กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--เวิรฟ
เมอร์เซเดส-เบนซ์มอบ Mercedes-Benz Unimog U 4000 สมรรถนะแข็งแกร่ง สมบุกสมบัน เพื่อการบรรเทาสาธารณภัยแก่สภากาชาดไทย
เนื่องจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้ประสบภัยจำนวนมากที่รอความช่วยเหลือ ยานพาหนะเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่จะช่วยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปได้อย่างทันท่วงที เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงได้นำเข้ารถบรรทุก Mercedes-Benz Unimog U 4000 รถบรรทุกสมรรถนะเยี่ยม ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยี เหมาะแก่การใช้งานในทุกสถานการณ์ เข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ทุกรูปแบบ เพื่อมอบให้แก่สภากาชาดไทยไว้เพิ่มสมรรถภาพงานบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในระยะยาว
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2554 ที่ผ่านมาเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล โดยร่วมกับพนักงานและผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ มอบเงินบริจาคจำนวน 2,292,800 บาท เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมให้แก่สภากาชาดไทย พร้อมได้มอบรถบรรทุก Mercedes-Benz Unimog U 4000 จำนวน 2 คัน ให้แก่สภากาชาดไทยเพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ในระยะยาว เนื่องจากเป็นรถที่มีสมรรถนะแข็งแกร่งที่ได้ผลิตเพื่อการใช้งานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรเทาสาธารณะภัย อาทิ ดับไฟป่า และบรรเทาอุทกภัย ไปแล้วกว่า 380,000 คันทั่วโลก และในปี 2554 นี้เป็นปีที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็อกครบรอบ 60 ปีอีกด้วย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็อก U 4000 ถูกคิดค้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะแก่การใช้งานในทุกสถานการณ์ ทุกสภาพพื้นผิวถนนโดยสามารถเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางลาดชัน ป่าเขา ขึ้นดอย และสามารถลุยน้ำได้ถึง 1.2 เมตร รูปทรงเหมาะสม สามารถเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ทุกสภาพพื้นผิว ทั้งทางลาดชัน ป่าเขา ด้วยความสามารถในการเดินหน้าขึ้นที่ลาดชันได้ถึง 45 องศา และเอียงข้างได้ 38 องศา รวมทั้งสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 1.2 เมตร เป็นรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนแบบออฟโรด สมบุกสมบัน
การออกแบบ — ความคล่องตัว เหมาะสมทุกการใช้งาน
หากมองจากรูปลักษณ์ภายนอกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็อก จะเห็นถึงตัวถังรถที่สื่อถึงความแข็งแกร่ง แข็งแรง ประกอบกับเพลาหน้าและเพลาท้ายที่ออกแบบ เพื่อให้รองรับกับน้ำหนักจำนวนมาก โดยเพลาหน้าสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 4,000 กิโลกรัม ส่วนเพลาท้ายสามารถรองรับน้ำหนักได้ 4,600 กิโลกรัม ด้วยระบบรองรับน้ำหนักแบบคอยล์สปริง จึงมีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนทาน สามารถขับผ่านสิ่งกีดขวางได้อย่างดีเยี่ยม
ภายใน — เลิศล้ำด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
ภายในรถบรรทุกเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็อก ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมต่อการใช้งาน อุปกรณ์ต่างๆ ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว ภายในกว้างขวาง โปร่ง สะดวกสบายต่อการขึ้นลง ที่นั่งที่ปรับพนักพิงได้ พร้อมด้วยเข็ดขัดนิรภัยทุกที่นั่ง หลังคาสามารถเปิดระบายอากาศได้ ทัศนะวิสัยในการมองเห็นชัดเจน พร้อมด้วยแผงหน้าปัดอัจฉริยะที่แสดงรายละเอียดการใช้งานอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อบกพร่อง การตรวจระดับน้ำมันเครื่อง การแจ้งข้อมูลการทำงาน หรือการแจ้งเตือนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีกล่องคอนโทรลยูนิตซึ่งติดตั้งอยู่ภายในห้องโดยสาร
เครื่องยนต์ทรงพลังที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการใช้งานที่สมบุกสมบัน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็อก U 4000 ถูกคิดค้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะแก่การใช้งานในทุกสถานการณ์ ทุกสภาพพื้นผิวถนน โดยสามารถเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางลาดชัน ป่าเขา ขึ้นดอย และสามารถลุยน้ำได้ถึง 1.2 เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ ออฟโรด ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง ขนาด 4,800 ซีซี เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ผลิตกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า หรือ 160 กิโลวัตต์ ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 810 นิวตันเมตร และถังน้ำมันเชื้อเพลิงทำจากอลูมิเนียมขนาด 160 ลิตร มาพร้อมกับระบบเกียร์แบบออโตเมติกชิฟ (AutomaticShift?) ที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ สามารถเลือกได้ทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ และแบบเกียร์ธรรมดา พร้อมด้วยระบบเดินหน้าและถอยหลังอย่างเร็ว (Electronic Quick Reverse: EQR) ทำให้สะดวกสบายในการใช้งานไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ ช่วยเพิ่มสมาธิในการขับขี่ และสามารถบังคับรถได้ดีในสถานการณ์คับขัน สามารถเลือกความเร็วเดินหน้าได้ 8 แบบ และความเร็วถอยหลัง 6 แบบ เหมาะแก่ทุกสภาพพื้นผิว โดยทำความเร็วได้สูงถึง 85 km/h
แชสซี — คล่องแคล่วทุกการเคลื่อนไหว
ตัวเฟรมแชสซีของรถบรรทุกเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็อก U 4000 มีความแข็งแรงทนต่อการบิดตัวได้เป็นอย่างดี ไม่เสียรูปแม้ว่าจะผ่านการใช้งานที่สมบุกสมบัน และไม่มีผลต่อห้องโดยสารและส่วนบรรทุก ผู้ขับขี่สามารถรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลในการขับ โดยเหล็กแชสซีของตัวรถมีขนาดใหญ่หนาถึง 185 มิลลิเมตร ส่วนหน้ารถและส่วนบรรทุกสามารถบิดตัวได้ถึง 12 องศา ส่วนเพลาหน้าและเพลาท้ายสามารถบิดได้มากถึง 30 องศา ด้วยเทคโนโลยีทอร์คทิ้วและ คอยล์สปริง ล้อทั้งสี่สัมผัสพื้นผิวถนนตลอดเวลาขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังง่ายต่อการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมต่างๆ เพื่อการใช้งาน อาทิ ปั๊มน้ำ
ระบบช่วยเหลือขณะขับขี่เพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทาง
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็อก U 4000 เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยที่ประกอบไปด้วย ระบบเติมลมและระบายลมยางจากห้องโดยสาร ระบบควบคุมแรงดันลมยาง (tirecontrol?) เพื่อควบคุมให้เหมาะสมแก่การใช้งานในพื้นผิวต่างๆ และความปลอดภัยในการเดินทาง โดยแรงดันลมสูงเหมาะกับสภาพพื้นถนนทั่วไป ซึ่งสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มาก ในขณะที่แรงดันลมต่ำเหมาะกับสภาพพื้นผิวที่ขรุขระ มีกำลังลากจูงสูง ดอกยางสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ง่าย ระบบระบายความร้อนที่ใช้สายพานขับ ระบบเพลามีซีลกันน้ำแบบสองชั้น รวมทั้งระบบกันน้ำและฝุ่นละอองในห้องโดยสาร พร้อมด้วยไฟหน้ากันน้ำและตัวระบายอากาศ นอกจากนั้นยังมีระบบช่วยเหลือขณะการขับขี่อย่างครบครันเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS ระบบเบรกแบบ ALB (Automatic Load Responsive Brake System) ระบบปลดล็อคเบรกแบบฉุกเฉิน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
เยาวเรศ, ศิริพรโทรศัพท์ 02 614-8811-12
หรือ PR Agency เวิรฟ
พรทิภา, เบญจพร โทรศัพท์, 02 204 8078, 02 204 8551
ท่านสามารถดาวน์โหลดข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ www.mercedes-benz.co.th