L.P.N. เตรียมแตกพาร์และเพิ่มทุน รองรับการขยายงานในปี 47 แจงผลประกอบการปี 46 กำไรเพิ่มขึ้น 185% รายได้รวมเกือบ 2 พันล้าน

ข่าวทั่วไป Thursday February 26, 2004 15:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์
L.P.N. เตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแตกพาร์และเพิ่มทุนจดทะเบียน รองรับการดำเนินงานที่ ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในปี 2547 โดยเฉพาะการพัฒนาอาคารชุดมูลค่ารวมกว่า 5 พันล้าน จำนวน 8 โครงการ ด้านผลประกอบการปี 2546 ตัวเลขไปได้สวยเกินคาด รายได้รวมเพิ่มจากปีก่อนเกือบเท่าตัว กำไรสุทธิสูงขึ้นกว่า 180% ด้านกระแสเงินสดคงเหลือขยับตัวสูงขึ้น เป็นผลมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจำนวน 5 โครงการได้เรียบร้อยก่อนสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ
นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2547 ว่า คณะกรรมการบริษัทจะนำเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาวาระที่เกี่ยวกับการแตกพาร์และเพิ่มทุน ได้แก่
1) การจ่ายเงินปันผลในอัตรา 2.50 บาทต่อหุ้น (พาร์ 10 บาท)
2) การลดมูลค่าหุ้น (พาร์) จากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 1 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์ และ 3) การเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการออกหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 4 หุ้นเดิมได้สิทธิ์ซื้อหุ้นใหม่จำนวน 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2 บาท (หลังลดมูลค่าหุ้นเหลือ 1 บาทแล้ว) เป็นผลให้ได้เม็ดเงินจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ประมาณ 470 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำไปใช้ในการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ และการลงทุนเพิ่มในบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด
ทั้งนี้ กรรมการผู้จัดการได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงผลประกอบการปี 2546 ของบริษัท บริษัทย่อย และบริษัทร่วม ว่า มีรายได้รวมคิดเป็น 1,943.58 เพิ่มขึ้นร้อยละ 81.44 จากงวดเดียวกันของปี 2545 ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 464.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 185.12 เทียบกับปีก่อนหน้าที่มีผลกำไรอยู่ที่ 162.97 ล้านบาท โดยยอดขายและกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ สามารถโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด พักอาศัยจำนวน 5 โครงการ รวม 1,757 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 1,755 ล้านบาท ได้ทั้งหมดภายในปี 2546 รวมถึงยังสามารถควบคุมงานก่อสร้างโครงการลุมพินี เพลส นราธิวาส 24 ให้เสร็จก่อนกำหนด 1 เดือน เพื่อให้ลูกค้าสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันภายในเดือนธันวาคมก่อนการสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐบาล อีกทั้ง จากการที่บริษัทฯ สามารถบริหารและควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการขาย การเช่า และบริการ มีผลประกอบการดีขึ้นจากร้อยละ 22.07 ของไตรมาส 4 ปี 2545 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 33.93 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.86 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2546 ส่งผลให้มีเงินสดสุทธิ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2546 จำนวน 333.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ร้อยละ 13.95
ทั้งนี้ เมื่อต้นปี 2547 บริษัทฯ ได้เปิดตัว 2 โครงการใหม่ คือ โครงการลุมพินี วิลล์ รัชดา-ลาดพร้าว และโครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ สุขุมวิท 77 มูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยขณะนี้ได้มียอดจองแล้วประมาณร้อยละ 90 และ 30 ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 นอกจากนั้น ราวกลางเดือนมีนาคม 2547 บริษัทฯ คาดว่าจะเปิดขายโครงการใหม่อีก 1-2 โครงการ มูลค่าประมาณ 500-1,000 ล้านบาท
วิจิตร อวิรุทธิ์
แผนกประชาสัมพันธ์ โทร. 02-285-5011-6 ต่อ 500--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ