กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--ปตท.
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ในสื่อต่างๆ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้มีการพาดพิง ปตท. ในประเด็นสินบนการซื้อขายน้ำมันกับประเทศอิรักผ่านโครงการน้ำมันแลกอาหาร (Oil For Food) ขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN นั้น ปตท. ขอยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับสินบนตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้ การจัดซื้อน้ำมันดิบจากประเทศอิรักผ่านโครงการ Oil For Food นั้น เป็นไปด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ และเป็นไปตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ปตท. ได้รับอนุมัติจาก UN ในการเข้าจดทะเบียนเป็นผู้ค้า อีกทั้ง การชำระเงินค่าน้ำมันดิบดังกล่าว ปตท. ก็ได้ทำการชำระเงินผ่านธนาคาร BANQUE NATIONALE DE PARIS, S.A. (BNP), NEW YORK BRANCH ภายใต้ชื่อบัญชี UN
“ระบบการค้าระหว่างประเทศของ ปตท. มีขั้นตอนและการกำกับดูแลที่ชัดเจน โดยการจ่ายเงินจะเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาที่มีกับคู่ค้าเท่านั้น ซึ่งสัญญาดังกล่าวก็เป็นสัญญาที่ผ่านการตรวจสอบและอนุมัติโดย UN จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ ปตท. จะสามารถจ่ายเงินสินบนออกไปหรือทำการชำระเงินโดยไม่มีใบเสร็จ โดยระบบการทำงานของ ปตท. นั้นมีกลไกในการตรวจสอบจากทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกอยู่แล้ว” นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับการซื้อน้ำมันดิบจากอิรักตามโครงการดังกล่าวนั้น ปตท. ได้รับแจ้งจาก UN เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2542 ว่า อนุมัติให้ ปตท. ในฐานะบริษัทน้ำมันแห่งชาติของไทยจดทะเบียนเป็นผู้ค้าน้ำมัน ในโครงการ Oil For Food ของ UN ตามหมายเลข S / AC.25 / 1999 / OIL / HUM.986 / COMM.101 หลังจากนั้น ปตท. ได้ติดต่อไปยังบริษัทน้ำมันแห่งชาติอิรัก (S.O.M.O.) เพื่อขอซื้อน้ำมันดิบ โดยระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2542 — 8 มิถุนายน 2543 ทาง S.O.M.O. ได้จัดสรรน้ำมันดิบ BASRAH LIGHT ให้ ปตท. จำนวน 1 ล้านบาร์เรล และระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน 2543 — 5 ธันวาคม 2543 ปตท. ได้รับจัดสรรน้ำมันดิบอีก 2 ล้านบาร์เรล รวมน้ำมันที่ ปตท. ได้รับการจัดสรรผ่านโครงการ Oil For Food ทั้งสิ้น 3 ล้านบาร์เรล จากปริมาณน้ำมันดิบที่ได้รับการจัดสรรตามโครงการฯ ทั้งหมด 3,427 ล้านบาร์เรล--จบ--