กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,678.30 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.30 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับบวกขึ้นได้ เมื่อค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นก่อนผลการประชุมของยูโรโซนในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
Key Points in Gold Market
- ในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,676 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องจากเมื่อวาน เมื่อค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นต่อโดยมาอยู่ที่ระดับ 1.30 USDต่อยูโร และค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลงสนับสนุนราคาทองคำ รวมถึงความตึงเครียดในระหว่างชาติตะวันตกและอิหร่านเพิ่มขึ้น เมื่อสหภาพยุโรปจะห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ทำให้อิหร่านออกมาขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุชอีกครั้ง ทำให้ระดับราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับเพิ่มสูงกว่า 1% ปิดที่ 99.8 USDต่อบาร์เรล ส่วนการเจรจาระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ภาคเอกชนนั้น ด้านเยอรมันและฝรั่งเศสออกมากดดันที่จะให้รัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชนตกลงกันได้โดยเร็วเพื่อลดหนี้ และไม่ให้กรีซต้องผิดนัดชำระหนี้ นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในกรณีของกรีซที่อาจจะเจรจาลดยอดหนี้กับธนาคารเจ้าหนี้ และการ swap พันธบัตรได้สำเร็จ
- ส่วนภาพทางเทคนิคมีโอกาสหรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยจบรอบขาลงไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ไป low สุดบริเวณ 1,522 การปรับขึ้นในเดือน ม.ค.อย่างต่อเนื่องและมีโอกาส break แนวต้านสำคัญบริเวณ 1,676 — 1,680 ซึ่งเป็นเส้น down trend line ในระยะกลาง ซึ่งถ้าผ่านได้มีโอกาสปรับตัวขึ้ต่อบริเวณ 1,700 — 1,750 USDต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนที่เปิด long ไว้ในช่วงราคาอ่อนตัวถือต่อ เพื่อรอดูการ break ขึ้นของราคา แต่ถ้าไม่สามารถผ่านไปได้ มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงมาที่บริเวณ 1,666 / 1,644 และสร้างฐานก่อนขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,680 — 1,700 อีกครั้ง ดังนั้นถ้าราคาไม่สามารถผ่านไปได้ แนะนำนักลงทุนปิดทำกำไรบริเวณ 1,675 — 1,680 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,630 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,700
- ภาพในระยะสัปดาห์มีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น เมื่อราคาทองคำยืนเหนือเส้น MA 200 วันได้ และยืนเหนือ 1,650 USDต่ออออนซ์ได้ ขณะที่แรงขายทำกำไรที่แนวต้านมีไม่มากนัก และนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาอ่อนตัว และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ โดยมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ ด้านปัจจัยพื้นฐานเริ่มดีขึ้น เมื่อค่าเงิน USD เริ่มอ่อนค่าลง การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในยุโรปประสบความสำเร็จ และการประกาศการให้ความช่วยเหลือทางเงินเพิ่มขึ้นของ IMF อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นสู่แนวต้านของราคาทองคำในแต่ละรอบจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ เนื่องจาก ภาพทางเทคนิคในระยะกลางยังถูกกดด้วยเส้น Down Trend Line และรอการ break ขึ้นหรือ break ลง แต่แนวโน้มมีโอกาส break ขึ้นมากกว่า ส่วนข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรปยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามต่อไป
- ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำและต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ ความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกและอิหร่าน ผลการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชน การเข้าอัดฉีดเงินของธนาคารกลางยุโรป การประชุม FOMC หรือการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐในวันที่ 24 — 25 ม.ค.
- ราคาโลหะเงินปิดที่ 32.27 USDต่อออนซ์ ปิดเพิ่มขึ้น 0.60 USDต่อออนซ์โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.79 — 32.78 ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,516.75 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.55/30.8 แนวต้านบริเวณ 33.0/33.5 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 30.8 — 33.5
- SPDR ขายทองคำออก 5.14 ตัน เหลือถือทองคำจำนวน 1,250.53 ตัน
Technical Analysis:
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,666/1,644 และแนวต้านที่ 1,680/1,700 กราฟรายวัน แสดงสัญญาณการเคลื่อนไหวในลักษณะที่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่เนื่องจากราคาชนเส้น Down Trend ในระยะกลาง อาจมีการอ่อนตัว แต่ถ้าสามารถผ่านขึ้นไปได้มีโอกาสไปต่อที่บริเวณ 1,700 — 1,750 แนะนำ นักลงทุนที่เปิด long ไว้ในช่วงราคาอ่อนตัวถือต่อ เพื่อรอดูการ break ขึ้นของราคา แต่ถ้าไม่สามารถผ่านไปได้ มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงมาที่บริเวณ 1,666 / 1,644
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.55/30.8 แนวต้านบริเวณ 33.0/33.5 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 30.8 — 33.5