กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--ก.ไอซีที
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ปัจจุบันในเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้มีการนำพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ มาดัดแปลง ตัดต่อ รวมถึงแสดงข้อความ หรือความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสม มีลักษณะหมิ่นสถาบันฯ ตามเว็บไซต์ เฟสบุก หรือ ทวิตเตอร์ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่กระทบต่อจิตใจของประชาชนชาวไทย และสร้างความแตกแยกในสังคม โดยการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได้
ดังนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นสื่อออนไลน์ เว็บไซต์ หรือเฟสบุก ที่มีภาพหรือมีการแสดงข้อความอันมีลักษณะดูหมิ่น หรือไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โปรดอย่ากด “ถูกใจ” (like) “แบ่งปัน” (shared) หรือ “แสดงความคิดเห็น” (comment) ไม่ว่าจะเป็นการตำหนิ ตอบโต้ในรูปแบบใดก็ตาม เพราะการกระทำดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นโดยความตั้งใจ หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เหล่านั้น ล้วนแต่เป็นการสร้างความแตกแยกในสังคมให้มากขึ้น และยังเป็นการบ่อนทำลายความสามัคคีของคนในชาติ นอกจากนั้นยังเป็นการทำให้ภาพหรือข้อความอันไม่เหมาะสม แพร่กระจายเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน หากมีการพบเห็นเว็บไซต์ เฟสบุค ทวิตเตอร์ หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ เผยแพร่ภาพ หรือมีข้อความหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้ผู้พบเห็น หรือรู้สึกว่าไม่ถูกต้องตามจารีตประเพณีอันดีงาม ก็อย่าได้ด่วนแสดงความคิดเห็นตำหนิติเตียน ตอบโต้ เนื่องจากเว็บไซต์ เฟสบุค ทวิตเตอร์ สื่อออนไลน์อื่นๆ นั้น อาจเกิดจากการที่กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีแอบอ้างใช้ภาพ รวมทั้งข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นมาปลอมแปลงในลักษณะที่เรียกว่า Impersonation ซึ่งเป็นภัยออนไลน์ที่เกิดจากการที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ปลอมเพื่อหลอกลวงให้ผู้อื่นเชื่อว่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ดังกล่าวเป็นของบุคคลผู้นั้น การแสดงความคิดเห็นตอบโต้หรือตำหนิ จึงอาจเป็นการให้ร้ายตำหนิผู้บริสุทธิ์และสร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่ผู้ถูกแอบอ้าง รวมถึงอาจทำให้ความเป็นธรรมในสังคมเสื่อมลง ดังนั้น ผู้พบเห็นจึงควรพิจารณาและต้องตระหนักอย่างรอบคอบ
หากประชาชนผู้ใดพบเจอเว็บไซต์ หรือสื่อออนไลน์ที่มีลักษณะดังกล่าวโปรดแจ้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์ 1212 หรือ อีเมล์ 1212@mict.mail.go.th เพื่อดำเนินคดีหรือยุติการเผยแพร่ตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่ถูกกระทำ Impersonation ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ควรดำเนินการเก็บรวบรวมหลักฐานเมื่อทราบว่ามีผู้กระทำ Impersonation โดยแอบอ้างชื่อเรา และควรจะแจ้งให้ผู้ใช้อื่นที่ติดตามเราในเครือข่ายทราบว่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ดังกล่าวไม่ใช่ตัวตนของเราพร้อมแจ้งให้ทราบว่าการสนทนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการสนทนาของเราด้วย
จากนั้นดำเนินการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เช่น สำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และให้หน่วยงานดังกล่าวดำเนินการออกหนังสือในการยื่นคำร้องขอ IP Address จากทางบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อเป็นหนึ่งในหลักฐานในการสืบหาตัวผู้กระทำผิดและเป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป