กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
บลจ. กองทุนรวม กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประกาศแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง พร้อมรุกธุรกิจกองทุนรวม ตั้งเป้าทั้งปีออกกองใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 กอง มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เน้นครอบคลุมกองทุนทุกประเภท เพิ่มทางเลือกนักลงทุน เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ผู้ถือหุ้นใหญ่สนับสนุนเต็มที่
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดำเนินกิจการมาปีเศษก้าวสู่ปีที่ 2 ในเดือนเมษายนนี้ นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ให้จัดตั้งขึ้น กิจการของบริษัทฯ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นไปในทิศทางที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้คุณไววิทย์ อุทัยเฉลิม มาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงที่มีประสบการณ์ด้านกองทุนรวมมาช่วยงาน โดยคุณไววิทย์มีประสบการณ์ด้านการบริหารหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บริหารกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในองค์กรด้านการเงินและกองทุนรวมที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 7 ปี อาทิเช่น ING Fund , Bank Thai Asset Management และ Ploenchit Capital เป็นต้น รวมทั้งมีประสบการณ์ทำงานในองค์กรการเงินที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายมานานถึง 22 ปี นับเป็นระยะเวลาอันยาวนานในการสั่งสมประสบการณ์ความรู้ความสามารถในการทำงานด้านการเงิน การบริหารจัดการกองทุนรวม บริหารกองทุนส่วนบุคคล ที่จะนำพาธุรกิจบริหารจัดการกองทุนรวมของ บลจ. กิมเอ็ง ได้อย่างมืออาชีพ คุณไววิทย์ จบการศึกษาปริญญาโทจาก International Economic and Finance จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมมั่นใจว่าคุณไววิทย์เป็นนักบริหารด้านการเงินที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการกองทุนรวมที่สามารถนำประสบการณ์มาช่วยบริหาร บลจ. กองทุนรวม กิมเอ็ง และสามารถนำพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี”
นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ธุรกิจกองทุนรวมจะช่วยผลักดันให้การบริการด้านการลงทุนแก่ลูกค้าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เป็นไปอย่างครบวงจร ลูกค้าสามารถบริหารเงินลงทุนผ่านกองทุนเปิดกิมเอ็งบริหารเงิน (KECASH) ซึ่งเป็นกองทุนบริหารเงินที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เงินฝาก ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จึงมีความเสี่ยงต่ำ มั่นคง สภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ทุกวันทำการ โดยได้รับเงินค่าขายคืนภายในวันทำการถัดไป (T+1) โดยไม่เสียโอกาสทางการลงทุน เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ที่จะพักเงินลงทุนเพื่อรอลงทุนรอบใหม่ จากข้อมูลย้อนหลังพบว่ากองทุน KECASH ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์โดยอ้างอิงเกณฑ์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบตามหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุน KECASH โดยผลตอบแทนที่ผ่านมาย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2554 อยู่ที่ 2.89% ต่อปี โดยผลตอบแทนที่น่าสนใจนี้จะเป็นโอกาสและทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้าและนักลงทุนทั่วไปได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การเข้ามาบริหาร บลจ. กิมเอ็ง ของคุณไววิทย์ จะมีส่วนผลักดันสินค้าทางการเงินใหม่ๆ ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและนักลงทุนทั่วไปให้ได้รับประโยชน์จากการลงทุนอย่างคุ้มค่าที่สุด”
สำหรับแผนงานบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด นายไววิทย์ อุทัยเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า “รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่มี บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยอยู่ภายใต้กลุ่มเมย์แบงก์ มาเลเซีย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมด้านฐานะการเงินให้มั่นคงแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และช่วยขยายฐานลูกค้าในระดับสากลให้กับบริษัทฯ มากขึ้นอีกด้วย โดยปี 2555 บริษัทฯ คาดว่าจะเป็นปีที่การแข่งขันธุรกิจด้านกองทุนรวมจะเข้มข้นกว่าปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีแผนเพิ่มกองทุนให้ครอบคลุมทุกตลาดให้มากที่สุด หลังจากประสบความสำเร็จจากกองทุนเปิดกิมเอ็งบริหารเงิน (KECASH) โดยได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากลูกค้าหลักทรัพย์ของ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซึ่งเล็งเห็นผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าที่ได้รับและระบบการซื้อ-ขายที่สะดวกแบบการให้บริการสับเปลี่ยนอัตโนมัติ (Auto Switching) สะดวกรวดเร็วนับเป็นการสนับสนุนธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อกันเป็นอย่างดี นอกจากนั้น กอง KECASH ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นลูกค้าหลักทรัพย์ของบริษัทแม่อีกด้วย บริษัทฯ ตั้งเป้าครึ่งปีแรกสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) พร้อมออกกองมูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท สำหรับกองทุนที่จะประเดิมเข้าตลาดทุนในเดือนมกราคมเป็นอันดับแรก คือ กองตราสารทุน (Equity Funds) ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเรื่องหลักทรัพย์ และแรงสนับสนุนทั้งด้านข้อมูลและช่องทางจากเมย์แบงก์ กิมเอ็ง และกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF : Foreign Investment Funds) ที่คาดว่าจะออกในเดือนเมษายน โดยเน้นป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน (Fully Hedged) และปกป้องเงินลงทุน (Capital Protection) นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังมีนโยบายที่จะออกกองทุนให้ครอบคลุมกองทุนทุกประเภทเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน อาทิเช่น กองทุนตราสารหนี้ (Fixed Income Funds) คาดว่าจะสามารถออกได้ไตรมาสละ 1 กอง และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตสูงและความผันผวนต่ำ คาดว่าจะสามารถส่งกองทุนรวมเปิดอสังหาริมทรัพย์เข้าสู่ตลาดทุนได้อย่างน้อย 3 กองภายในปีนี้ โดยบริษัทฯ มีมุมมองว่าอาคารสำนักงานในใจกลางย่านธุรกิจมีเสถียรภาพดี ศักยภาพสูง และอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมในจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มวัตถุประสงค์ที่จากเดิมเป็นเพียงสถานที่พักเมื่อยามท่องเที่ยว ก็เพิ่มเป็นสถานที่พักยามหลีกหนีหรือตั้งหลักก่อนกลับไปเผชิญปัญหาต่างๆ คาดว่าในครึ่งแรกของปี 2555 บริษัทฯ จะเสนอขายกองทุนเข้าสู่ตลาดทุนได้อย่างน้อย 2-3 กอง สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) มูลค่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าทุกกองที่เสนอขายจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน”
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
โทร. 02-658-6300 ต่อ 5180 ,7401 , 7402