กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--ตลท.
ตลท.รับหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จำนวน 7,000 ล้านหน่วย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้ชื่อย่อ VAYU1
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลท. ได้อนุมัติรับกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จำนวน 7,000 ล้านหน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 10 บาท รวม 70,000 ล้านบาท เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และเริ่มซื้อขายในหมวดหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 เป็นต้นไป โดยใช้ชื่อย่อว่า "VAYU1" ภายหลังจากที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหน่วยลงทุนในระหว่างวันที่ 11 - 24 พ.ย. 2546 โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารกองทุนร่วมกัน
"การเข้าจดทะเบียนของหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง นับเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้จองซื้อหน่วยลงทุนวายุภักษ์ในช่วงที่เปิดจำหน่ายครั้งแรก หรือผู้ที่สนใจที่จะลงทุนเพิ่มได้มีโอกาสซื้อผ่านตลท. ได้ นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนมือ ก็สามารถนำหน่วยลงทุนมาขายผ่านตลท. ได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจะซื้อขายหน่วยลงทุน สามารถติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นสามัญ โดยมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่ร้อยละ 0.1 ของมูลค่าการซื้อขายในแต่ละครั้ง" นางสาวโสภาวดีกล่าว
กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นกองทุนประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนก่อนสิ้นอายุโครงการคือ 10 ปี โดยหน่วยลงทุนประเภท ก. จำนวน 7,000 ล้านหน่วยที่เข้ามาจดทะเบียน เป็นหน่วยลงทุนที่ถือโดยประชาชนและผู้ลงทุนสถาบันทั่วไป คิดเป็น 2 ใน 3 ของกองทุน (ส่วนที่เหลือ 3,000 ล้านหน่วยเป็นหน่วยลงทุนประเภท ข. ถือครองโดยกระทรวงการคลัง) โดย ณ วันที่ 4 ธ.ค. 46 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของกองทุนคือ ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุน 28.31% ของมูลค่าโครงการ
VAYU1 มีนโยบายคุ้มครองเงินลงทุนและอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ โดยผู้ที่ถือหน่วยลงทุนตั้งแต่เริ่มต้นจนครบอายุโครงการ 10 ปี จะได้รับเงินคืน ณ วันที่สิ้นสุดโครงการเท่ากับ มูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่สิ้นสุดอายุโครงการ หรือไม่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ บวกอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปี ตลอดอายุโครงการ ดังนั้น ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. ที่ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนในตลาดรองและถือจนครบอายุโครงการ จะได้รับผลตอบแทนเท่ากับมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันสิ้นสุดโครงการ พร้อมเงินปันผลในช่วงถือครองหน่วยลงทุนจนถึงสิ้นสุดโครงการ และถ้าได้รับผลตอบแทนรวมเฉลี่ยน้อยกว่าร้อยละ 3 ต่อปี จะได้รับเงินชดเชยให้เทียบเท่าอัตราเฉลี่ยร้อยละ 3 ในกรณีที่ผู้ลงทุนขายหน่วยลงทุนก่อนครบอายุ 10 ปี จะได้รับผลตอบแทนตามมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ขาย (หักด้วยค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์)
กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของรัฐบาล ได้แก่ หลักทรัพย์ของสถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจ และกิจการที่กระทรวงการคลังถือครอง รวมไปถึงรัฐวิสาหกิจที่จะแปรสภาพหุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิเรียกร้องของรัฐที่มอบให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินลงทุนไปก่อน หุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิ หรือสิทธิเรียกร้องอื่นใดที่กระทรวงการคลังอาจมีในอนาคต และยังสามารถลงทุนในตราสารทางการเงินของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินอื่นที่เหมาะสม รวมทั้งการเปิดบัญชีเงินฝากกับสถาบันการเงินด้วย ทั้งนี้ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ในกรณีที่ กองทุนมีกำไรสุทธิ และ/หรือกำไรสะสม และ/หรือกำไรจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized gain on investment) และ/หรือ เงินสำรองเงินปันผล
ผู้ลงทุนสามารถติดตามมูลค่าหน่วยลงทุนกองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) ได้จากการประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(net asset value-NAV) ทางหน้าหนังสือพิมพ์รายวันทุกวันจันทร์ หรือทางเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th เว็บไซต์บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม www.settrade.com เว็บไซต์บริษัทหลักทรัพย์จัดการ กองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) www.ktam.co.th และเว็บไซต์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) www.mfcfund.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2670-4999 หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2661-9000 ต่อ 555 หรือ 0-2661-9090
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 / รุ่งรัชนี อริยภิญโญ โทร.0-2229-2659 กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 / ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--
-สพ-