กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--อาร์เอส
“อาร์เอส” ปี 2012 เดินหน้าธุรกิจกีฬาเต็มกำลัง ส่งลาลีกา สเปน เอาใจคอบอลทั่วประเทศ ประเดิมเปิดนิยามใหม่ Pay TV ด้วยแนวคิด ซื้อเป็นช่อง ราคาโดนใจ ในแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน พร้อมดันธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียม ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นใจสามารถขึ้นเป็นเบอร์ 1 ชิงเม็ดเงินโฆษณา หวังปั๊มรายได้ทั้งปี 3,200 ล้านบาท
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมของธุรกิจบันเทิงในปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีไม่คึกคักเท่าที่ควรเนื่องจากภัยธรรมชาติ จึงทำให้หลายๆคนจับตามองว่าภาพรวมธุรกิจบันเทิงในปีมังกร จะกลับมาคึกคักได้อีกเมื่อไหร่ เมื่อประเมินจากสถานการณ์แล้ว ภาพรวมของธุรกิจบันเทิงตั้งแต่ต้นปีส่งสัญญาณที่ดี เนื่องจากลูกค้าหรือเอเจนซี่มีการเร่งวางแผนสื่อการตลาดและใช้สื่อประชาสัมพันธ์หลังจากที่เกิดช่องว่างทางการตลาดในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีก่อน ต้นปี 2012 หลายๆ บริษัทจึงเร่งทำการตลาดอย่างเต็มที่ ซึ่งก็ส่งผลดีกับอาร์เอสในฐานะผู้นำด้านธุรกิจบันเทิงครบวงจร
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของอาร์เอสในปี 2012 ภายใต้คอนเซ็ปต์ A Year of Social Entertainment อาร์เอสมุ่งสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ควบคู่กับการรุกธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อเสริมกับกลุ่มธุรกิจทั้งหมดในเครืออาร์เอสให้เดินหน้าไปพร้อมๆกัน ทั้งกลุ่ม Entertainment Content Provider และ กลุ่ม Media Service ด้วย Social Entertainment ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากโซเชียล เน็ตเวิร์ค (Social Network) อันได้แก่ facebook, twitter, etc ซึ่งจากที่เคยใช้การบอกต่อกันไปได้เพียงไม่กี่คนในอดีต จึงเกิดเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่สามารถส่งต่อและแบ่งปันข้อมูลของตัวเองไปสู่คนได้อีกเป็นจำนวนมาก จนเข้าสู่ยุคของการส่งต่อข้อมูลข่าวสาร และนั่นคือที่มาของการส่งต่อคอนเทนต์บันเทิง และเครือข่ายของสังคมออนไลน์ขึ้น โดยอาศัย Platform ใหม่ๆ อาทิเช่น Internet TV หรือการ share link VDO ของ Youtube ไปให้เพื่อนๆ ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของตัวเอง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มาแรงสำหรับปีนี้
โดยธุรกิจในเครืออาร์เอสทั้งหมด จะใช้ยึดเป็นแนวทางในการเดินหน้าธุรกิจทั้งหมดในปี 2012 ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ กลุ่มแรกก็คือ Entertainment Content Provider ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจเพลงและดิจิตอล ธุรกิจโชว์บิซ และธุรกิจกีฬา ส่วนกลุ่ม Media Service ประกอบไปด้วย ธุรกิจโทรทัศน์ ธุรกิจวิทยุ และธุรกิจบริหารสื่อในโมเดิร์นเทรด พร้อมๆ กับการปรับโครงสร้างธุรกิจให้เหมาะสม สอดคล้อง และยืดหยุ่น เพื่อให้ธุรกิจทั้งหมดในเครืออาร์เอส เดินหน้า และเติบโตไปพร้อมๆกันได้อย่างลงตัว
ในปี 2012 บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีรายได้รวม 3,200 ล้านบาท เป็นสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจเพลงและดิจิตอล 950 ล้านบาท ธุรกิจโชว์บิซ 850 ล้านบาท ธุรกิจกีฬา 230 ล้านบาท และธุรกิจสื่อ 1,170 ล้านบาท โดยยังคงเน้นการผนวกคอนเทนต์บันเทิงรวมกับสื่อทุกประเภทที่มีอยู่ในมือเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน พร้อมกับต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโต อีกทั้งยังเดินหน้าลุยงานบรอดคาสติ้งอย่างเต็มกำลัง และยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจโทรทัศน์ที่เป็นดาวรุ่งที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา รวมถึงธุรกิจกีฬาที่เราเพิ่งคว้าสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลดังระดับโลกอย่าง ลาลีกา สเปน มาได้ถึง 3 ปีซ้อน ควบคู่กับการพัฒนาและสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดร่วมกับลูกค้า ผ่านหน่วยงานบริหารลูกค้าองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม อาร์เอสเชื่อว่าในปี 2012 จะสามารถเดินหน้าและผลักดันธุรกิจทั้งหมดในเครือให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
โดยตัวขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจคอนเทนต์ในปี 2012 ก็คือ ธุรกิจเพลงและดิจิตอล (Music & Digital) ที่เดินหน้าธุรกิจเพลงอย่างเต็มกำลังในยุคดิจิตอลสมบูรณ์แบบ ทั้งส่วนของ Mobile และ Online ปัจจุบันเราสามารถครองแชมป์ตลาดเพลงวัยรุ่นภายใต้แบรนด์ Kamikaze อีกทั้งเพลงลูกทุ่งของอาร์เอส ภายใต้แบรนด์ อาร์สยาม ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และเป็นผู้นำในตลาดเพลงลูกทุ่งดิจิตอล และคาดว่าจะทำรายได้อยู่ที่ 950 ล้าน อีกทั้งในปี 2012 อาร์เอสคาดว่าธุรกิจเพลงและดิจิตอลจะยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ถึงแม้การละเมิดลิขสิทธิ์จะยังไม่หมดไป แต่ในอนาคตบริษัทมีแผนจะทำการตลาดแบบใหม่จากเดิมในรูปแบบ มิวสิค ดาวน์โหลด (Music Download) เข้าสู่ยุคของ มิวสิค สตรีมมิ่ง (Music Streaming ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศในขณะนี้) คือเป็นการดึงเพลงขึ้นมาฟังได้เลยจากระบบออนไลน์โดยไม่ต้องมีการดาวน์โหลดเก็บไว้ ทั้งนี้ธุรกิจเพลงจะต้องทำงานร่วมกับค่ายมือถือหรือโอเปอร์เรเตอร์ (Mobile Operators) และเมื่อเทคโนโลยีอำนวยก็คาดว่าระบบนี้ได้ในอนาคตอันใกล้ หวังขยายฐานลูกค้าและจับกลุ่มผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือในกลุ่มสมาร์ทโฟน ( Smart Phone)จากการสำรวจพบว่าในปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟน มากถึง 30 % จากผู้ใช้งานโทรศัพท์ทั้งหมด แต่เป็น 30 % ที่มีกำลังซื้อสูงจึงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจในการทำตลาดด้วยเป็นอย่างมาก
ธุรกิจโชว์บิซ (Showbiz) จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาส่งผลให้มีการชะลอตัวของงานกิจกรรมและมารุกหนักในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะมีทั้งหน่วยงานราชการและเอกชนแบ่งสัดส่วนเป็น งานราชการ 70 % และเอกชน 30 % ในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับคอนเสิร์ตใหญ่แห่งปีที่ทุกคนต้องพูดถึงอย่าง RAPTOR 2011 THE CONCERT ในปีนี้อาร์เอสสานต่อความสำเร็จโดยการวางแผนจัดคอนเสิร์ตของศิลปินที่จะกลับมาสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอีกครั้ง รวมไปถึงคอนเสิร์ตจากศิลปินยอดนิยมจากอาร์เอส Kamikaze และอาร์สยามตลอดทั้งปี 2555 ซึ่งคาดว่าคอนเสิร์ตใหญ่ๆที่จะมีในปีนี้ จะเริ่มต้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ช่วงเดือนเมษายน โดยคาดว่าธุรกิจนี้จะมีไม่ต่ำกว่า 10 คอนเสิร์ต อย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้อยู่ที่ 850 ล้านบาท
สำหรับ ธุรกิจกีฬา (Sport) อาร์เอสคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลดังระดับโลกอย่าง ลาลีกา สเปน มาได้ถึง 3 ปีซ้อน ระหว่าง 2012-2015 โดยเรามีแผนจะเปิดช่องโทรทัศน์ดาวเทียมเพิ่มขึ้นอีก 1 ช่อง ในรูปแบบใหม่ New Definition of Pay TV ภายใต้แนวคิด ถูกกว่า สะดวกกว่า ราคาเป็นมิตร โดยคาดว่าจะมีราคาสมาชิกอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าบาทเท่านั้น ทำให้ลาลีกา สเปน เป็นที่รู้จักและเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการรองรับคอนเทนต์กีฬาได้รับชมฟุตบอลลาลีกาแบบจุใจ 380 แมตท์ตลอดฤดูกาลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 นี้เป็นต้นไป อีกทั้งยังมีกิจกรรมทางการตลาดและอีเวนต์ใหญ่ (Big Event) จัดขึ้นควบคู่กันไปเพื่อสร้างสีสันให้กับแฟนฟุตบอลทั่วประเทศอีกด้วย คาดทำรายได้ 230 ล้าน หรือเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 1,050 % จากปีก่อน สำหรับสปอนเซอร์ที่จะมาร่วมสนับสนุน ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการเจรจา
ในขณะที่ธุรกิจมีเดียก็มีแนวโน้มที่ดี ซึ่งธุรกิจวิทยุ (Radio) ภายใต้แบรนด์ Cool 93 Fahrenheit ก็มีความแข็งแกร่งในการเป็นเครื่องหมายทางการค้าที่มีมูลค่า (Brand Value) สูง ทำให้ในปีนี้ Cool93 Fahrenheit มีแผนขยายเน็ตเวิร์กเพิ่มมากขึ้น โดยการขยายเครือข่ายไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Cool93 Fahrenheit Check-in @ Chiang Mai เพื่อเป็นการเพิ่มฐานผู้ฟังไปยังเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นการเพิ่มมูลค่าสื่อ (Media Value) ให้กับลูกค้าและผู้สนับสนุนที่ให้ความไว้วางใจในคลื่น Cool93 Fahrenheit มาอย่างยาวนานในฐานะคลื่นเพลง Easy Listening อันดับ1 จากการสำรวจของ Nielsen Media Research ตลอดระยะเวลากว่าสิบปี ในปีนี้ คาดทำรายได้ 340 ล้านบาท หรือโตขึ้น 6 %
สำหรับธุรกิจดาวรุ่งที่เป็นตัวจักรสำคัญในการสร้างรายได้และการเติบโตอย่างมากในปีนี้ก็คือ ธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียม (Sattellite TV Market Trend) โดยในปีที่ผ่านช่องสบายดีทีวี และ YOU Channel ก็ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของรายได้ และเรทติ้ง โดยครองอันดับ1ในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของช่อง8 ซึ่งเปิดตัวแรงในปีที่แล้ว ด้วยการครองอันดับ 2 ในกลุ่ม Entertainment Variety ปีนี้ตั้งเป้าก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ1 ( Top Players) ด้วยคอนเทนต์คุณภาพอย่างละครทองประกายแสด แก้วกลางดง เป็นต้น และสุดท้ายกับช่อง YAAK TV ที่เปิดตัวประสบความสำเร็จเกินคาดกับการเป็นช่องเดียวในประเทศไทยที่ใช้รูปแบบหน้าจอทีวีแบบ Social Screen ที่ดึงข้อมูลแบบ Real Time จาก Social Network ต่างๆ ทำให้ช่อง YAAK TV ได้รับการตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่นอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทประเมินว่าธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมยังมีโอกาสเติบโตและขยายตัวอีกมากในช่วง 2-3 ปีนี้ การเข้ามารุกตลาดในช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นอย่างมากและเชื่อว่าในปี 2012 โทรทัศน์ในเครืออาร์เอสทั้ง 4 ช่อง ได้แก่ สบายดี ทีวี , YOU CHANNEL รวมถึงช่อง8 และช่อง ย๊าค ทีวี ที่เพิ่มเปิดตัวไปจะทำกำไรให้เห็นได้อย่างแน่นอน คาดทำรายได้ 750 ล้าน แยกเป็นรายได้จากฟรี ทีวี 200 ล้าน และโทรทัศน์ดาวเทียม 550 ล้าน หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 74 %
ทั้งนี้บริษัทจะไม่เน้นการเพิ่มจำนวนช่องหรือทำธุรกิจโทรทัศน์ในรูปแบบแพลตฟอร์ม (Platform) แต่จะเน้นทำการผลิตช่องโทรทัศน์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้ชมในแต่ละกลุ่มที่ชัดเจน ถึงแม้จะมีช่องโทรทัศน์เกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมเป็นธุรกิจที่มีเสน่ห์ มีตัวเลขการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดว่าในปี 2012 จะมีเม็ดเงินโฆษณาที่หมุนเวียนมากถึง 3,000 ล้าน และเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านในปี 2013 แต่การที่จะบริหารแล้วให้ประสบความสำเร็จนั้นยาก ผู้ที่จะอยู่รอดได้นั้นจะต้องแข่งขันและสู้ กันด้วยคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจริงๆ ถึงจะอยู่ต่อได้
“บริษัทมองว่าอุตสาหกรรมบันเทิงเมืองไทยปี 2012 น่าจะมีความคึกคัก จากการเกิดขึ้นของสื่อในรูปแบบใหม่ๆอย่างทีวีดาวเทียม โดยให้คอนเทนต์ลาลีกา สเปน เป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างรายได้ ส่วนธุรกิจเพลงจะเดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ Music Streaming แม้การละเมิดจะยังคงอยู่แต่น่าจะมีบริการใหม่ๆเกิดขึ้นจากการมาของ3จีที่เต็มรูปแบบของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผมเชื่อว่าอาร์เอสจะสามารถเก็บเกี่ยวโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่หลังจากที่ได้มีการปรับองค์กรให้มีความคล่องตัว และพร้อมรับมือกับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกยุคดิจิตอล และเชื่อว่าภายใต้กลยุทธ์โซเชียล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ขององค์กร จะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,200 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 20% ได้อย่างแน่นอน” นายสุรชัย กล่าวทิ้งท้าย