กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--ปตท.
ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ 2-6 ธ.ค. 54 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกชนิดโดย ราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2.86 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 108.75 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล และน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.59 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรลอยู่ที่ 102.39 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4.85 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 112.91 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล นอกจากนี้ราคาน้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันเบนซิน 95 เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6.19 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 122.32 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ดีเซลเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5.04 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 127.65 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
สถานการณ์ทางการเมือง
อิหร่านซ้อมรบทางเรือ และปล่อยจรวดขีปนาวุธรัศมีทำการ 200 กิโลเมตร บริเวณอ่าวเปอร์เซียในระหว่างวันที่ 24 ธ.ค. 54 ถึง 3 ม.ค. 55 และกล่าวข่มขู่ห้ามสหรัฐฯ นำเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ กลับเข้ามาบริเวณอ่าวเปอร์เซีย
สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการคว่ำบาตรโดยห้ามไม่ให้นำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่าน ก่อนจะประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ม.ค. 55ต
Royal Dutch Shell ในไนจีเรียประกาศหยุดการส่งออก (Force Majeure) น้ำมันดิบ Bonny Light ชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ลักลอบสูบถ่ายน้ำมันจากท่อขนส่งน้ำมัน Nembe Creek Trunk Line
สภาวะเศรษฐกิจ
ดัชนีภาคการผลิต Purchasing Managers' Index (PMI) ในเดือน ธ.ค. 54 :-
สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.2 จุด อยู่ที่ 53.9 จุด สูงที่สุดในรอบ 6 เดือน
จีนเพิ่มขึ้น 1.3 จุด อยู่ที่ 50.3 จุด
สหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 1.3 จุด อยู่ที่ระดับ 48.8 จุด
อังกฤษเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.90 จุด อยู่ที่ 49.6 จุด
(หมายเหตุ ดัชนีต่ำกว่า 50.0 จุด แสดงถึงสภาวะเศรษฐกิจหดตัว)
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) ประจำเดือน ธ.ค. 54 เพิ่มขึ้น 200,000 ราย ขณะที่อัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.5% จากเดิมที่ระดับ 8.7%
กระทรวงพาณิชย์ของจีนรายงานยอดจำหน่ายยานยนต์ของบริษัท General Motor ในประเทศจีนในช่วงเดือน ม.ค. - พ.ย. 54 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 8.2% อยู่ที่ 2.35 ล้านคัน
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
องค์การพลังงานสากล International Energy Agency (IEA) เสนอให้ประเทศสมาชิกนำน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปสำรองเชิงยุทธศาสตร์ปริมาณรวม 14 ล้านบาร์เรล ออกมาใช้หากอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ
ปริมาณสำรองน้ำมันเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น 2.29 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 329.69 ล้านบาร์เรล Gasoline เพิ่มขึ้น 2.48 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 220.19 ล้านบาร์เรล และ Distillates เพิ่มขึ้น 3.22 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 143.58 ล้านบาร์เรล
UK Consultancy Oil Movements รายงานปริมาณส่งออกน้ำมันดิบทางเรือของ OPEC (ไม่รวม Angola และ Ecuador) เฉลี่ยสี่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ม.ค. 55 เพิ่มขึ้น 60,000 บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 23.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน
บริษัท Boeing Co. ของสหรัฐฯ มีแผนปรับลดพนักงานประมาณ 2,160 คน ในช่วงไตรมาส 3/2555 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลอุปทานน้ำมันอาจขาดแคลนหากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน และชาติตะวันตกรุนแรงเพิ่มขึ้นภายหลังผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน พลเรือตรี Ali Fadavi เปิดเผยว่าจะมีการซ้อมรบครั้งใหม่บริเวณช่องแคบฮอร์มุซใน เดือน ก.พ. 55 หลังจากที่เพิ่งเสร็จสิ้นการซ้อมรบครั้งล่าสุดรวมระยะเวลา 10 วัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพทางทหารตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และจากรายงานทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือน ธ.ค. 54 ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.5% ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 52 อย่างไรก็ตามสภาวะเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปยังไม่มีท่าทีฟื้นตัว โดยยอดขายปลีกในเดือน พ.ย. 54 ปรับตัวลดลง และอัตราว่างงานยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงประกอบกับอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และน้ำมัน Mr. Ali Tarhouni ของลิเบียประเมินว่าปริมาณการผลิตน้ำมันในประเทศจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับปกติก่อนช่วงสงครามกลางเมือง 1.30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในเดือน มิ.ย. 55 ในระยะสั้นคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 98 - 106 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล และ 108 — 116 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล ตามลำดับ
โทร. 0 2537-1630 ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทรสาร 0 2537-2171