กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น
พีดีเฮ้าส์ สารภาพเหตุอุทกภัยใหญ่ทำยอดขายปีที่แล้วหลุดเป้าพันล้าน แต่ยังเติบโตกว่าปี 53 ที่มียอดขายรวม 470 ล้านบาท ขณะที่ปี 2554 มียอดขาย 700 ล้านบาทเศษ หรือเพิ่มขึ้น 49% เผยแผนการตลาดปี 55 ลุยปักธงอีก 10 สาขาทั่วทุกภูมิภาค อาทิ เชียงราย มหาสารคาม จันทบุรี ราชบุรี กระบี่ ฯลฯ โดยมีทั้งลงทุนเองและขายแฟรนไชส์หวังกวาดยอดขาย 1,200-1,400 ล้านบาท จากสาขาทั่วประเทศ 36 สาขา มองแนวโน้มปี 55 ตลาดรับสร้างบ้านกทม.และปริมณฑลครึ่งปีแรกชะลอตัว เร่งปรับกลยุทธ์การตลาดเจาะกำลังซื้อตลาดตจว. พร้อมอัดงบโฆษณา 30 ล้านบาท หวังสร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปี 2554 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทในเครือและแฟรนไชส์ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใหญ่ในช่วง 4 เดือนสุดท้าย ส่งผลให้ยอดขายโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายหดตัว โดยปีที่แล้วจากเดิมมีแผนจะเปิดสาขาให้ครบ 28 สาขา และตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ประมาณ 1,000 บาท แต่ปรากฏว่าสามารถเปิดสาขาอย่างเป็นทางการได้ 26 สาขาและทำยอดขายรวมได้เพียง 700 ล้านบาทเศษ แต่ก็ยังถือว่ามียอดขายเติบโตได้ถึง 49% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่มียอดขายรวมเพียง 470 ล้านบาทเศษเท่านั้น
สำหรับแผนการตลาดของบริษัทฯ ปีนี้จะยังเน้นการขยายโอกาสสู่ตลาดใหม่ๆ ด้วยการเร่งขยายสาขาออกไปยังภูมิภาคหรือต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงกำลังซื้อหรือความต้องการสร้างบ้านที่มีอยู่ทั่วประเทศให้มากที่สุด ทั้งนี้จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 10 สาขา โดยมีจังหวัดเป้าหมายได้แก่ เชียงราย มหาสารคาม ศรีษะเกษ นครราชสีมา (ปากช่อง) สมุทรปราการ ราชบุรี จันทบุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช กระบี่หรือตรัง ฯลฯ ซึ่งการขยายสาขาจะมีทั้งรูปแบบการลงทุนเองและการขายแฟรนไชส์
ทั้งนี้หากเป็นไปตามแผนการตลาดที่วางไว้ ในปี 2555 บริษัทฯ จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 36 สาขา ครอบคลุมการให้บริการรับสร้างบ้านได้เกือบ 50 จังหวัดทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะมียอดขายเฉลี่ยสาขาละ 30-40 ล้านบาทเศษ หรือมียอดขายรวมทุกสาขาประมาณ1,200-1,4000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตัวเลขยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาที่ตั้งไว้ ยังมีโอกาสที่จะทำยอดขายต่อสาขาได้สูงกว่า หากว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยสามารถเติบโตอยู่ที่ประมาณ 4-4.5% ตามที่หลายๆ หน่วยงานคาดการณ์ไว้ และไม่มีภัยธรรมชาติรุนแรงเกิดขึ้นอีกในปีนี้
นายพิศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เตรียมงบการตลาดในส่วนของโฆษณาประชาสัมพันธ์ไว้ 30 ล้านบาท หรือประมาณ 2.5-3% ของยอดขายปีนี้ สำหรับสร้างการรับรู้แบรนด์ “พีดีเฮ้าส์” ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับทั่วประเทศมากขึ้น ทั้งนี้งบดังกล่าวมาจากระบบบริหารการตลาดแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ โดยจัดสรรเป็นงบการตลาดส่วนกลาง 25 ล้านบาท (Corporate Marketing) และงบการตลาดท้องถิ่นอีก 5 ล้านบาท (Local store Marketing) โดยปีนี้จะยังเน้นใช้งบโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก หรือประมาณ 42% รองลงมาเป็นเคเบิ้ลทีวีและทีวีดาวเทียม 25% สื่อโซเชียลมีเดีย บิลบอร์ดหรือป้าย อีเว้นต์ และวิทยุท้องถิ่น ฯลฯ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถช่วยให้ พีดีเฮ้าส์ เป็นที่รับรู้และเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้างมากขึ้น ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดและทั่วประเทศ