กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--OutDoor PR
บีโอไอ ผนึก สสปน. จัด CEO Forumดึงผู้บริหารชั้นนำข้ามชาติ—ยักษ์ใหญ่ในไทย ประชุมอลังการชูแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ พร้อมโชว์ความพร้อมเมืองแห่งไมซ์หวังสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนหลังอุทกภัย
“บีโอไอ” กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือ “สสปน.” ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม HIA และ CEO Forum สุดยิ่งใหญ่ ภายในงาน “บีโอไอแฟร์ 2011” โดยเชิญผู้บริหารระดับสูงชั้นนำทั้งไทยและนานาชาติ พร้อมด้วย “โทนี่ แบลร์ เลขาธิการอังคถัด และเลขาธิการอาเซียน” เป็นองค์ปาฐกเปิดเวทีให้ผู้บริหารระดับสูง และนักลงทุนชั้นนำจากทั่วโลก พบปะภาครัฐ-เอกชนของไทย พร้อมประกาศนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ มาตรการป้องกันอุทกภัย หวังสร้างภาพลักษณ์เรียกความมั่นใจนักลงทุนต่างชาติ
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวถึงการจัดงานนิทรรศการบีโอแฟร์ 2011 มีกำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 5-20 มกราคม 2555 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ว่า ภายใต้การจัดงานแสดงนิทรรศการครั้งนี้ ยังมีไฮไลท์สำคัญของงาน โดยบีโอไอจับมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ร่วมเป็นเจ้าภาพ “จัดการประชุมที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทางด้านการลงทุนครั้งที่ 1 (Honorary Investment Advisor : HIA)” มีกำหนดจัดในวันที่ 16 มกราคม 2555 และ“จัดการประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจ หรือ CEO Forum” มีกำหนดจัดการประชุมในวันที่ 17 มกราคม 2555 นี้ ทั้ง 2 งานนี้ ได้เชิญผู้บริหารระดับสูง (CEO) และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน (HIA) เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารภาครัฐ และเอกชนของไทยเกี่ยวกับโอกาสการลงทุน รวมถึงรับฟังมาตรการป้องกันอุทกภัยและแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในอนาคต
สำหรับวัตถุประสงค์ ในการจัด ประชุมที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทางด้านการลงทุนครั้งที่ 1 (Honorary Investment Advisor) หรือ HIA เป็นการประชุมโต๊ะกลมครั้งแรกระหว่างที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนระยะ 5 ปีของบีโอไอ (2555 — 2559) เป็นการริเริ่มแผนและ กลยุทธ์การลงทุนของไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และ การจัดประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจ หรือ CEO Forumโดยเชิญผู้บริหารระดับสูง CEO เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทยในเวทีการลงทุนโดยตรงจากทั่วโลก และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางอุตสาหกรรมของประเทศภายในงานบีโอไอแฟร์ 2011 ตลอดจนการสร้างความ
เชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติหลังอุทกภัย โดยภายในงานได้รับเกียรติจากนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรี ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นแขกพิเศษของกระทรวงอุตสาหกรรม มาพูดในหัวข้อ “The Challenges and Opportunities in a Globalized World” พร้อมด้วย ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังคถัด เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา กรุงเจนีวา ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Global Sustainable FDI and opportunities for Thailand “และ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ในหัวข้อ “ASEAN Economic Community :What does it mean to Thailand”
“ซึ่งนอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) เพื่อเป็นเกียรติแก่ CEO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ,นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ พูดในเรื่องนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างชาติร่วมเป็นองค์ปาฐก ว่าด้วยเรื่อง กลยุทธ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อระบบอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืน ได้แก่ นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี ประเทศไทย และนายโยชิฮิสะ คาอินุมะ ประธานและผู้บริหารสูงสุดกลุ่มบริษัท มินิแบ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้เชิญวิทยากรที่มีชื่อเสียงระดับโลก มร.จอห์น เอฟ คอย์น ประธานและซีอีโอ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล ของสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟอันดับหนึ่งของโลกมาเป็นวิทยากรในงานนี้ด้วย ” เลขาธิการบีโอไอ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก บีโอไอได้กำหนดมาตรการ 2 ระยะ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัย คือ มาตรการฉุกเฉินระหว่างเกิดอุทกภัย และมาตรการฟื้นฟู เพื่อช่วยลดความสูญเสียและฟื้นฟูธุรกิจแก่ผู้ประสบภัยสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของการฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนรายเดิมย้ายฐานการผลิต ตลอดจนการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใหม่
ด้าน นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่า งานบีโอไอแฟร์ 2011 เป็นงานมหกรรมแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “รวมพลังน้ำใจ โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ “Going Green for the Future” ซึ่งในส่วนของ การจัดการประชุม HIA และ CEO Forum จะเป็นเวทีสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในฐานะของจุดหมายปลายทางด้านการลงทุน รวมทั้งเป็นเป้าหมายของการจัดประชุมระดับนานาชาติ ซึ่งในส่วนของอุตสาหกรรมไมซ์นั้น ผู้เข้าร่วมประชุมเหล่านี้เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการใช้จ่ายสูงกว่า
นักท่องเที่ยวทั่วไป 2-3 เท่า ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสถึงความพร้อมของประเทศไทย ทั้งในด้านการจัดสถานที่ประชุม โรงแรมที่พัก มาตรฐานด้านการบริการและการต้อนรับ โดยเฉพาะการจัดงานหลังภาวะอุทกภัยนั้นย่อมเป็นการยืนยันแก่นานาประเทศว่า อุทกภัยครั้งนี้ส่งผลกระทบในบางพื้นที่เท่านั้น ซึ่งในส่วนของพื้นที่สนามบินแห่งชาติสุวรรณภูมิ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอย่างอิมแพค ซึ่งเป็นพื้นที่จัดงานก็มิได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
“สิ่งสำคัญสุดของการจัดประชุม HIA และ CEO Forum จะเป็น Showcase ที่ฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศไทย โดย สสปน. ในฐานะเจ้าภาพร่วมนั้น เราให้การสนับสนุนทั้งด้านงบประมาณสำหรับการจัดประชุม และดำเนินงานในกิจกรรมหลัก อาทิ การเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันแก่ผู้บริหารระดับสูง และนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 300 คน สนับสนุนค่าใช้จ่ายของวิทยากร และการประชาสัมพันธ์การจัดงาน รวมทั้งเตรียมแผนส่งเสริมการตลาดเจาะกลุ่ม CEO ที่ร่วมงานเพื่อต่อยอดธุรกิจไมซ์ในไทย โดยเราประมาณการผู้เข้าร่วมประชุม HIA และ CEO Forum จากต่างชาติกว่า 200 คน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนที่เกิดจากการประชุมกว่า 20 ล้านบาท ยังไม่นับรวมถึงรายได้ทางอ้อมที่จะช่วยกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ สสปน. ยังดำเนินงานแผนงานจัดทำ testimonial กับกลุ่ม CEO ที่เข้าร่วมงาน เพราะเรามั่นใจว่ากลุ่มผู้ร่วมประชุมเหล่านี้ จะเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่จะช่วยส่งต่อถึงความพร้อมของ และเรียกความมั่นใจสู่ประเทศไทยในฐานะจุดหมายแห่งไมซ์ได้เร็วที่สุด” นายอรรคพลกล่าวเสริม
กิจกรรมหลักอีกประการของ สสปน. ในงาน บี โอ ไอ แฟร์ 2011 คือ การแสดงความภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมเสนอประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมโลกเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ผ่านการสร้างสรรค์ศาลาจัดแสดง หรือพาวิลเลียนในระดับนานาชาติ ภายใต้ชื่อ “Believe in Thailand: Expo 2020 Pavilion” หรือ “ศาลาเอ็กซ์โป 2020 มั่นใจเมืองไทยพร้อม” พร้อมการแสดงมัลติมีเดีย สุดอลังการเต็มรูปแบบทั้งภายในและภายนอกอาคาร
“ศาลาเอ็กซ์โป 2020 มั่นใจเมืองไทยพร้อม” นับว่าเป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ใหญ่ที่สุด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ ความรู้และสร้างการมีส่วนร่วมของ คนไทยทุกภาคส่วนต่อการร่วมสนับสนุนโครงการนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อร่วมฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประเทศไทยและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังผ่านพ้นวิกฤต อุทกภัยด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนไทย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าชมศาลา หรือ พาวิลเลียน คือ ผู้เข้าร่วมงานบีโอไอแฟร์ ได้แก่ นักธุรกิจและผู้บริหาร ระดับสูง นักลงทุน นักศึกษา สื่อมวลชน
และประชาชนผู้เข้าร่วมงาน โดยตั้งเป้าว่าตั้งแต่วันที่ 5-20 มกราคม คาดว่าจะมีผู้เข้าชมพาวิลเลียน ประมาณ 100,000 คน
“เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ผ่านมา เราได้จัดกิจกรรมทัวร์พาวิลเลียนแก่ สื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติจากภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งนักธุรกิจ ผู้บริหารระดับสูงและนักลงทุนกว่า 300 คน โดยในส่วนของ CEO จากต่างประเทศที่เข้าร่วมประชุม CEO Forum นั้น จะได้ร่วมชมพาวิลเลียนในวันที่ 16 มกราคม ทั้งนี้ “ศาลาเอ็กซ์โป 2020 มั่นใจเมืองไทยพร้อม” ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง โดยตั้งแต่เปิดงานเมื่อวันที่ 5 มกราคมจนถึงปัจจุบัน มีผู้เข้าชมกว่า 20,000 คน และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน” นายอรรคพลกล่าวสรุป
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยได้รับผลกระทบจากทั้งเศรษฐกิจของโลก ความผันผวนจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ และล่าสุดอุทกภัย โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา สสปน. ได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชนเพื่อวางแผนและกำหนดยุทธศาสตร์การฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาเป้าหมายการเติบโตให้ได้ร้อยละ 15-20 ต่อปี โดยในปี 2555 นี้ สสปน. ตั้งเป้าหมายจำนวนผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ จำนวน 750,000 คน และสร้างรายได้มูลค่า 60,120 ล้านบาท