กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
วิเคราะห์ราคาทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold — ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียช่วงเช้า จนหลุดแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,550 เหรียญ ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจ Pending Home Sales ออกมาดีกว่าที่คาด แม้ว่าตลาดจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่ตลาดไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ค่าเงิน EU/USD ในช่วงตลาด COMEX ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง สู่ระดับต่ำที่ 1.2860 EU/USD โดยประมาณ ทำให้เกิดแรงเทขายทองคำกดดันลงมา จนไปจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,522 เหรียญ และดีดขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,540 เหรียญ โดยที่ยังเป็นแรงคาดหวังว่า จะมีการพลิกฟื้นเศรษฐกิจยุโรปขึ้นมาบ้าง ทำให้ราคาที่เปิดตลาดเช้านี้ทะลุระดับ 1,550 เหรียญอีกครั้ง โดยขณะนี้ราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,558 เหรียญ ขึ้นมาทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,560 เหรียญ วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำขณะนี้เป็นลักษณะ Technical Rebound และเป็นการเด้งกลับขึ้นมาในระยะสั้นๆ โดยที่แนวต้านที่ระดับ 1,575 เหรียญ และ 1,590 เหรียญ ตามลำดับ ยังคงแนะนำให้ทำ Short Position ที่บริเวณแนวต้าน และเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนที่ยังเหลือสถานะ Long Position น่าจะปิด Long Position และเปิด Short Position เรายังวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำน่าจะลงไปทดสอบที่ระดับ 1,500 เหรียญ ยังมีอีกเยอะ และอาจจะหลุดระดับ 1,500 เหรียญ ลงมาได้ในรอบนี้ด้วยซ้ำ ซึ่งลักษณะทางเทคนิคเป็นการปรับฐานรอบใหญ่ น่าจะสิ้นสุดปลายเดือนมกราคม จะเข้าสู่ Bullish ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้น จึงแนะนำให้นักลงทุนทำ Short Position และแนะนำว่าให้นักลงทุนปรับตัวทำ Short Position และ Long Position ตามสภาพของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สรุป ราคาทองคำเป็น Technical Rebound ช่วงสั้นๆ เท่านั้น แล้วจะกลับตกลงมาใหม่
หมายเหตุ — บทวิเคราะห์ที่สมบูรณ์แนะนำให้อ่านทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ GOLD ANALYSIS, GOLD RECAP และ GOLD MARKET
คำแนะนำในการลงทุน Gold
Daily - เก็งกำไรในภาวะการณ์ดีดตัว โดยแกว่งในกรอบ 1,550- 1,570 เหรียญ แนะนำให้ขายก่อนในจังหวะที่ดีดขึ้น แล้วค่อยซื้อปิดสถานะกลับ ทำกำไรในทิศทางขาลง ยังไม่แนะนำให้เปิด Long Position
Weekly - เมื่อวานคงทำกำไรไปแล้วบ้างบางส่วน ยังแนะนำให้เปิด Short Position ต่อโดยมี Short Position อยู่ประมาณ 50-60%
Monthly - ยังไม่มีจังหวะในการเข้าช้อนซื้อ เมื่อวานอาจเข้าซื้อบ้าง โดยที่ถ้าทำกำไรได้ให้ทำกำไรออกไป พอร์ทอยู่ที่ 10% เข้าช้อนซื้อตามจังหวะ
MORNING RECAP
ราคาทองคำในเวลาซื้อขายในประเทศ เปิดตลาดช่วงเช้า ณ ระดับ 1,554 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Z11 เปิด ณ ระดับ 23,400 บาท Gold Futures G12 เปิด ณ ระดับ 23,800 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิด ณ ระดับ 23,350 บาท
ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ อยู่ในช่วงระดับ 1,543 — 1,557 เหรียญ โดยเคลื่อนตัวสู่ระดับสูงสุดในช่วงเช้า ณ ระดับ 1,557 เหรียญ ก่อนจะเคลื่อนตัวสู่ระดับต่ำสุด ณ ระดับ 1,543 ในช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย และปิดตลาดภาคบ่าย ณ ระดับ 1,549 เหรียญ
NIGHT RECAP
ราคาทองคำในเวลาซื้อขายในประเทศ เปิดตลาดช่วงค่ำ ณ ระดับ 1,528 เหรียญ Gold Futures G12 เปิด ณ ระดับ 23,560 Gold Futures J12 เปิด ณ ระดับ 24,050 บาท
ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบอยู่ในช่วงระดับ 1,524-1537 เหรียญ โดยในช่วงภาคค่ำราคาทองคำเคลื่อนตัวสู่ระดับต่ำสุด ณ ระดับ 1,524 เหรียญ ก่อนเคลื่อนตัวสู่ระดับสูงสุด 1,537 เหรียญ และทำการปิดตลาดภาคค่ำ ณ ระดับ 1,535 เหรียญ
สรุป ราคาทองคำแกว่งตัวในทิศทางลบ โดยราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากทางฝั่งยุโรปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับแรงกดดันจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของอิตาลีอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ณ ระดับ 92.5 อีกทั้งผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีที่สามารถขายได้เพียง 7พันล้านยูโร (จาก8.5พันล้านยูโร) รวมถึงตัวเลข Pending Home Sales ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ณ ระดับ 7.3% จากคาดการณ์ ณ ระดับ 1.7%
ข่าวที่สำคัญ
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 15,000 ราย มาอยู่ที่ 381,000 ราย โดยถึงแม้ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ แต่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 400,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณบวกที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงกำลังฟื้นตัวขึ้น
อิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ 7 พันล้านยูโร โดยให้อัตราผลตอบแทน 6.98% ปรับตัวลดลงจากระดับ 7.56% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปี ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.62% ลดลงจากระดับ 7.89%
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในภาคการผลิตร่วงแตะ 92.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 จากระดับ 94 ในเดือนพฤศจิกายน และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ในช่วง 93.6-93.8
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีโอกาสลดดอกเบี้ยลงอีกในช่วงต้นปีหน้า หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาคมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ภาวะสินเชื่อตึงตัว โดยอีซีบีรายงานว่า อัตราการขยายตัวของการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคเอกชนชะลอตัวสู่ระดับ 1.7% ในเดือน พ.ย. จากระดับ 2.7% ในเดือน ต.ค. ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานข้อมูลเบื้องต้นว่า ราคาผู้บริโภคของเยอรมนีลดลงสู่ระดับ 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในเดือน ธ.ค. จากระดับ 2.4% ในเดือน พ.ย. ข้อมูลเงินเฟ้อจากเยอรมนีถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากอีซีบีจะนำมาใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจว่าจะลดดอกเบี้ยลงหรือไม่ ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มสูงขึ้นว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนอาจกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย