กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--กรมธนารักษ์
กรมธนารักษ์จัดประชุมระดมสมองในการหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ เพื่อสนองนโยบายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์) โดยกำหนดประชุมที่จังหวัดระยองและคาดว่าภายหลังการประชุมจะสามารถหาแนวทางป้องกันปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุได้อย่างเป็นรูปธรรม และสัมฤทธิ์ผลในเวลาอันสั้น
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์) ได้มีนโยบายให้กรมธนารักษ์หาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุที่มีมาอย่างต่อเนื่อง กรมธนารักษ์จึงกำหนดจัดประชุมระดมสมองในการหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ โดยประชุมร่วมกับธนารักษ์พื้นที่ ๑๗ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ในระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ มกราคม ๒๕๕๕ ที่จังหวัดระยอง นายนริศ กล่าวต่อว่า กรมธนารักษ์มีหน้าที่บริหารจัดการที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ ๑๒.๕ ล้านไร่ ซึ่งที่ดินส่วนใหญ่ให้ส่วนราชการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ส่วนที่ไม่ได้ใช้ในราชการก็จะนำไปจัดหาประโยชน์เพื่อนำรายได้เข้ารัฐ ที่ผ่านมาปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุเกิดจากส่วนราชการไม่ได้นำที่ดินไปใช้ประโยชน์ ทำให้มีที่ว่างและไม่ได้มีการดูแลรักษาอย่างทั่วถึงจึงมีการบุกรุกและเมื่อไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันทีทำให้มีราษฎรเข้าไปใช้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น และระยะเวลาได้ล่วงเลยมานานจึงทำให้มีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของในที่ดินนั้น และมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินกับทางราชการ นอกจากนี้ในส่วนของที่ดินราชพัสดุที่ได้มาจากการสงวนหวงห้ามที่ดิน รกร้างว่างเปล่าซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่ โดยก่อนการสงวนหวงห้ามไม่มีการสำรวจพื้นที่ที่จะสงวนหวงห้ามว่ามีราษฎรครอบครองใช้ประโยชน์ในบริเวณใดและพื้นที่เท่าใด และเมื่อเวลาล่วงเลยจนถึงปัจจุบันทำให้ไม่มีข้อมูลหลักฐานว่าเดิมบริเวณใดเป็นที่ว่างเปล่าและบริเวณใดเป็นที่ที่ราษฎรครอบครองทำประโยชน์อยู่ก่อนทำให้มีปัญหาข้อพิพาทกับทางราชการ จากการสำรวจจัดทำแผนที่ทางกายภาพปรากฏว่าที่ดินส่วนนี้มีการบุกรุก จำนวน ๔๘ แปลง เนื้อที่รวมประมาณ ๕.๕ ล้านไร่ มีการบุกรุกจำนวน ๒.๑ ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ ๓๘
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดการรับฟังความคิดเห็นและประชุมระดมสมองหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ ซึ่งภายหลังจากการประชุมดังกล่าว จะได้นำผลสรุปมาหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จในเวลาอันสั้น อีกทั้งยังเป็นการรับฟังข้อเสนอแนะ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างส่วนราชการผู้เช่า ผู้ใช้ ผู้ลงทุนในที่ราชพัสดุ และผู้นำท้องถิ่นอีกด้วย นายนริศ กล่าวในตอนท้าย