สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำสัปดาห์ และแนวโน้มในสัปดาห์นี้ ที่ 16 — 20 ม.ค. 55

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 16, 2012 13:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--ปตท. ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า ราคาน้ำมันสัปดาห์ที่ 9-13 ม.ค. 55 ราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) เฉลี่ยลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.94 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 100.44 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยลดลง 0.97 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 111.93 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.13 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 110.88 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซิน 95 เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.18 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 123.50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.16 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 129.81 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่ ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ - สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Standard & Poor's ปรับลดอันดับเครดิตของประเทศฝรั่งเศส และออสเตรียจากอันดับ AAA มาอยู่ที่ AA+ - สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (Eurostat) รายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ของกลุ่มยูโรโซน ในเดือน พ.ย. 54 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 0.1% ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม - กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) ในเดือน พ.ย. 54 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 0.8% - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. 55 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 24,000 ราย มาอยู่ที่ 399,000 ราย - UK Consultancy Oil Movements รายงานปริมาณส่งออกน้ำมันดิบทางเรือของ OPEC ไม่รวม Angola และ Ecuador เฉลี่ยสี่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. 55 จะเพิ่มขึ้น 420,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 23.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน - สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration: EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเชิงพาณิชย์สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ม.ค. 55 โดยน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 4.96 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 334.65 ล้านบาร์เรล , Gasoline เพิ่มขึ้น 3.61 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 223.80 ล้านบาร์เรล และ Distillate เพิ่มขึ้น 3.99 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 147.56 ล้านบาร์เรล ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก - ธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1% ในเดือน ม.ค. 55 เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโร และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ให้สัมภาษณ์ว่าโครงการท่อขนส่งน้ำมันดิบขนาด 1.5 - 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งใช้ลำเลียงน้ำมันจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบในประเทศไปยังเมืองท่า Fujaira โดยไม่ผ่านช่องแคบฮอร์มุส เลื่อนเปิดดำเนินการจากเดือน เม.ย. 55 ไปเป็นเดือน มิ.ย. 55 - กรมศุลกากรจีนรายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบเดือน ธ.ค. 54 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 5.5% อยู่ที่ระดับ 5.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน - บริษัท Aramco Oil Co. ของซาอุดีอาระเบีย และบริษัท China Petrochemical Corp. ของจีนร่วมทุนก่อสร้างโครงการโรงกลั่นน้ำมันขนาด 400,000 บาร์เรลต่อวัน ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย บริเวณชายฝั่งของทะเลแดง มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2557 โดยอัตราส่วนการลงทุน ซาอุดีฯ 62.5% และจีน 37.5% ในระยะสั้นราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI มีแนวรับแนวต้านอยู่ที่ 108 — 116 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ 96 - 104 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลตามลำดับ ทั้งนี้ราคาน้ำมันมีความผันผวนปรับตัวขึ้นลงตามปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางจิตวิทยา โดยนักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สินในกลุ่มยูโรโซน หลังสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Standard & Poor's ปรับลดอันดับเครดิตของ 9 ประเทศในกลุ่มยูโรโซน ขณะที่สหภาพยุโรปมีแนวโน้มเลื่อนการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านออกไปอีก 6 เดือน เพื่อให้ประเทศสมาชิก อาทิ กรีซ อิตาลี และสเปน มีเวลาเพียงพอในการจัดหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่นทดแทน (Grace Period) อย่างไรก็ตามความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกมีทีท่ารุนแรงขึ้น หลังอิหร่านเดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียม และตัดสินโทษประหารอดีตนายทหารสหรัฐฯ Mr. Amir Mirza Hekmati ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับของสหรัฐฯ รวมถึงประกาศแผนซ้อมรบบริเวณช่องแคบฮอร์มุซครั้งที่สองในเดือน ก.พ. 55 ประกอบกับ Reuter Polls รายงานนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าประเทศจีนมีแนวโน้มลดสัดส่วนเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement Ratio: RRR) ลง 8% ภายในปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ให้ติดตามผลการตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์อิหร่านโดย International Atomic Energy Agency (IAEA) ซึ่งมีกำหนดเดินทางเยือนประเทศอิหร่านในช่วงปลายเดือน ม.ค. นี้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อราคาน้ำมัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ