กรุงเทพ--6 ม.ค.--
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำด้านการบริหารจัดการแรงงานเชิงนวัตกรรมในยุคแห่งมนุษยชน เปิดศักราชปี 2555 เดินหน้าสานต่อ กิจกรรมโครงการฟื้นฟู ฟื้นใจประตูความรู้หลังน้ำลด จากเหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ที่ต้องการช่วยเหลือสถานศึกษา ซึ่งเป็นประตูบานแรกที่จะนำความรู้กลับมาสู่เยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ แหล่งบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ศักยภาพแรงงานของประเทศที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งเปิดรวบรวมอุปกรณ์ สิ่งของจากกลุ่มพันธมิตรบริษัทฯต่างๆ ให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกกว่า 5 แห่ง โดยแมนพาวเวอร์กรุ๊ปยังคงเดินหน้าสานต่อและประสานงานกับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ในการช่วยเหลือจนกว่าโรงเรียนในพื้นที่จะกลับสู่สภาพปกติ
นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดแมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ได้รับผลกระทบในหลายพื้นที่ ?ซึ่งได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก อาทิ นิคมอุตสาหกรรม อาคารบ้านเรือน หน่วยงานราชการ และสถานศึกษาหลายๆ แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยการช่วยเหลือเยียวยาจะมาในช่วงต้นเท่านั้น ดังนั้นแมนพาวเวอร์กรุ๊ป จึงได้มีการจัดกิจกรรมลงพื้นที่ในอยุธยา สานต่อ กิจกรรมโครงการฟื้นฟู ฟื้นใจประตูความรู้หลังน้ำลด เพื่อระดมแรงงานที่มีจิตศรัทธาทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมทั้งกลุ่มพันธมิตรในบริษัทฯต่าง ๆ ในการร่วมทำกิจกรรม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะเดินหน้าโครงการตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ในปี 2555 เพื่อเป็นของขวัญชิ้นสำคัญให้กับคนในพื้นที่ นักเรียน ครู และโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ
“การลงพื้นที่ในครั้งนี้ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เริ่มต้นกับโรงเรียนกับ 5 โรงเรียนแรกในอยุธยา อาทิ โรงเรียนบางปะอิน โรงเรียนปราสาททอง โรงเรียนบางปะอินราชา โรงเรียนบางไทรวิทยาและโรงเรียนเจ้าฟ้าสร้าง ซึ่งทั้ง 5 โรงเรียนดังกล่าวได้รับผลกระทบเป็นอย่างสูงจากเหตุการณ์ผลกระทบในครั้งนี้ ซึ่งจากการเข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้น ได้รับการบอกกล่าวถึงการเข้าช่วยเหลือ คือ ต้องการเพียงให้โรงเรียนสามารถดินหน้าในการเรียนการสอน เดินหน้าพลิกฟื้นพื้นที่ภายในโรงเรียน เดินหน้าพลิกฟื้นอุปกรณ์การเรียน พลิกฟื้นความรู้ให้กับเด็กๆ อย่างรวดเร็วในปี 2555 นี้ ดังนั้นปีนี้ในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจึงทุ่มงบประมาณช่วยเหลืออีกกว่า 2 ล้านบาท และหาเครือข่ายพันธมิตร กลุ่มที่ต้องการช่วยเหลือเด็กๆ ที่จะเป็นอนาคตของชาติ เป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไปในอนาคต” นางสาวสุธิดา กล่าวทิ้งท้าย