ตลาดมือถือดุดัน ยักษ์ใหญ่ฟาดฟันชิงส่วนแบ่ง เตรียมรับมือกลุ่มผู้ใช้แตกย่อยตามไลฟ์สไตล์: นีลเส็น

ข่าวทั่วไป Friday January 13, 2012 10:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--นีลเส็น Nokiaยังครองแชมป์ส่วนแบ่งตลาดมือถือโดยรวม (48%) แต่อัตราผู้ที่ “คิดจะซื้อ” กับผู้“ซื้อ”(conversion rate) ตามหลัง RIM Blackberryต่างแบรนด์ ต่างอายุ ต่างไลฟ์สไตล์: กลุ่มผู้ใช้มือถือแต่ละยี่ห้อมีค่านิยมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สงครามสมาร์ทโฟน “ที่สุด”แห่งความแตกต่าง : Nokiaครองส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุด, RIM Blackberry ครองมือถือรุ่นที่ขายดีที่สุด, แอนดรอยด์เป็นที่รู้จักที่สุด, และลูกค้า Apple ดาวน์โหลด “แอป” มากที่สุดสาวก “เกมส์” พร้อมจ่ายเงินซื้อมือถือมากที่สุด แม้ GDP ของประเทศไทยจะอยู่เพียงอันดับที่ 118 เมื่อเทียบกับทุกประเทศทั่วโลก[1] แต่จากการศึกษาของนีลเส็นพบว่า คนไทย 9.6 คนจาก 10 คนมีโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นของตัวเอง และจำนวน SIM card ในประเทศไทยนั้น มีมากกว่าจำนวนของประชากรกว่า 66 ล้านคน “ปัจจุบันนี้ 27% ของโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยคือโทรศัพท์สมาร์ทโฟน (โทรศัพท์ที่ผู้ใช้สามารถลงโปรแกรมแอปปลิเคชั่นด้วยตนเองได้) ส่วนอีก 70% เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ธรรมดา อย่างไรก็ดี จากการศึกษา Smartphone Insights ล่าสุดของนีลเส็นพบว่า ผู้บริโภคในประเทศไทยส่วนมากต่างตอบรับสมาร์ทโฟนเป็นอย่างดี และมีแนวโน้มจะตบเท้าเข้าสู่ตลาดนี้อย่างรวดเร็ว” วิลเลียม หวาง ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจการสื่อสาร นีลเส็น ประเทศไทย กล่าว แม้ว่าNokia จะยังเป็นผู้ครองตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในประเทศไทย บริษัทคู่แข่งเช่น Samsung หรือ RIM Blackberry ต่างไล่ตามติดอย่างไม่ลดละ สัญญาณชักธงรบนี้ไม่เพียงแต่อยู่ในกลุ่มของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น หากตลาดของผู้ให้บริการทางเครือข่ายก็เผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือด เพื่อดันให้แบรนด์ของตนมีความแตกต่าง ดึงให้กลุ่มลูกค้าที่มีอัตราการเปลี่ยนผู้ให้บริการสูงคงอยู่กับเครือข่าย “แน่นอนว่า กระแสการเปลี่ยนแปลงนี้จะเปิดโลกแห่งโอกาสและการแข่งขันไม่เพียงแต่กับกลุ่มผู้ผลิตและผู้ให้บริการทางโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น แต่รวมไปถึงผู้ผลิตสินค้าและบริการทุกชนิดที่ต้องการสื่อสารถึงผู้บริโภค ดังนั้น ความเข้าใจตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความรู้เกี่ยวกับกลุ่มผู้บริโภคที่แตกเป็นกลุ่มย่อยตามค่านิยมอย่างต่อเนื่อง จะเป็นหัวใจสำคัญในการจะเป็นผู้ชนะที่สามารถเกาะกระแสผู้บริโภคนี้ได้ หรือเป็นผู้แพ้ที่จมหายไปอย่างรวดเร็ว” หวางกล่าวเพิ่มเติม Nokia ยังครองแชมป์ส่วนแบ่งตลาดมือถือโดยรวม แต่อัตราผู้ที่ “คิดจะซื้อ” กับผู้“ซื้อ” (conversion rate) ตามหลัง RIM Blackberry จากการศึกษา Smartphone Insights ของนีลเส็นพบว่า Nokia ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำแห่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยไว้ได้ ด้วยอัตราส่วนแบ่งทางการตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมทุกประเภทที่สูงถึง 48% ตามมาด้วย Samsung (15%) และ iMobile (10%). อย่างไรก็ดี หากมองลึกลงไปถึงส่วนแบ่งทางการตลาดของโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละประเภทแล้ว บริษัทคู่แข่งของ Nokia ต่างเปิดฉากการแข่งขันอย่างดุเดือด โดย Samsung กลับเป็นผู้นำของโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ Multimedia (โทรศัพท์เคลื่อนที่ธรรมดาที่มีจอสัมผัส และ/หรือ มี QWERTY คีย์บอร์ด) ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดถึง 35% ในขณะที่ RIM Blackberry ก็ไล่จี้ติด Nokia ในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบสมาร์ทโฟน (โทรศัพท์ที่ผู้ใช้สามารถลงโปรแกรมแอปปลิเคชั่นด้วยตนเองได้) ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 26% แม้การแข่งขันจะดุเดือดเพียงใด จากผลการสำรวจของนีลเส็นพบว่า Nokia ยังคงเป็นแบรนด์ที่ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยถึง 69% จัดให้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความชื่นชมที่สุด อย่างไรก็ดี RIM Blackberry กลับมีอัตรา conversion rate (อัตราของผู้ที่คิดจะซื้อสินค้า กับผู้ที่ซื้อสินค้า) ที่สูงที่สุดในบรรดาผู้ผลิตโทรศัพท์ทั้งหมด อยู่ที่ 7.7% ซึ่งหมายความว่า จากคน 10 คนที่ “คิด” จะซื้อโทรศัพท์ Blackberry 7.7 คนจะ “ซื้อ” จริงๆ นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์เปรียบเทียบอัตราส่วนแบ่งของโทรศัพท์ที่ “เคย” ใช้ (Share of Previous Phone) กับอัตราส่วนแบ่งของโทรศัพท์ที่ “ใช้อยู่” (Share of Current Phone) ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงกระแสความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ และแนวโน้มของการเติบโตของแต่ละบริษัทผู้ผลิตได้ นีลเส็นพบว่า ในบรรดาบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ยักษ์ใหญ่ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุด 5 ผู้ผลิต ((Nokia, Samsung, Apple, i-mobile, RIM BlackBerry, และ GNET Mobile), RIM Blackberry มีอัตราการเติบโตของการเปรียบเทียบนี้มากที่สุด ต่างแบรนด์ ต่างอายุ ต่างไลฟ์สไตล์: กลุ่มผู้ใช้มือถือแต่ละยี่ห้อมีค่านิยมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย 53% เลือก Nokia เป็นผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ตนเองชื่นชอบที่สุด โดยมีฐานคะแนนสำคัญจากกลุ่มผู้ใช้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป (80%) อย่างไรก็ดี การแข่งขันนี้ดุเดือดขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อมองสถิติในกลุ่มผู้ใช้ที่อายุอยู่ในช่วง 16 — 24 ปี โดยในกลุ่มนี้ Nokia ชนะ Apple ไปเพียงแค่ 7% เท่านั้น ในด้านของผู้ให้บริการทางเครือข่าย AIS มีผู้ใช้ Nokia อยู่ในเครือข่ายมากที่สุดที่ 51% ในขณะที่ DTAC และ TrueMove มีผู้ใช้ BlackBerry และ Apple มากกว่า อย่างไรก็ดี แม้กลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จะเริ่มมีความแตกต่างอย่างชัดเจนทางค่านิยมและกลุ่มอายุแบบมีนัยสำคัญ การตัดสินใจซื้อโทรศัพท์ของทุกกลุ่ม ทุกอายุก็ยังคงได้รับอิทธิพลจากผู้ขายสินค้าหน้าร้านมากที่สุดถึง 63% ในขณะที่บทความวิจารณ์ทางนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์มีอิทธิพลเพียง 18.3% เท่านั้น นอกจากนี้ 93% ของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกกลุ่มยังคงซื้อโทรศัพท์ในห้างหรือแผงขายปลีกในห้างเป็นหลัก ตามมาด้วยร้านขายโทรศัพท์อิสระ (ที่ไม่ขึ้นตรงต่อแบรนด์ใดๆ) สงครามสมาร์ทโฟน “ที่สุด”แห่งความแตกต่าง : Nokiaครองส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุด, RIM Blackberry ครองมือถือรุ่นที่ขายดีที่สุด, แอนดรอยด์เป็นที่รู้จักที่สุด, และลูกค้า Apple ดาวน์โหลด “แอป” มากที่สุด แม้ Nokia จะยังยึดครองความเป็นผู้นำส่วนแบ่งทางการตลาดของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนไว้ได้ พร้อมทั้งยังเป็นเจ้าของโทรศัพท์สมาร์ทโฟน 5 รุ่นจาก 10 รุ่นยอดนิยม หากโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่เป็นที่นิยมที่สุด 3 อันดับแรกกลับไม่มีโทรศัพท์ Nokia รวมอยู่ด้วย โดยโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นที่เป็นที่นิยมที่สุดตกเป็นของ RIM BlackBerry 8500 Curve (13%) ตามมาด้วย Apple iPhone4 (8%) และ RIM BlackBerry 9700 Bold (7%) ตามลำดับ นอกจากนี้ แม้ว่า Symbian จะเป็นระบบปฎิบัติการที่มีผู้ “ใช้” มากที่สุด เนื่องจากส่วนแบ่งทางการตลาดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของ Nokia ที่ครองผู้ใช้เกือบครึ่งตลาด (48%) Andriod กลับเป็นระบบปฏิบัติการที่ “เป็นที่รู้จัก” ที่สุด (58%) ในด้านของแอปปลิเคชั่น ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนในประเทศไทย 8 ใน 10 คนจะเลือกดาวน์โหลดแอปปลิเคชั่นที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีเท่านั้น โดยค่าใช้จ่ายในการซื้อแอปปลิเคชั่นของผู้ใช้ในประเทศไทยโดยเฉลี่ยตกอยู่ที่ 22.2 บาทในหนึ่งเดือน อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์ Apple iPhone มีการใช้จ่ายเพื่อซื้อแอปปลิเคชั่นมากกว่าผู้ใช้โทรศัพท์ยี่ห้ออื่นถึงกว่าสองเท่า และยังเป็นผู้ใช้กลุ่มที่ลงแอปปลิเคชั่นในเครื่องโทรศัพท์มากที่สุดถึง 43 แอปปลิเคชั่นต่อเครื่องโดยเฉลี่ย แอปปลิเคชั่นประเภท “เกมส์” คือแอปปลิเคชั่นกลุ่มที่ได้รับการดาวน์โหลดมากที่สุด (37%) โดยผู้ใช้ Apple iPhone เป็น “เกมเมอร์” ตัวยงที่ใช้เวลาเล่นเกมส์ในโทรศัพท์รวมแล้วเป็นเวลา 1.5 วันต่อระยะเวลาหนึ่งเดือนโดยเฉลี่ย Facebook เป็นแอปปลิเคชั่นที่มีผู้ใช้มากที่สุดถึง 100%, YouTube ครองความเป็นเจ้าแห่งแอปปลิเคชั่น video sharing (99%), Google ครองแชมป์แอปฯ Search Engine (100%), Windows Live Messenger ยังคงนำ WhatsApp ในด้านของ แอปปลิเคชั่น Instant Messaging อยู่ถึง 65% แอปปลิเคชั่นของธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำในส่วนของ Mobile Banking (75%) และแอปปลิเคชั่นข่าวของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐนำแอปปลิเคชั่นข่าวของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการอยู่ 16% “ในตลาดสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่เช่นในอเมริกาและยุโรป ระบบปฏิบัติการ Android เป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้มากที่สุด ทิ้งคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด กระแสการเปลี่ยนแปลงในตลาดโลกนี้น่าจะส่งผลกับตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยในไม่ช้านี้” หวางกล่าว สาวก “เกมส์” พร้อมจ่ายเงินซื้อมือถือสมาร์ทโฟนมากที่สุด ในด้านของการเลือกซื้อ “รูปลักษณ์ที่ทันสมัย” เป็นปัจจัยหลักที่ผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในประเทศไทยให้ความสำคัญในการเลือกซื้อ อย่างไรก็ดี จากสถิติของ Smartphone Insights ของนีลเส็นพบว่า เมื่อมองลึกลงไปในกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนแต่ละแบรนด์ ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อของผู้ใช้แต่ละกลุ่มนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยผู้ใช้ Nokia ให้ความสำคัญกับ “รูปลักษณ์ที่ทันสมัย” (33%) ผู้ใช้ Apple iPhone เลือก “นวัตกรรมการใช้ที่ล้ำหน้า” (30%) และผู้ใช้ RIM BlackBerry เลือก “เหมาะสำหรับการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น” (36%) นอกจากนี้ การศึกษาของนีลเส็นยังพบว่า ผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่เลือก “เหมาะสำหรับการเล่นเกมส์” เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ คือกลุ่มผู้ใช้ที่พร้อมจะจ่ายเงินซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่สูงที่สุดถึง 17,755 บาท โดยค่าเฉลี่ยทั่วไปอยู่ที่เพียง 10,200 บาท “นี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่รอผู้ผลิตและผู้ให้บริการอยู่ ความเข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างของกลุ่มลูกค้า และความสามารถในการผลิตสินค้าหรือให้บริการที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้ากลุ่มย่อย จะสามารถเปิดช่องทางในการ position สินค้าหรือบริการนั้นๆให้เป็นกลุ่ม premium ได้” หวางกล่าวเพิ่มเติม [1] CIA Factbook 2010

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ