กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
กลุ่มทิสโก้เปิดแผนปี 2555 มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์-บริการตอบทุกโจทย์การเงิน ประกาศปูพรมขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมสร้างแบรนด์ภายใต้แนวคิด“ออกแบบความมั่งคั่งให้ชีวิต” (Wealth of Possibilities) ด้วยความเชี่ยวชาญทางการเงินและความคิดสร้างสรรค์ ด้านธนาคาร กองทุน และหลักทรัพย์ ร่วมสอดประสานกลยุทธ์ ประกาศความเป็นผู้นำธุรกิจทุกด้าน
นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mrs. Oranuch Apisaksirikul, Group CEO) เปิดเผยว่า ภาพของเศรษฐกิจไทยในปี 2555 จะยังคงมีปัจจัยท้าทายจากทั้งในและต่างประเทศ โดยประเทศไทยจะยังคงเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ตลอดจนมีปัจจัยภายในประเทศที่ต้องจับตา อาทิ แนวทางการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้การแข่งขันของธุรกิจการเงินในปีนี้เป็นไปอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ กลุ่มทิสโก้จึงได้กำหนดเป้าหมายในปี 2555 เพื่อรองรับการแข่งขันในทุกรูปแบบ โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ความเป็นไปได้ทางการเงินที่หลากหลาย (Wealth of Possibilities) เพื่อตอบสนองทุกโจทย์การเงินของลูกค้า โดยอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญทางการเงินผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของทิสโก้ เพื่อเติมเต็มความมั่งคั่งในชีวิตในทุกด้านให้แก่ลูกค้า
โดยกลยุทธ์หลักของกลุ่มทิสโก้ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว ได้แก่ 1. การขยายธุรกิจเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่ลูกค้ารายย่อย ไปจนถึงลูกค้าธนบดี ลูกค้าสถาบัน และลูกค้าธุรกิจทุกขนาด ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลาย โดยผสานการทำงานร่วมกันของทั้งธุรกิจธนาคาร ธุรกิจกองทุน และธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 2. การบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด 3. การพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางการเงินและมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้คำแนะนำที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า และ 4. การสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของทิสโก้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้จุดยืน“ออกแบบความมั่งคั่งให้ชีวิต”
”ทิสโก้มุ่งตอบสนองทุกโจทย์ทางการเงินให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยความแตกต่างคือบุคลากรของเรา ที่นอกจากจะเป็นมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญทางการเงินแล้ว คนของเรายังมีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้เป็นเพียงนักการเงิน แต่เปรียบเสมือนเป็นนักออกแบบทางการเงิน จึงสามารถสร้างทางเลือกทางการเงินที่หลากหลายให้ลูกค้า ซึ่งปีนี้ทิสโก้จะดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ สร้างคน และสร้างแบรนด์ เพื่อให้ภาพดังกล่าวชัดเจนขึ้น”
ด้านนายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (Mr. Suthas Ruangmanamongkol, President, TISCO Bank Plc.) กล่าวว่า กลยุทธ์การดำเนินงานของธนาคารทิสโก้ในปีนี้ ยังคงมุ่งการขยายตัวในทุกภาคส่วน ทั้งด้านเงินฝาก สินเชื่อธุรกิจทุกขนาด และสินเชื่อรถยนต์ครบวงจรที่จะยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ซึ่งรวมถึงสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ (ทิสโก้ ออโต้ แคช)
“ปีนี้ธนาคารทิสโก้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อรวมในปีนี้ไว้ที่ 10-15% โดยสินเชื่อรถยนต์ยังคงเป็นตัวชูโรง ซึ่งคาดว่าในปีนี้อุตสาหกรรมรถยนต์จะยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และยอดขายรถยนต์ใหม่ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 950,000 คัน โดยเราจะมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น หลังจากที่ได้เริ่มทำมาในช่วงปีที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเรามีแผนที่จะขยายทั้งสาขาของธนาคารทิสโก้ และสาขาสำนักอำนวยสินเชื่อทิสโก้ลีสซิ่งเพิ่มอีก10-20 แห่งในปีนี้ โดยสาขาของธนาคารทิสโก้จะเปิดในกรุงเทพฯ และบริมณฑลเป็นหลัก ขณะที่สำนักอำนวยสินเชื่อทิสโก้ลีสซิ่งจะขยายสาขาในต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการให้บริการสินเชื่อรถยนต์ได้อย่างครบวงจรมากขึ้น
นอกจากนี้จะมีการขยายการปล่อยสินเชื่อธุรกิจในทุกขนาดมากขึ้น ตามการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม โดยเราได้เพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการลูกค้าธุรกิจ ด้วยการรวมสายงานกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี และธุรกิจวาณิชธนกิจของ มาไว้ภายใต้สายงานเดียว เพื่อให้บริการทางการเงินร่วมกันให้แก่ลูกค้าธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นที่การสร้าง Total solution”
ด้าน นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด (Mr. Paiboon Nalinthrangkurn, CEO, TISCO Securities Co., Ltd.) กล่าวว่า เป้าหมายของ บล.ทิสโก้ในปีนี้ คือการก้าวสู่พรีเมียมโบรกเกอร์ระดับสากล ด้วยการยกระดับคุณภาพการให้บริการและคุณภาพงานวิจัย
สำหรับกลยุทธ์ของ บล.ทิสโก้ ในส่วนของลูกค้านักลงทุนสถาบัน เรายังคงเป็นพันธมิตรอย่างเหนียวแน่นกับกลุ่มดอยซ์แบงก์ โดยในปีนี้จะร่วมกับกลุ่มดอยซ์แบงก์พัฒนาธุรกิจสถาบันให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของการยกระดับงานวิจัยเพื่อให้ทัดเทียมกับงานวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำระดับโลก และการหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ในต่างประเทศ เพื่อรองรับการแข่งขันของธุรกิจหลักทรัพย์จากการเปิดเสรี สำหรับลูกค้านักลงทุนบุคคล เราจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการจากเดิมที่เน้นเฉพาะการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศ มาสู่การให้บริการแบบ “multi-market, multi-product specialist” หรือการให้คำปรึกษาและบริการซื้อขายตราสารทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายขึ้น
“งานวิจัยยังคงเป็นจุดเด่นของบล. ทิสโก้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการพัฒนางานวิจัยคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ได้รับรางวัลมากมายจากทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดเราได้รับรางวัลบริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมจากการประกาศรางวัล SET Awards 2011 ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงาน ทั้งคุณภาพบริการและคุณภาพงานวิจัยอันยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี
และในปีที่ผ่านมาเราได้เสริมความแข็งแกร่งของคุณภาพงานวิจัย ด้วยการตั้ง “ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์” ซึ่งทำให้เราไม่เพียงแต่วิเคราะห์หลักทรัพย์ แต่ให้ภาพรวมของเศรษฐกิจในทุกๆ ประเด็น เพื่อให้ทั้งลูกค้าสถาบันและลูกค้าบุคคลของกลุ่มทิสโก้ นำไปประเมินเพื่อการตัดสินใจลงทุนต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น และในปีนี้ เรามีแผนที่จะเพิ่มงานวิจัยด้านสินค้าโภคภัณฑ์, ตราสารอนุพันธ์ และหลักทรัพย์ต่างประเทศอีกด้วย”
นางสาวอารยา ธีระโกเมน กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Ms. Araya Thirakomen, President, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า กลยุทธ์ของบลจ.ทิสโก้ในปีนี้ ยังคงมุ่งตอบโจทย์ความต้องการในด้านการลงทุนของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง และการบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ โดยในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ บลจ.ทิสโก้ นับเป็นผู้ริเริ่มรายแรกในตลาด อีกทั้งยังมีความโดดเด่นด้วยการมีนโยบายการลงทุนให้สมาชิกได้เลือกอย่างหลากหลาย (Employee's Choice) ซึ่งในปีนี้ยังจะมีการพัฒนารูปแบบในการเลือกลงทุนให้กับสมาชิกเพิ่มขึ้น รวมถึงจะมีการพัฒนาช่องทางในการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนของสมาชิกให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สำหรับธุรกิจกองทุนรวม จะยังคงความโดดเด่นในด้านของกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศ (FIF) อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของลูกค้า และเหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง ส่วนธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าบุคคลรายใหญ่ (High Net Worth) ที่มีพอร์ตการลงทุน 20 - 40 ล้านบาท โดยจุดเด่นคือ การให้บริการด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์สูง มีการให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยงกลุ่มทิสโก้ (Mr. Chatri Chandrangam, CFO) กล่าวถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ ในปี 2554 ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีผลกำไรหลังผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในปี 2554 จำนวน 3,266.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 378.41 ล้านบาท หรือ13.1% เมื่อเทียบกับปี 2553 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานรวมจำนวน 457.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% จากปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยรวมปรับเพิ่มขึ้น 31.2% ตามการขยายตัวของสินเชื่อในทุกภาคส่วน ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 4,300.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 545.23 ล้านบาท หรือ 14.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น 36.4% ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจสินเชื่อ และรายได้จากธุรกิจประกันภัยธนกิจ ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้น 8.2% จากอัตราผลตอบแทนที่ดีขึ้นของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร และการออกกองทุนที่หลากหลายตรงตามความต้องการลูกค้า ในขณะที่รายได้ค่านายหน้าธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 4.0% เมื่อเทียบกับปี 2553 เนื่องมาจากภาวะผันผวนของตลาดทุนในประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เสาวนีย์ สันทบ ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โทร. 02 633 6906