive Damping System) ให้การควบคุมการเคลื่อนไหวของล้อแต่ละข้างเป็นไปอย่างอิสระ และยังสามารถปรับการทำงานตามสภาพการขับขี่บนพื้นผิวถนนในลักษณะต่างๆ รวมไปถึงสไตล์การขับขี่ พร้อมกันนี้ยังได้พัฒนาระบบ Intelligent Driver Assistance ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยเปลี่ยนรถยนต์ให้เป็นพาร์ทเนอร์คู่ใจ พร้อมที่จะลุยไปได้ในทุกสภาพของท้องถนน ด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ช่วยประมวลผลสภาพแวดล้อมระหว่างการขับขี่ ซึ่งนวัตกรรมนี้ช่วยสร้างสุนทรียภาพในการขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่อย่างแท้จริง โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงสภาพภายนอกว่าจะเป็นอย่างไร
ในปี ค.ศ.2003 ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการยานยนต์ถูกเขียนขึ้นอีกครั้งเมื่อ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้พัฒนาเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะโดยนำมาใช้กับรถยนต์นั่งโดยสารรุ่นต่างๆ มากมาย อาทิ E 500, S 430, S 500, CL 500 และ SL 500 V8 เป็นครั้งแรกของโลก โดยเทคโนโลยีนี้ ได้ยกระดับความสะดวกสบายสูงสุดในการควบคุมขณะขับขี่ ช่วยให้การทำงานประสานกับเครื่องยนต์เป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และล่าสุดในปี 2010 เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะนี้ก็ได้รับการพัฒนาให้เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ที่เรียกว่า 7G-TRONIC PLUS ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบเรียบและนุ่มนวลโดยนำมาใช้กับรุ่นท็อปโมเดลอย่าง CL-Class และ S-Class ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ BlueDIRECT ที่ช่วยประหยัดการใช้น้ำมันถึง 24% นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในขณะจอดรถอย่างระบบช่วยการนำรถเข้าจอด (Parking Assist System) ผ่านเซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจอดรถได้อย่างง่ายดายมากขึ้น โดยมีกล้องแสดงภาพจับภาพด้านหลังขณะถอยรถ และถ่ายทอดสัญญาณภาพให้ปรากฏบนจอแสดงผล (COMAND Display) ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสิ่งกีดขวางได้อย่างชัดเจน และสามารถกะระยะได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น S-Class ในปีค.ศ. 2005
นอกจากระบบและโครงสร้างต่างๆ ที่ช่วยให้การขับขี่และการควบคุมรถเป็นไปด้วยความสะดวกสบายแล้ว อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ คือ ห้องโดยสารที่กว้างขวาง โดยหลักสำคัญในการดีไซน์ห้องโดยสาร คือ การดีไซน์รถที่ปรับตัวเข้าหาความต้องการของผู้ใช้งาน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมให้ห้องโดยสารภายในมีสะดวกสบายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อาทิ การควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร โดยในปี ค.ศ.1977 เราได้เริ่มติดตั้งระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ (Automatic Climate Control) ในรุ่น S-Class ซึ่งระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติจะทำหน้าที่รักษาระดับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารตามที่ได้ปรับตั้งไว้ก่อนขับตลอดจนระหว่างการขับขี่ ซึ่งระบบจะช่วยควบคุมอุณหภูมิโดยที่ผู้ขับไม่ต้องทำการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิที่ตั้งไว้ในระหว่างการใช้งาน ทำให้ผู้ขับขี่มีสมาธิและสามารถขับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
สำหรับเบาะนั่งภายในรถยนต์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของความสบายที่จะละเลยไม่ได้ โดยผู้เชี่ยวชาญของเมอร์เซเดส-เบนซ์จะพิถีพิถันเลือกสรรวัสดุและการออกแบบที่คำนึงถึงความสบายของผู้โดยสารเป็นหลัก ดังนั้นดีไซน์ของเบาะนั่งจึงมีเป้าหมายหลักในการลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่โดยเฉพาะการขับรถทางไกล ซึ่งเบาะนั่งภายในรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถเลือกปรับพนักพิงหลังได้ตามความเหมาะสมกับรูปร่างและสรีระของผู้ใช้งาน และที่นั่งด้านหน้ายังสามารถเลือกปรับได้ถึง 12 แบบเพื่อความสบายที่เหนือชั้นของผู้ขับขี่ ไม่เพียงเท่านั้น การเข้าถึงระบบควบคุมด้วยปุ่มกดและสวิทช์ต่างๆ เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราพัฒนาให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้เรายังเป็นผู้สร้างเทรนด์การใช้เทคโนโลยีการควบคุมด้วยเสียง หรือ Linguatronic โดยนำมาใช้เป็นแบรนด์แรกในอุตสาหกรรม ยานยนต์
นวัตกรรมด้านความสะดวกสบายเป็นสิ่งที่นำพามาซึ่งความปลอดภัย โดย เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและคิดค้นอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้ “รถยนต์” เป็นมากกว่าพาหนะที่เคลื่อนที่ได้เพียงอย่างเดียว เพราะเราเชื่อว่า ความสะดวกสบายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เกิดความมั่นใจและสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด คมกริช, เยาวเรศ, ศิริพรโทรศัพท์ 02 614-8810-12
หรือ PR Agency เวิรฟ พรทิภา, เบญจพร โทรศัพท์ 02 204 8078, 02 204 8551