กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
นิคอนหวังก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลไทย
ส่งกล้องดิจิตอล D 70 และกล้องดิจิตอลตระกูล Coolpix 3 รุ่นใหม่สู่ตลาด
พร้อมตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้กว่า 50%ในปี 47
นิคส์ ไทยแลนด์ เผยปี 46 มีอัตราการเติบโตทางธุรกิจเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เหตุจากอานิสงค์ของกระแสตลาดกล้องดิจิตอลเมืองไทยที่โตแบบก้าวกระโดด ตอกย้ำจุดขายด้านคุณภาพและดีไซน์ที่ทันสมัยแถมใช้งานง่าย ปี 47 หวังโตอีกร้อยละ 50 เชื่อมั่นกระแสตอบรับมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปล่อยหมัดแรกเปิดตัวกล้องดิจิตอล D70 ซึ่งถือเป็นกล้องนิคอนรุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทยเพื่อส่งขายทั่วโลก พร้อมเปิดตัวกล้องดิจิตอลตระกูล Coolpix อีก 3 รุ่นหวังเจาะตลาดในทุกกลุ่ม
นายสุรชัย ดุษฎีเมธา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท นิคส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพนิคอนในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทยมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน่าจับตา โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ทึ่ 3,600 ล้านบาท หรือประมาณ 220,000 เครื่อง หรือหากเปรียบเทียบกล้องดิจิตอลตามลักษณะเฉพาะแล้วพบว่า กล้องประเภท Digital SLR จะมีอัตราส่วนของตลาดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 ในขณะที่กล้องประเภท Digital Compact มีอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 90 ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถสร้างอัตราการเติบโตรวมในปี 46 ได้เพิ่มขึ้นจากปี 45 ประมาณร้อยละ 50 ซึ่งอัตราส่วนของยอดขายสามารถแบ่งเป็นกล้องชนิดฟิล์มและกล้องดิจิตอลในอัตราส่วนร้อยละ 45 ต่อ 55
"ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นยุดทองของกล้องดิจิตอล ดังจะเห็นได้จากอัตราการเติบโตของตลาดรวมในเมืองไทย ซึ่งมีปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆ มากมาย ประกอบด้วย วิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป ประกอบกับความนิยมในด้านท่อองเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และเวลาเริ่มเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น ส่งผลให้กล้องดิจิตอลหันมาเพิ่มจุดขายในด้านการประหยัดเวลา เพิ่มความสะดวกสบายรวมทั้งความคุ้มค่าที่ลูกค้าสามารถซื้อกล้องดิจิตอลได้ในราคาที่ใกล้เคียงกับอดีตแต่ได้กล้องที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ความต้องการในการส่งรูปผ่านทาง e-mail ตลอดจนการขยายตัวของการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ การพิมพ์รูป Digital ที่มีราคาถูกลงเทียบเท่าหรือถูกกว่าการพิมพ์ภาพจาก Film รวมทั้ง เงื่อนไขที่เอื้อต่อการจับจ่ายที่สถาบันการเงินต่างๆ นำเสนอแก่กลุ่มลูกค้า ก็ถือเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะแคมเปญผ่อนแบบสบายด้วยอัตราดอกเบี้ย
0% ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และยิ่งจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในปี 47 โดยคาดว่ามูลค่าตลาดรวมในปี 47 น่าจะถีบตัวสูงถึง 5,000 ล้านบาท หรือประมาณ 350,000 เครื่อง และจากปัจจัยดังกล่าวนี้ บริษัทฯ จึงวางแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดโดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปี 47 ไว้ที่ร้อยละ 50 ซึ่งรายได้หลักน่าจะมาจากตลาดกล้องดิจิตอลในอัตราร้อยละ 80" นายสุรชัยกล่าว
ในปี 2547 บริษัท นิคส์ (ไทยแลนด์) จำกัด วางแผนบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสแรกกำหนดเปิดตัวสินค้าประเภทกล้องดิจิตอลรวม 4 รุ่น ที่มีความโดดเด่นกว่ากล้องในระดับเดียวกันประกอบด้วย กล้อง SLR รุ่น D70 ที่มีความละเอียด 6.1 ล้านพิกเซล ที่มีระบบการทำงานที่รวดเร็ว สามารถใช้งานได้ทันทีที่เปิดสวิตซ์ ตั้งความไวชัตเตอร์ได้สูงสุด 1/1800 วินาที โดดเด่นด้วยแฟลชระบบใหม่ i-TTL ที่ควบคุมการทำงานระยะไกลแบบไร้สายได้ ในราคาขาย 55,900 บาท ,รุ่น Coolpix 8700 ที่มีความละเอียด 8.0 ล้านพิกเซล สามารถซูมภาพแบบออพติคอล 8 เท่า เทียบเท่า 35-280 มม. โครงสร้างตัวกล้องผลิตจากโลหะแมกนีเซียมอัลลอยที่มีความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบา ช่องมองภาพแบบ Electronic Viewfinder สามารถบันทึกภาพแบบ Raw File ที่มีบิทสีสูงถึง 12 บิทได้ ในราคาขาย 55,000 บาท ,รุ่น Coolpix 3200 ที่มีความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล สามารถซูมภาพแบบออพติคอล 3 เท่า เทียบเท่า 38-155 มม. มีหน่วยความจำภายในตัวกล้องมีขนาด 14.5 MB และรองรับ Memory card ภายนอกแบบ SD card ได้ สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงได้นานไม่จำกัดจนกว่าการ์ดเต็ม มีไฟช่วยหาโฟกัสในที่มืด เลือกสั่งพิมพ์วันที่และเวลาในภาพได้ ทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับ Housing สำหรับถ่ายภาพใต้น้ำ (รุ่น WP-CP1 Waterproof case) ที่ใช้งานได้ในระดับลึกสุดถึง 40 เมตร ในราคาขาย 15,900 บาท และรุ่น Coolpix 2200 ที่มีความละเอียด 2.0 ล้านพิกเซล สามารถซูมภาพแบบออพติคอล 3 เท่า เทียบเท่า 36-108 มม. มีหน่วยความจำภายในตัวกล้องมีขนาด 14.5 MB และรองรับ Memory card ภายนอกแบบ SD card ได้ สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงได้นานไม่จำกัดจนกว่าการ์ดเต็ม เลือกสั่งพิมพ์วันที่และเวลาในภาพได้ ทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับ Housing สำหรับถ่ายภาพใต้น้ำ (รุ่น WP-CP1 Waterpoof case) ที่ใช้งานได้ในระดับลึกสุดถึง 40 เมตร ในราคาขาย 12,500 บาทและจากความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รุ่นนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้า เพราะความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าและรูปลักษณ์ที่ออกแบบมาให้ดูล้ำสมัย และที่สำคัญคือกล้องนิคอนง่ายและสะดวกในการใช้งาน มีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับกล้องในระดับราคาเดียวกัน ซึ่งในปีนี้ นิคอนวางแผนที่จะเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ทั้งแบบ Digital SLR และ Digital Compact กว่า 10 รุ่น โดยจะเป็นกล้องที่มีความละเอียดในระดับ 2-8 ล้านพิกเซล จับกลุ่มลูกค้าในแต่ละระดับความต้องการ
"ผลิตภัณฑ์ของนิคอนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุนจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยมานาน นิคอนวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับ Premium Brand สินค้ามีมาตราฐานคุณภาพสูง ในราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพและความพึงพอใจที่ลูกค้าจะได้รับ โดยในปีนี้ถือเป็นปีแห่งความภูมิใจสูงสุดที่ บริษัท นิคอน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนและดำเนินการประกอบชิ้นส่วนกล้องนิคอนได้รับเกียรติให้เป็นฐานการผลิตหลักของกล้องดิจิตอล SLR รุ่น D70 เพื่อส่งออกขายทั่วโลก ซึ่งเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากกลุ่มเป้าหมายทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก" ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล่าวอย่างเชื่อมั่น
นายสุรชัย ดุษฎีเมธา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท นิคส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "บริษัทฯ ได้วางแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายไปสู่ศูนย์สรรพสินค้าด้านไอทีและเอวีทั่วประเทศพร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดการสัมมนา และโรดโชว์ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ โดยยังคงพุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าระดับ โปรเฟสชันแนล (Professional) และซีเรียสอเมเจอร์ (Serious Amateur) เป็นหลัก รวมทั้งวางแผนขยายตลาดมาสู่กลุ่มผู้เริ่มเล่นกล้องดิจิตอล (Beginner) เพิ่มขึ้นผ่านทางสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องตลอดปี และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์นิคอน จึงได้สร้าง NIKON Genius Corner ขึ้นที่ www.niksthailand.com หรือ www.niksthailand.co.th เพื่อเป็นศูนย์กลางในการนำเสนอข้อมูลรวมทั้งเปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้าผลิตภัณฑ์นิคอนสามารถสอบถามข้อสงสัยต่างๆ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากนิคอนเป็นผู้ตอบคำถามดังกล่าว ซึ่งกำหนดเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 47 ทั้งนี้กิจกรรมส่งเสริมการขายของนิคอนในปี 47 นั้นจะเริ่มต้นจากการจัดงาน NIKON DAY เป็นปีที่ 7 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 มีนาคม 2547 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ลพลาซ่า (เวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์เดิม ราชดำริ) โดยภายในงานจะได้พบกับนวัตกรรมการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบจากผลิตภัณฑ์ Nikon อาทิ เลนส์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ มากมาย ทั้งยัง เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้สัมผัสและทดสอบการใช้งานของกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดทั้ง 4 รุ่น และหมวดผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอน"
"นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังต้องการที่จะสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์นิคอน ว่าทุกครั้งที่ซื้อกรุณาเรียกหาบัตรรับประกันจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์" นายสุรชัยกล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา หรือ ยุลาวัลย์ เหลืองประเสริฐ
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่นจำกัด 02-951-9119, 09-171-8525, 06-330-4947 --จบ--
-ลส/สก-