กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--คปภ.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ห่วงใยประชาชนเตือนตรวจสอบการทำประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ตลอดจนวันหมดอายุของการทำประกันภัยรถก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมอำนวยความสะดวกและให้บริการสอบถามข้อมูลรถทุกคันที่ทำประกันภัยทางสายด่วนประกันภัย 1186 ตลอดในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่าในวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัดและท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่ ใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง สำนักงาน คปภ.มีความห่วงใยผู้ใช้รถ จึงประสานสำนักงาน คปภ. และจังหวัด
เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้บริการปรึกษาปัญหาด้านการประกันภัยและเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลด้านการประกันภัยเพื่อให้ประชาชนสามารถโทรสอบถามข้อมูลการทำประกันภัยรถที่ได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยบริษัทประกันภัยสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงทีซึ่งประชาชนสามารถโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ฝากเตือนผู้ใช้รถควรขับรถด้วยความระมัดระวังอย่าลืมตรวจสอบการทำประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.และวันหมดอายุของการทำประกันภัยรถก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวเพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น การทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.)สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยและครอบครัวได้ที่สำคัญควรตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยเลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้ขอแนะนำให้ประชาชนทำประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางอุ่นใจซึ่งเป็นกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับการเดินทางในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ภายในประเทศ ที่ให้ความคุ้มครองการสูญเสียอวัยวะ สายตาทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง และค่ารักษาพยาบาล โดยมีอัตราเบี้ยประกันภัยขั้นต่ำเช่น จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 10,000 บาทระยะเวลาเดินทาง 1-14 วัน มีเบี้ยประกันภัยอยู่ระหว่าง 15 - 60 บาทส่วนการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศมีกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางที่ให้ผลประโยชน์ต่างๆ มากมายเช่น การเสียชีวิต ทุพพลภาพ ค่ารักษาพยาบาลความล่าช้าหรือสูญหายของกระเป๋าเดินทาง ความสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัวการพลาดการต่อเที่ยวบิน และค่าใช้จ่ายเมื่อการเดินทางหยุดชะงัก เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยจะจัดแผนความคุ้มครองแบบต่างๆให้ผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อตามความต้องการโดยเบี้ยประกันภัยจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ในแต่ละแบบ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 02-513-1680