กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--Frost & Sullivan
มร.มาร์ค ไอนสไตน์ Industry Manager บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก เปิดเผยถึงเทรนด์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชีย ในปี 2555 ดังนี้
แนวโน้มที่ 1 : Smartphones
ปีนี้จะเป็นปีแห่งความพยายามของทั้ง Nokia และผู้ผลิตอุปกรณ์จากประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าหลังจากการปรากฎตัวของ iOS ของค่าย Apple และ Android ของค่าย Google ทำให้ผู้เล่นรายอื่นนั่งไม่อยู่กับที่ ปีนี้ทาง Nokia หลังจากจับมือร่วมกับ Microsoft ต้องผลักดันให้ Windows Mobile เข้ามาเจาะตลาดในภูมิภาคนี้ให้ได้ ในขณะที่รุ่นโทรศัพท์อื่นๆ ของทาง Nokia ก็จะโปรโมต Nokia store เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเครื่องด้วยเช่นกัน
ในอดีตตลาดอย่างญี่ปุ่นกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ค่ายตะวันตกรายไหนก็เจาะเข้าไปไม่ได้ แต่ในปัจจุบัน SoftBank, KDDI หรือแม้แต่ NTT DoCoMO เองก็มุ่งไปที่ iPhone5 ส่งผลให้ผู้ผลิตในประเทศญี่ปุ่นเองต้องรีบปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ส่วน RIM น่าจะยังไปได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วน LG ยังคงต้องพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆเพื่อเจาะตลาดสมาร์ทโฟนให้ได้เหมือนรายอื่นๆ
แนวโน้มที่ 2 : Mobile Broadband
ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ สาธารณรรัฐประชาชนจีน และ อินเดีย ได้มีการติดตั้งระบบให้บริการ 4G ด้วยมาตรฐาน TD-LTE ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ประเทศมีความล่าช้าในการเปิดให้บริการ 3G พอสมควร นอกจากนี้เป็นที่คาดการณ์ว่าเราอาจได้เห็นประเทศ มาเลเชีย นิวซีแลนด์ และไต้หวันเตรียมเปิดให้บริการ 4G LTE ในช่วงปลายปี 2012 หรือต้นปี 2013 ก็เป็นได้ ส่วนบ้านเราจะเห็นข่าวเป็นช่วงทดลอง 4G LTE โดยผู้ให้บริการไปก่อน
แนวโน้มที่ 3 : Mobile Payments
แม้ว่าปี 2555 จะถูกประกาศให้เป็นปีของ NFC และมีการสนับสนุนจากค่ายผู้ผลิตอุปกรณ์มือถือมากมาย ประเทศสิงคโปร์และเกาหลีใต้จะเป็นประเทศแรกๆของภูมิภาคนี้ที่เริ่มนำ NFC มาใช้ อย่างไรก็ตาม Business Model ของธุรกิจที่ว่านี้กลับยังคงเป็นช่วงที่เริ่มต้นและยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าที่ควร ในขณะที่ Mobile Payments รูปแบบเดิมๆ อย่างการตัดเงินผ่านช่องทาง SMS ในตลาดของประเทศที่กำลังพัฒนาก็ยังคงไปได้เรื่อยๆ
แนวโน้มที่ 4 : Telecom vendors
ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ต้องจับตาว่าผู้ผลิตอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคม อย่าง Nokia-Siemens Network (NSN) และ Alcatel-Lucent จะออกกลยุทธ์ในธุรกิจ Mobile Broadband ออกมาอย่างไรบ้างหลังจากประกาศลดจำนวนพนักงานเป็นจำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ปี 2555 ยังเป็นปีแห่งการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นของค่าย Ericsson, Huawei และ ZTE และเชื่อว่าเราอาจเห็นการจับมือร่วมกันของบริษัทในแวดวงกลุ่มธุรกิจประเภทนี้อีก หรือไม่ก็ควบรวมกิจการไปเลยในอนาคตอันใกล้