กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,659.90 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.30 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงินยูโรแข็งค่า และความเชื่อมั่นว่ากองทุน IMF จะเพิ่มเงินทุนเพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาหนี้ในยูโรโซน
Key Points in Gold Market
- ในช่วงเช้าวันนี้ปรับลดลงมาที่บริเวณ 1,657 — 1,659 USDต่อออนซ์ เมื่อวานนี้ราคาทองคำได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,662.90 ส่วนจุดต่ำสุดยกสูงขึ้นเล็กน้อยที่บริเวณ 1,642.10 USDต่อออนซ์ ความเคลื่อนไหวของราคายังเป็นลักษณะ side way ออกด้านข้าง แนะนำ นักลงทุน ที่ถือสถานะ Long ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณ 1,668/1,675 ส่วนผู้ไม่มีสถานะ Trading ในกรอบ 1,645 — 1,675 USDต่อออนซ์
- การประกาศจะเพิ่มเงินทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือของกองทุน IMF ทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นในสหรัฐทะยานขึ้น พร้อมกับการปรับบวกขึ้นได้ของราคาทองคำ ค่าเงินยูโรและราคาทองคำ ได้รับแรงสนับสนุนจาก การประกาศของ IMF ที่จะเพิ่มเงินทุนช่วยเหลือแก่ประเทศที่ประสบปัญหาหนี้อีก 6 แสนล้านUSD และการที่ฟิทซ์เรทติ้งประกาศว่า อิตาลีจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงการที่เยอรมันและโปรตุเกสขายพันธบัตรรัฐบาลได้สำเร็จ แม้ว่าโปรตุเกสจะถูก S&P ปรับลดอันดับเครดิตของประเทศลงมาอยู่ในระดับขยะ
- ภาพในระยะสัปดาห์มีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น เมื่อนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาอ่อนตัว และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ โดยมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ ด้านปัจจัยพื้นฐานเริ่มดีขึ้น เมื่อค่าเงิน USD เริ่มอ่อนค่าลง ราคาน้ำมันยืนเหนือ 100 USDต่อบาร์เรล การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในยุโรปประสบความสำเร็จ และการประกาศการให้ความช่วยเหลือทางเงินเพิ่มขึ้นของ IMF อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นสู่แนวต้านของราคาทองคำในแต่ละรอบจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ เนื่องจาก ภาพทางเทคนิคในระยะกลางยังถูกกดด้วยเส้น Down Trend Line และข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรปยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามต่อไป โดยแม้ว่าล่าสุด IMF จะประกาศให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น แต่ถ้าพิจารณาถึงเงินที่มายังไม่ชัดเจน โดย IMF จะพยายามให้ จีน อินเดีย รัสเซีย และบราซิล ให้เงินสนับสนุนแก่ IMF มากขึ้น แต่ที่ผ่านมาประเทศที่ให้การสนับสนุน IMF มากที่สุด คือ สหรัฐ และชาติในยุโรปซึ่งขณะนี้ประสบปัญหาหนี้สูง
- ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำและต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ การคาดการณ์ว่าจีนอาจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราเงินเฟ้อในเดือน ธ.ค.ปรับตัวลดลงเล็กน้อย การเข้าอัดฉีดเงินของธนาคารกลางยุโรป การประชุม FOMC หรือการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐในวันที่ 24 — 25 ธ.ค. ส่วนปัจจัยลบในขณะนี้คือ ความกังวลในเรื่องที่ชาติในยุโรปถูกปรับลดอันดับเครดิตลง เมื่อ S&P ประกาศปรับลดอันดับเครดิตของ 9 ชาติในยุโรปไปแล้ว และสถาบันจัดอันดับเครดิตอื่นอาจมีการปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารและบริษัทใหญ่ๆของประเทศเหล่านั้นตามมา
- ราคาโลหะเงินในปิดที่ 30.54 USDต่อออนซ์ ปิดเพิ่มขึ้น 0.41 USDต่อออนซ์โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 29.74 — 30.59 ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,516.75 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 30.0/29.8 แนวต้านบริเวณ 30.7/31.4 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 29.8 — 31.4
- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,255.67 ตัน
Technical Analysis:
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,668/1,675 และแนวรับที่ 1,645/1,640 กราฟรายวัน ยังส่งสัญญาณบวก แต่เนื่องจากถูกกดไว้ด้วยเส้น Down Trend ในระยะกลาง ส่งผลให้การปรับตัวสูงขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด เมื่อราคาแตะที่แนวต้านก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมา และมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Side way เนื่องจาก MA หลายๆ เส้น เริ่มโน้มตัวเข้าหากัน คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640 - 1675 แนะนำ นักลงทุน ที่ถือสถานะ Long ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณ 1,668/1,675 ส่วนผู้ไม่มีสถานะ Trading ในกรอบ 1,645 — 1,675 USDต่อออนซ์
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 30.0/29.8 แนวต้านบริเวณ 30.7/31.4 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 29.8 — 31.4