มั่นคงเคหะการเผยปี 46 โกยกำไร 840 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 45 430% พร้อมเผยโฉม 5 โครงการใหม่รวมมูลค่ากว่า 3,700 ล้านในปี 47

ข่าวทั่วไป Tuesday March 2, 2004 12:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
มั่นคงเคหะการ (MK) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทยเผยผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2546 (งบการเงินรวม) เติบโตอย่างโดดเด่นด้วยกำไรสุทธิ 840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 430% จากปี 2545 ผลกำไร 840 ล้านบาทนี้ ประกอบด้วยกำไรจากการดำเนินงานปกติ (normalized profit) 466 ล้านบาท และรายการพิเศษจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 374 ล้านบาท หากนับเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานปกติแล้ว อัตราการเติบโตจะสูงถึง 517%
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ผลกำไรของบริษัทฯ เติบโตหลายเท่าตัวนี้ นอกจากจะมาจากรายได้จากการขายที่เติบโตถึง 76% แล้ว อัตราส่วนกำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) ก็ยังสูงขึ้นจาก 32% ในปี 45 เป็น 42% ในปี 46 ทำให้กำไรเบื้องต้นเพิ่มจาก 280 ล้านบาทเป็น 638 ล้านบาท สาเหตุที่อัตราส่วนกำไรเบื้องต้นสูงขึ้นมาก เนื่องจากโครงการเดิมที่มีภาระต้นทุนดอกเบี้ยสะสมอยู่มากในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจเริ่มหมดไป บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ในปี 2546 จากโครงการใหม่เป็นหลัก ทำให้สัดส่วนกำไรเบื้องต้นปัจจุบันสามารถสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของบริษัทฯ ได้ดีกว่าที่ผ่านมา ในส่วนของดอกเบี้ยจ่ายในปี 2546 ลดลงจากปี 2545 ถึง 42% เป็นผลมาจากหนี้เงินกู้ลดลง 580 ล้านบาท หนี้สินที่ลดลงทั้งจากการชำระคืนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ การแปลงสภาพหุ้นกู้และการแปลงหนี้เป็นทุน ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ลดลงเป็น 1.1 เท่าจาก 1.8 เท่าในปี 2545
"ผลของกำไรสุทธิ 840 ล้านบาทในปี 2546 เทียบเท่ากำไรต่อหุ้น (EPS) 1.29 บาทต่อหุ้น หากคิดเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานปกติ EPS ก็ยังสูงถึง 0.72 บาทต่อหุ้น เทียบเท่า P/E Ratio เพียง 6 เท่า จากราคาหุ้นของบริษัทฯ ในปัจจุบันที่ 4.2-4.3 บาท" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าว
ในปี 2547 บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) วางแผนที่จะเปิดโครงการใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการตลาด นอกจากชวนชื่นแจ้งวัฒนะซึ่งได้เปิดเฟส 2 ไปเมื่อต้นมกราคมแล้ว โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวมีทั้งสิ้น 5 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท ได้แก่ โครงการชวนชื่นแคราย ตั้งอยู่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ใกล้แยกตัดถนนรัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว เนื้อที่โครงการ 30 ไร่ จำนวน 143 แปลง ขนาดแปลง 50-75 ตารางวา ระดับราคา4.0-5.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2547 โครงการเรสซิเด้นซ์พาร์ค 3 ชวนชื่นซิตี้ ตั้งอยู่ที่ซอยสยามธรณี (แยกจากถนนคู้บอน) รามอินทรา กม. 8 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด เนื้อที่โครงการ 22 ไร่ จำนวนแปลง 106 แปลงขนาดแปลง 42-85 ตารางวา ระดับราคา 2.4-4.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท กำหนดเปิดขายในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2547 โครงการชวนชื่นวัชรพล ตั้งอยู่บริเวณซอยถนอมมิตร ต้นถนนวัชรพล รามอินทรา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว เนื้อที่โครงการ80 ไร่ จำนวนแปลง 385 แปลง ขนาดแปลง 52-70 ตารางวา ระดับราคา 3.3-4.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2547 โครงการชวนชื่นอ่อนนุช ตั้งอยู่ที่ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกตะวันออก) ใกล้แยกตัดถนนอ่อนนุช เป็นโครงการบ้านเดี่ยว เนื้อที่โครงการ 54 ไร่ จำนวนแปลง 214 แปลงขนาดแปลง 50-75 ตารางวา ระดับราคา 3.5-5.0 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท กำหนดเปิดขายในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2547 โครงการสิรีนเฮ้าส์บางนา ตั้งอยู่บริเวณ บางนาตราด กม.29 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด เนื้อที่โครงการ 30 ไร่ (เฉพาะเฟสที่ 1) จำนวนแปลง 222 แปลง ขนาดแปลง 35-55 ตารางวา ระดับราคา 1.5-1.8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท กำหนดเปิดขายในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2547 โดยบริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางด้านการตลาดและการขายโครงการในปี 47 เพื่อให้โครงการของบริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเจาะกลุ่มเป้าหมายในระดับหลักมาเป็นเวลาหลายสิบปี เพราะความเชื่อมั่นในด้านสถานภาพทางการเงินของบริษัทฯ และคุณภาพของโครงการภายใต้แบรนด์ "ชวนชื่น"
"ด้านการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น บริษัทฯ ยังคงเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักดังเช่นที่ผ่านมา คือ กลุ่มรายได้ระดับกลางถึงกลาง-สูง ระดับราคาบ้าน 2-5 ล้านบาท แต่ได้เสริมในการสร้างจุดขายของบริษัทฯ ในรูปแบบองค์ประกอบทั้งสี่ผ่าน "จัตุรัสชวนชื่น" เพื่อสร้างสรรค์ให้เป็นบรรทัดฐานในการดำเนินงานเพื่อมอบบ้านที่มีคุณภาพแก่ลูกค้า โดยสะท้อนด้านทั้งสี่ให้เป็นสัญญลักษณ์ที่จะสื่อให้ลูกค้ามองเห็นถึงประโยชน์ที่ได้รับประการที่ 1 คือความคุ้มค่าที่เลือกซื้อบ้านในโครงการ"ชวนชื่น" ประการที่ 2 คือประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 40 ปีที่ได้รับการยอมรับอย่างดีตลอดมา ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงฐานะความมั่นคงด้านเงินทุนที่ลูกค้าสามารถเชื่อมั่นได้ว่าซื้อบ้านต้องได้บ้าน ประการที่ 3 คือ บ้าน"ชวนชื่น" ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงไม่ว่าในวันนี้หรือในอนาคต เพราะทุกจุดที่เราออกแบบนั้นเราได้วิจัยตลาดแล้วว่าคนส่วนใหญ่ให้ความนิยมอย่างแท้จริง และประการสุดท้ายคือ ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยในทุกๆ ด้าน ทั้งยังปลอดภัยและเชื่อมั่นได้ว่าชวนชื่นคือชุมชนที่ได้มาตรฐานซึ่งคุณจะได้สังคมหรือเพื่อนบ้านในระดับเดียวกันอย่างแน่นอน" นายชวน ตั้งมติธรรม กล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา หรือ ยุลาวัลย์ เหลืองประเสริฐ
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-951-9119, 09-171-8525, 06-330-4947--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ