บมจ.ท่าอากาศยานไทย เตรียมซื้อขายในตลท. 11 มี.ค.นี้

ข่าวทั่วไป Wednesday March 10, 2004 09:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รับหลักทรัพย์ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,374.80 ล้านหุ้น เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เตรียมเข้าซื้อขายในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ 11 มี.ค. 47 ใช้ชื่อย่อ AOT คาดส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ในตลาดหลักทรัพย์อีกเกือบหกหมื่นล้านบาท
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลท. ได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน จำนวน 1,374.80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม 13,748 ล้านบาท เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยกำหนดให้ซื้อขายในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดขนส่ง ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2547 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "AOT" โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจได้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 358.80 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 42 บาท ระหว่างวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ และ 1 มีนาคม 2547 หรือคิดเป็นร้อยละ 26.10 ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้
"AOT ประสบความสำเร็จอย่างมากในการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนหุ้นที่เปิดให้จองซื้อหุ้นหมดลงอย่างรวดเร็ว จนอาจกล่าวได้ว่า AOT เป็นหุ้นจองที่ได้รับความสนใจอย่างมาก การเข้าซื้อขายหุ้นของ AOT ในวันที่ 11 มีนาคมนี้ จะทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นอีก 57,741.6 ล้านบาท เมื่อคิดจากราคา IPO ที่ 42 บาท จากความสำเร็จในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของ AOT ในครั้งนี้ ทำให้เชื่อว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้บริษัทที่กำลังเตรียมตัวเร่งดำเนินการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง" นางสาวโสภาวดีกล่าว บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) จัดตั้งเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 เพื่อรองรับการแปรสภาพการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายเดียว ซึ่งหลังจากการขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปกระทรวงการคลังจะถือหุ้นเหลือร้อยละ 70 ทั้งนี้ AOT ได้รับโอนกิจการ สิทธิ หนี้ ความรับผิดชอบ สินทรัพย์ (ยกเว้นที่ดิน 487 ไร่บริเวณท่าอากาศยานกรุงเทพ) และพนักงานจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย
AOT ประกอบธุรกิจจัดการ บริหาร พัฒนาท่าอากาศยาน รวม 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานกรุงเทพ ท่าอากาศยานภูมิภาค 4 แห่ง ประกอบด้วยท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนกันยายน 2548 โดยในอนาคต AOT มีโครงการที่จะพัฒนาท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อการใช้ประโยชน์ในอนาคต และพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่และท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค
ด้านผลการดำเนินงาน AOT มีรายได้จากการดำเนินงานในปี 2546 (จำนวน 12,000 ล้านบาท) ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2545 (จำนวน 12,024 ล้านบาท) เนื่องจากการระบาดของโรค SARS และสงครามในอิรัก และภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากปี 2545 ร้อยละ 97 เนื่องจากบริษัทต้องชำระหนี้เงินกู้คืนแก่ Japan Bank for International Corporation จำนวน 5,637 ล้านบาท สำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 บริษัทมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานในระดับสูงถึงร้อยละ 60 ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับร้อยละ 26 ทั้งนี้ AOT มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองทุกประเภท
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ที่ www.airportthai.co.th
หรือจากเว็บไซต์ของตลท.ที่ www.set.or.th หรือเว็บไซต์บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 /
รุ่งรัชนี อริยภิญโญ โทร.0-2229-2659
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 /
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ