กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังพิธีเปิด ”ศูนย์ชุมชนสร้างสรรค์” ใต้ทางด่วนบริเวณ ถ.สุขุมวิท (เพลินจิต) ว่า ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้มีดำริเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. 2555 ให้พัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนสุขุมวิท (เพลินจิต) เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็ก เยาวชน สตรี และครอบครัว กระทรวงฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของนโยบายดังกล่าว ซึ่งมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน จึงได้ร่วมมือกับภาคี ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และการทางพิเศษแห่งประเทศ สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน โดยการจัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนในพื้นที่ใต้ทางด่วนเพลินจิตขึ้น
“กระทรวงฯ และภาคีจากภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนแห่งนี้ให้เป็นพื้นที่ชุมชนสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้แก่เด็ก เยาวชน สตรี และครอบครัว โดยกระทรวงฯ ได้สนับสนุนอุปกรณ์ในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ที่ประกอบด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย 1 ชุด เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลทั่วไป 12 ชุด เครื่องพิมพ์ ระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง คู่สายโทรศัพท์ และอินเทอร์ข่ายไร้สาย (WiFi) จำนวน 4 จุด นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งโปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆ ที่สามารถให้บริการสืบค้นและให้บริการห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมห้องเรียนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมในเรื่องต่างๆ รวมถึงด้านการส่งเสริมสุขภาวะ โดยใช้เนื้อหาของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตามอัธยาศัย และสร้างเสริมสุขภาพโดยใช้ ICT เป็นสื่อให้แก่ เยาวชน และชุมชน” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว
ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนแห่งนี้ เป็นศูนย์ลำดับที่ 1,880 ภายใต้ “โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน” ของกระทรวงฯซึ่งได้วางเป้าหมายการจัดตั้งเอาไว้ในบริเวณชุมชน โรงเรียน และศาสนสถาน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดกิจกรรมที่หลากหลาย และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแก่เด็ก เยาวชน รวมถึงประชาชนในชุมชน ให้สามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนนี้ กระทรวงฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประชาชน รวมถึงส่งเสริมให้มีการพัฒนาสังคมอย่างเท่าเทียม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในด้านต่างๆ ของชุมชน รวมทั้งการเข้าถึงบริการภาครัฐ (e-Services) และการแลกเปลี่ยนความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ระหว่างชุมชนได้โดยทั่วกัน