กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--ตลาดกลางสัตว์น้ำกรุงเทพ
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร วางศิลาฤกษ์ตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำกรุงเทพ ศูนย์กลางค้าปลีก ค้าส่งตลาดปลาใหญ่สุดในกรุงเทพฯ เสริมสิริมงคลให้กับพ่อค้า แม่ค้า รับปีมังกรทอง มั่นใจเศรษฐกิจฟูเฟื่องค้าขาย คล่อง พร้อมเดินหน้าพัฒนาเป็นตลาดค้าปลาครบวงจรใหญ่สุดในกรุงเทพฯ มั่นใจเปิดให้บริการกลางปี 55
นายศุภกิจ ปิยสิรานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท กรุงเทพซีฟู้ดส์ มาร์เก็ต จำกัด ผู้บริหาร ศูนย์กลางค้าปลีก ค้าส่งสัตว์น้ำจืด น้ำเค็ม และซีฟู้ดใหญ่สุดในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ “ตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำกรุงเทพ” เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ทรงเป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำกรุงเทพ พร้อมมีพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตลาดและบรรดาพ่อค้า แม่ค้าที่ค้าขายอยู่ในตลาด ขณะเดียวกันเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้า แม่ค้า ตลอดจนผู้บริโภคและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้รับรู้ความเคลื่อนไหว และสร้างความเชื่อมั่นต่อการดำเนินกิจการของตลาดด้วย ด้านความคืบหน้าของการดำเนินการก่อสร้าง ขณะนี้ได้ดำเนินการปรับพื้นที่และพร้อมดำเนินการก่อสร้างทั้งในส่วนของโรงประมูลสัตว์น้ำ อาคารพาณิชย์ โรงอาหาร ฯลฯ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จและเปิดทำการค้าขาย ได้ภายในกลางปี 2555 นี้แน่นอน ซึ่งขณะนี้มีพ่อค้า แม่ค้าเข้ามาจับจองพื้นที่แล้วเกือบ 100% โดยส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า แม่ค้าที่ต้องการขยายแผงค้าขาย เพื่อรองรับลูกค้าที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ต่างเชื่อมั่นว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้น ทำให้การค้าขายเฟื่องฟู และคล่องตัวมากขึ้นกว่าปีก่อน
สำหรับตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำกรุงเทพ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 16 บริษัท ที่เป็นสมาชิกของสมาคมส่งเสริมการประมง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นศูนย์กลางค้าปลีก ค้าส่งสัตว์น้ำแห่งใหม่ที่รวมสัตว์น้ำจืด น้ำเค็ม และซีฟู๊ด ใหญ่สุดในกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 18 ไร่บนถนนเอกชัย — บางบอน ใกล้กับวงแหวนอุตสาหกรรม มีจุดเด่นที่การคมนาคมสะดวก รวดเร็ว เหมาะสำหรับชาวประมง ที่นำสินค้าเข้ามาส่งจำหน่าย รวมถึง พ่อค้า แม่ค้า ภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรมและลูกค้าทั่วไป ที่มาซื้อสินค้าเพื่อนำไปจำหน่ายหรือรับประทาน
ภายในตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำกรุงเทพประกอบไปด้วย โรงประมูลขนาด 5,000 ตารางเมตร รองรับการซื้อขายของทั้ง 16 บริษัท อาคารพาณิชย์จำนวน 24 ยูนิต โรงอาหาร ห้องเย็นเก็บสินค้า อาคารสำนักงาน และลานจอดรถรองรับได้ 500 คัน ด้วยงบก่อสร้างและดำเนินการกว่า 70 ล้านบาท นอกจากนี้ใช้งบลงทุนกว่า 10 ล้านบาท ในการติดตั้งเทคโนโลยีในการบำบัดน้ำเสีย กำจัดกลิ่น และการดูแลรักษาความสะอาด เพื่อสร้างบรรยากาศให้เป็นตลาดสดสมัยใหม่ ที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “ตลาด สีเขียว” (Green Freeze Market) โดยตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำกรุงเทพ เฟสแรกจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในกลางปี 2555 และใช้งบลงทุนอีก 20 ล้านบาท ในการดำเนินเฟส 2 ซึ่งจะพัฒนาเป็นตลาดชุมชน จำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป จากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคโดยตรงแบบไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปลายปี 2555 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า ทั้งนี้เบื้องต้นประเมินว่าจะสามารถคุ้มทุนได้ภายใน 5 ปี
อย่างไรก็ดี กลุ่มลูกค้าของตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำกรุงเทพ แบ่งออกเป็น พ่อค้า แม่ค้า ภัตตาคาร ร้านอาหาร และโรงแรม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม โรงงานแช่แข็ง ส่งออกต่างประเทศ และผู้บริโภคทั่วไป อีกร้อยละ 40 โดยคาดว่าจะมีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาซื้อและขายสินค้าจากทั่วทุกภาคของประเทศมากกว่า 1,000 รายต่อวัน ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนภายในตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำกรุงเทพมากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี
“ ตลาดกลางสัตว์น้ำกรุงเทพ ถือเป็นตลาดซีฟู๊ดแห่งแรกที่มีการจัดระเบียบตามสากล และเป็นกรีน ฟรีซ มาร์เก็ตอย่างแท้จริง ซึ่งตลาดจะเดินหน้าพัฒนาและยกระดับมาตรฐานให้เทียบเท่าสากลทั้งด้านฟาร์มเพาะเลี้ยง และระบบมาตรฐานการผลิตและแปรรูปต่างๆ เพื่อรองรับการเป็นครัวของโลกจากการเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีขึ้นในปี 2558 ซึ่งจะเป็นโอกาสให้พ่อค้า แม่ค้าของไทยสามารถขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้ ”