Movieปัญญาเรณู 2

ข่าวบันเทิง Friday January 6, 2012 15:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม กำหนดฉาย : 26 มกราคม 2555 แนว : คอเมดี้-ม่วนซื่น นำแสดง : ด.ช.โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี, ด.ญ.สุธิดา หงษา, หม่ำ จ๊กมก, สุดารัตน์ บุตรพรม (ตุ๊กกี้ ชิงร้อย), ด.ญ.ธฤศวรรณ กาหาวงษ์, ด.ช.พงษ์สิทธิ์ นาเวียง, ด.ช.บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว, หยอง ลูกหยี, สายสิน วงษ์คำเหลา กำกับ : บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ บทภาพยนตร์ : บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กลับมาแล้วเด้อ...อออออ "บักปัญญา" กับ "อีเรณู" พร้อมหมู่เพื่อนครบทีม กลับมาสร้างความม่วนซื่นชื่นบานยกกำลังสองกันอีกครั้งกับ ภาพยนตร์คุณภาพที่ร่วมผนึกกำลังสร้างสรรค์โดย "สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล", "หัวฟิล์ม ท้ายฟิล์ม" และ "บิณฑ์ บูม บิสซิเนส" จัดเต็มความสนุกสุดหรรษาโดยผู้กำกับ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ครบเครื่องเรื่องร้องเล่นเต้นลั้ลลาครบทีมนักแสดงเล็กพริกขี้หนูจากภาคแรก "น้องน้ำขิง - ด.ญ.สุธิดา หงษา", "น้องทิว - ด.ช.โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี", "น้องมิว - ด.ญ.ธฤศวรรณ กาหาวงษ์", "น้องแซก - ด.ช.พงษ์สิทธิ์ นาเวียง" "น้องเปเล่ - ด.ช.บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว" ฯลฯ เพิ่มสีสันความฮาเฮให้กับภาคต่อนี้แบบไม่ยั้งกับสองนักแสดงตลกซุป’ตาร์ "หม่ำ จ๊กม๊ก" และ "ตุ๊กกี้ สามช่า - สุดารัตน์ บุตรพรม" กับการสานต่อเรื่องรักวุ่น ๆ ของรุ่นเล็กจากภาคแรกให้ทวีความสนุกสนานใสซื่อยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อปัญญาและเรณูพร้อมหมู่เพื่อนเกิดจับพลัดจับผลูต้องมาอลเวงเรื่องรัก และผจญภัยชีวิตวัยเด็กที่กรุงเทพฯ อย่างไม่คาดฝัน... พร้อมส่งความสุขเรียกเสียงฮา... 26 มกราคม 2555 แน่นอน เรื่องย่อ หลังเหตุการณ์ทั้งดีและร้ายในภาคแรกได้ผ่านพ้นไป และถึงแม้ "วงโปงลางหนหวย" ที่ "ปัญญา" (โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี) และ "เรณู" (สุธิดา หงษา) เป็นสมาชิกอยู่จะไม่ได้เข้าแข่งขันในระดับจังหวัดก็ตาม แต่ทั้งคู่และหมู่เพื่อนก็กลับมาใช้ชีวิตในวัยเด็ก ณ หมู่บ้านโคกสะอาด อย่างสนุกสนานเช่นเคย แต่เรื่องรักวุ่น ๆ ของรุ่นเล็กก็ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อเรณูอยากจะใกล้ชิดกับปัญญาให้มากขึ้น...อีกนิดนึง แผนการเอาชนะใจปัญญาจึงเริ่มต้นขึ้น โดยมี "อภัสรา" (ตุ๊กกี้ สามช่า) อดีตสาวรำวงผู้มั่นใจในความสวยของตนเอง มาเป็นกุนซือคอยช่วยเหลือทุกจังหวะ "ตื๊อสุดติ่งชิงใจเธอ" ไม่ว่าปัญญาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน เรณูและอภัสราจะต้องเข้าไปสร้างความปั่นป่วนกวนใจปัญญาทุกครั้งไป ด้านปัญญานั้นก็มี "บักจอบ" (บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว) เพื่อนสนิทช่างจ้อ และ "พี่กิ๋ง " (หม่ำ จ๊กมก) หนุ่มรุ่นพี่ปากร้ายใจดีมาเป็นตัวช่วยกันท่าเว้นวรรคสองสาวให้ห่างจากปัญญาเช่นกัน จากเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้อภัสราได้พบกับพี่กิ๋งอยู่บ่อย ๆ แต่ด้วยความไม่กินเส้นทำให้ต้องปะทะคารมกันทุกครั้งที่เจอ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตลอดเวลา แต่นานวันเข้าจังหวะหัวใจกลับเต้นไม่เหมือนเดิม เอาล่ะสิ จังซี่มันต้องถอน... เรื่องรักวุ่น ๆ ที่บ้านนาดูเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี ก็ดันมีเหตุให้ว้าวุ่นหัวใจเมื่อ "มิว" (ธฤศวรรณ กาหาวงษ์) และ "กี่" (พงษ์สิทธิ์ นาเวียง) เพื่อนจากเมืองกรุงที่เคยช่วยปัญญาและเรณูไว้ ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากปัญญาและเรณูให้เข้าร่วมแข่งขันร้องเพลงที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน งานนี้ทำเอาเรณูเกิดอาการหวงปัญญาขึ้นมาทันควัน เมื่อเห็นมิวกับปัญญาสนิทกันเกินหน้าเกินตา เมื่อปัญญาและเรณูพร้อมหมู่เพื่อนตกลงปลงใจจะเข้าร่วมการแข่งขัน ทุกคนต่างก็ตั้งใจฝึกซ้อมโดยมีอภัสราผู้มากทักษะทางการเต้นคอยช่วยฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และแล้วเวลาสำคัญก็มาถึง เมื่อทีมของปัญญาและเรณูเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปแข่งขัน แต่ระหว่างทางปัญญาเกิดหายตัวไปอย่างไม่คาดฝัน ทำให้ทั้งทีมต้องกังวลกับการหายตัวไปของปัญญา โดยเฉพาะเรณูที่เอาแต่เป็นห่วงปัญญาจนไม่มีสมาธิในการแข่งขันครั้งนี้แล้ว... เรื่องราวจะจบลงเช่นไร อภัสราและเรณูจะแก้ไขสถานการณ์นี้ยังไง ปัญญาจะกลับมาทันการแข่งขันหรือไม่ รักวุ่น ๆ ของรุ่นเล็กจะอลเวงแค่ไหน... เอาใจช่วยปัญญากับเรณูพร้อมหมู่เพื่อนด้วยเด้อจ้า ไผเป็นไผ บักปัญญา (น้องทิว - โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี) หนุ่มน้อยคนซื่อ ร้องเพลงเพราะ รักเพื่อน มีน้ำใจงาม คอยช่วยเหลือเพื่อนทุกคนที่มีปัญหาอยู่เสมอ แต่บนโลกที่โหดร้ายทำให้บางครั้งความมีน้ำใจดีของปัญญากลับนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตัวเขาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และแน่นอน ปัญญายังคงเป็นหนุ่มที่เรณูหมายตาพร้อมจะมอบหัวใจให้เพียงคนเดียว "เรื่องนี้ผมยังรับบทเป็น ปัญญา ครับ เป็นเด็กซื่อ ๆ นิสัยดี ขี้อาย มีเรณูมาแอบชอบผมครับ และก็มีมิวเพื่อนผู้หญิงจากกรุงเทพฯ ไม่ได้คิดอะไรกับเรา แต่เรณูก็หึงผมครับ ในแก๊งผมก็จะมีจอบกับแหว่งเป็นเพื่อนซี้ครับ จะชอบกันเรณูไม่ให้มาจู้จี้กับผมครับ เล่นเรื่องนี้ก็ไม่ค่อยยากครับ เพราะภาคแรกผมก็เคยเล่นมาแล้ว แต่สัมภาษณ์นี่สิครับยากกว่า พูดไม่ค่อยได้เท่าไหร่ครับ (หัวเราะ) ก็อยากให้มาเบิ่งหนังเรื่องนี้นะครับ เพราะมันก็ม่วนกว่าภาคแรกครับ ภาคนี้มีลุงหม่ำกับพี่ตุ๊กกี้มาเล่นนำครับ ม่วนหลายครับ เบิ่งภาคแรกแล้วก็มาเบิ่งภาคสองครับ อย่าลืมนะครับ" อีเรณู (น้องน้ำขิง - สุธิดา หงษา) สาวน้อยสุดก๋ากั่น แสนมั่นใจ ใสแซบเว่อร์ ร้องเล่นเต้นระเบิดไม่แพ้สาวใดในโลกหล้า เธอยังคงแอบรักปัญญาอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ยิ่งภาคนี้ได้สาวอภัสรามาเป็นคู่หูพี่เลี้ยง ยิ่งทำให้เธอได้แสดงแสนยานุภาพความโดดเด้งที่สุดแห่งบ้านโคกสะอาดแทบทะลุจอกันเลยทีเดียว "เรณูก็ยังเป็นเด็กแก่นแก้วเหมือนเดิมค่ะ แต่มาภาคนี้ก็จะแก่นแก้วมากขึ้น และก็ยังแอบหลงรักปัญญาอยู่เหมือนเดิม รักไม่มีวันเปลี่ยนแปลงค่ะ แล้วก็มีคู่หูเพิ่มขึ้นมา ก็คือพี่ตุ๊กกี้ที่เล่นเป็นอภัสรา ก็จะคอยแกล้งคนนั้นคนนี้โดยเฉพาะไอ้จอบที่ชอบกันปัญญาให้ออกห่างจากหนู ซึ่งหนูก็จะไม่ยอม หนูจะสู้ทุกอย่างค่ะ ภาคนี้หนูก็ยังทั้งร้องทั้งเต้นหลายเพลงค่ะ เพราะๆ ทุกเพลงทั้งเพลงช้าเพลงเร็วเลยค่ะ เสน่ห์ของภาคนี้ก็จะมีมากขึ้นเพราะว่ามีพี่ตุ๊กกี้กะลุงหม่ำมาช่วยให้ความฮาค่ะ แล้วหนังก็สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยค่ะ สนุกมากแน่นอน จะฮาก็ฮามาก จะเศร้าก็เศร้ามากค่ะ" พี่กิ๋ง (หม่ำ จ๊กมก) ชายหนุ่มผู้เคยขี่รถแมงกะไซค์ผ่านทางไปส่งปัญญาในภาคแรก ในภาคนี้เขาก็ได้ย้ายเข้าอยู่ในหมู่บ้านโคกสะอาดนี้ด้วย ประกอบอาชีพเผาถ่าน เป็นเพื่อนคู่หูรุ่นพี่ที่ได้สอนอะไรหลายๆ อย่างให้กับปัญญา พี่กิ๋งเป็นคนปากร้ายใจดี รวมทั้งเป็นคนปากหนักแอบชอบอภัสราแต่กลับชอบชวนทะเลาะทุกครั้งที่เจอกัน "ภาคนี้พี่บิณฑ์ก็เรียกตัวผมกับตุ๊กกี้ให้มาช่วยเล่นด้วย ปกติผมก็สนิทกับพี่บิณฑ์อยู่แล้ว ก็โอเคเลย ทำงานกันสบายๆ ไม่เครียด ในเรื่องผมก็เล่นเป็น "พี่กิ๋ง" เป็นคนในหมู่บ้านที่สนิทกับปัญญา จริง ๆ ภาคแรกก็โผล่มาแวบนึง ทีนี้ในภาค 2 กลับมาเต็ม ๆ เลย แล้วก็เข้ามาพัวพันกับตุ๊กกี้ที่เล่นเป็น "อภัสรา" คู่หูของเรณู ทีนี้ต่างคนก็แอบชอบกันนะแต่ไม่แสดงออก พอมาเจอกันก็จะพูดจากัดกัน แต่ในใจลึก ๆ น่ะรักกัน แต่เล่นตัวกัน เพราะรุ่นใหญ่ไงต้องวางฟอร์มบ้าง ก็เลยเกิดเป็นความสนุกขึ้น ได้ปะทะคารมและความฮากัน รับรองม่วนหลาย เล่นเรื่องนี้ก็ชอบครับเพราะได้พูดภาษาท้องถิ่น เป็นธรรมชาติของตัวเราเองด้วย โดยภาพรวมก็จะเป็นหนังชาวบ้าน ๆ หนังน่ารักของคนชนบทคนที่จะมีความรักความสามัคคีกัน เราจะรู้สึกได้เลย สังคมเหล่านี้ผมว่าคนเมืองคงลืมไปแล้ว ลองดูว่าตัวละครอย่างนี้มีความสุขมากแค่ไหน ดูหนัง ปัญญาเรณู 2 แล้วคุณก็จะมีความสุขจริง ๆ ครับ" อภัสรา (ตุ๊กกี้ สามช่า) อดีตสาวรำวงที่ได้มาอยู่บ้านเดียวกับเรณูโดยบังเอิญ จนกลายเป็นเพื่อนรุ่นพี่คู่ซี้ตัวติดกัน เฮไหนเฮนั่น คอยวางแผนและช่วยเหลือเรณูอยู่เสมอ อภัสราจะเป็นสาวที่บ้าฟุตบอลมาก คอสตูมของเธอก็เลยเป็นชุดฟุตบอลทุกเมื่อเชื่อวัน เธอเป็นคนมั่นใจในความสวยของตัวเองมาก ชอบกัดกับพี่กิ๋งจนตกหลุมรักกันโดยไม่รู้ตัว "เรื่องนี้ตุ๊กกี้รับบทเป็น อภัสรา ก็จะเป็นผู้หญิงกะโปโล จะมีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วก็สร้างความมั่นใจให้กับเรณูด้วยค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบความสำเร็จด้านความรักของเรณูมาจากพี่อภัสรานี่ล่ะค่ะ แต่พอเป็นเรื่องรักของตัวเองกลับแก้ไม่ได้ค่ะ เรื่องนี้เปลี่ยนลุคไป มันจะสวยก็ไม่สวย มันขาด ๆ เกิน ๆ ยังไงไม่รู้ จริง ๆ เรื่องนี้กะว่าพี่บิณฑ์จะปั้นเต็มที่เลย ปรากฏว่าตั้งแต่เห็นชุดนี่ล่ะค่ะ ผมมันก็มา หน้ามันก็มา ทุกอย่างมันก็มา ก็ออกมาเป็นอย่างงี้ล่ะค่ะ ในภาคนี้ก็จะเป็นเรื่องต่อเนื่องจากภาคแรก เป็นเรื่องรักของเด็กภาคอีสานปัญญากะเรณู เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตของเด็กอีสาน เป็นกลเม็ดเด็ดพรายเรื่องความรักใส ๆ ภาคนี้ตุ๊กกี้กะพี่หม่ำจะเข้ามาเพิ่มสีสัน พี่อภัสราก็จะเป็นฝ่ายน้องเรณู ส่วนพี่หม่ำก็อยู่ฝ่ายเดียวกับปัญญา เสน่ห์ของภาคนี้ก็ยังคงอยู่ที่บรรยากาศและวัฒนธรรมความเป็นภาคอีสานทั้งมวลทั้งดนตรี คำพูด อากัปกิริยา การแต่งตัว รวมถึงความสนุกสนานก็ม่วนหลายมากขึ้นแน่นอนค่ะ" บักจอบ (น้องเปเล่-บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว) หนุ่มน้อยหน้าซื่อผู้มีฟันเหยินเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ช่างพูด เป็นจอมวางแผนตัวยงและเป็นเพื่อนสนิทของปัญญา แต่เป็นคู่กัดกับเรณู เพราะเขามักจะกันท่าไม่ให้เรณูเข้าใกล้ปัญญา แต่กลับให้ปัญญาชิดใกล้คุณมิวมากกว่า งานนี้จอบเลยโดนเอาคืนจากเรณูและอภัสราอย่างเจ็บแสบจนแทบอยากจะร้องไห้ เพราะเอาไม่อยู่แล้วเด้อ "ภาคนี้ผมก็ยังเล่นเป็น ไอ้จอบ ครับ ชื่อจอบก็มีที่มาจากฟันเหยินของผมนี่แหละครับ ผมจะเป็นเพื่อนสนิทกับปัญญา ตัวแทบจะติดกัน ไปไหนไปกันตลอดเวลาครับ จะเป็นที่ปรึกษาให้กับปัญญาแทบทุกเรื่องเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องรัก ๆ ผมมักจะคอยแกล้งเรณูไม่ให้มาใกล้ปัญญา ก็เลยโดนเรณูเล่นงานเอาคืนจนทรุดเลยครับ แต่จะเป็นยังไงต้องติดตามชมครับ รับรองม่วนหลาย ๆ เด้อครับ" คุณมิว (น้องมิว - ธฤศวรรณ กาหาวงษ์) สาวน้อยสุดน่ารักจากกรุงเทพฯ มีความคิดสร้างสรรค์และมุ่งมั่นในการประกวดร้องเพลงรอบชิงชนะเลิศ จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากปัญญาและเรณูให้ใช้ความเป็นลูกทุ่งอันมีเอกลักษณ์เข้าร่วมวงแข่งขันด้วย อีกด้านหนึ่ง เธอก็เหมือนเป็นศัตรูหัวใจของเรณูโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว "เรื่องนี้รับเป็น มิว เป็นเด็กกรุงเทพฯ ที่ภาคแรกมาทัศนศึกษาที่อุบลฯ แล้วมาเจอปัญญากับเรณู แล้วก็เกิดความผูกพันกันในฐานะเพื่อน ก็มาช่วยเหลือเค้าในวงดนตรี ส่วนในภาค 2 นี้ มิวจะต้องมาขอความช่วยเหลือจากทั้งคู่ เพราะมันเป็นการแข่งขันที่ใหญ่มาก ๆ แล้วมิวก็อยากได้อะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ ให้กับวงตัวเอง ก็เลยมาขอให้ปัญญากับเรณูร้องเพลงลูกทุ่งให้ ฉากแข่งขันร้องเพลงเป็นฉากใหญ่ไฮไลต์ฉากหนึ่งเลยค่ะ เต็มที่ทั้งแสงสีเสียงคอสตูมจัดเต็มทุกคนค่ะ ต้องจับตาดูให้ดีค่ะ" เกร็ดหนัง - ปัญญาเรณู 2 (2555) เป็นผลงานกำกับเรื่องที่ 6 ของผู้กำกับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โดยผลงานก่อนหน้านี้ได้แก่ ปัญญาเรณู (2554), เดอะโกร๋น ก๊วน กวน ผี (2547), ช้างเพื่อนแก้ว (2546), ตำนานกระสือ (2545), มนต์รักเพลงลูกทุ่ง (2538) - ในภาค 2 นี้ ผู้กำกับฯ ยังคงคิดเรื่อง, เขียนบท, กำกับการแสดงเองทั้งหมดเหมือนเคย โดยเรื่องราวส่วนใหญ่จะเป็นประสบการณ์ในวัยเด็กของตนแทบทั้งสิ้น - ปัญญาเรณู ทั้งสองภาค เป็นภาพยนตร์ไทยที่มีซับไตเติ้ลภาษาไทยด้วย เพราะหนังเว่าภาษาอีสาน (เกือบ) ทั้งเรื่อง - ผู้กำกับฯ เห็นแววโดดเด้งของ น้องน้ำขิง - สุธิดา หงษา (หลานสาวของ หงษ์ทอง หงษา อดีตหนุ่มหมอลำซิ่งชื่อดังแห่งเมืองอุบล) จากการร้องและเต้นเพลง "เชพบ๊ะ" (อาภาพร นครสวรรค์) อย่างสุดสวิงในงานวันเด็กที่วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ทำเอาผู้กำกับต้องมนต์เธอในทันใด และเมื่อให้เธอลองเล่นบทผีเข้า (ซึ่งต่อมาก็คือฉากเจ้าแม่คะนองรักในภาคแรก) เธอก็เล่นแบบสุดตัวเหมือนโดนของจริงอะไรจริง จนทำให้ผู้กำกับต้องกดไลค์และมอบบท "เรณู" ให้เธออย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ - น้องทิว - โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี พระเอกของเรื่อง เคยแสดงเป็น ด.ช.ปัญญา ในเรื่อง ครูบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่ (2553) ร่วมกับ หม่ำ จ๊กมก ก่อนที่จะมาโดดเด่นกับบท "บักปัญญา" ในเรื่องนี้ ซึ่งได้ร่วมแสดงกับลุงหม่ำทั้ง 2 ภาค - นอกจากจะได้ หม่ำ จ๊กมก มาเป็นสีสันให้กับเรื่องแล้ว ปัญญาเรณู 2 ยังได้อีกหนึ่งตลกซุป’ตาร์อย่าง ตุ๊กกี้ ชิงร้อย มาเป็นผงชูรสสุดแซบในลุคสวยแปลกกว่าทุกเรื่องแหวกกว่าทุกแนวจนคุณต้องตะลึงฮากันเลยทีเดียว - โลเกชั่นหลักยังคงถ่ายทำกันที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กันแทบทั้งเรื่อง เพื่อให้ได้บรรยากาศความเป็นภาคอีสาน กลิ่นอายชนบท และธรรมชาติท้องทุ่งนาอันสวยงามน่าไปเยือนด้วย - ในภาคนี้ ผู้กำกับฯ ยังคงสอดแทรกวัฒนธรรมอีสานที่มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายผ่านฉากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากเลี้ยงควาย, ฉากแข่งจับปลาไหล, ฉากลงแขกเกี่ยวข้าว, ฉากตลาดควาย, ฉากร้องเพลง-ซ้อมเต้นกลางทุ่งนา, ฉากหนังกลางแปลง ฯลฯ - จัดเต็มความหรรษาลั้ลลาไปกับหลากหลายบทเพลงสุดไพเราะตลอดเรื่อง โดยเฉพาะห้ามพลาดฉากแข่งขันร้องเพลงสุดยิ่งใหญ่ แสงสีเสียงสุดตระการตาท้ายเรื่องด้วย "การร้องจริง เต้นจริง ไม่มีลิปซิงค์ " ของเหล่านักแสดงเด็กมากความสามารถทีมนี้ และแน่นอน งานนี้ สาวตุ๊กกี้ เธอก็ไม่มีพลาดขอแจมทั้งร้องทั้งเต้นไปกับเขาด้วย - ผู้กำกับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังคงมีโครงการสร้างความสนุกสนานสานต่อความประทับใจยิ่งขึ้นไปอีกกับ (ว่าที่) โปรเจ็คต์ ปัญญาเรณู 3 รูปูรูปี ที่จะเด็ดสะระตี่โรตีกระจายในอินเดียขนาดไหน อีกไม่นานเกินรอ...

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ