กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--ก.ไอซีที
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าว เปิดตัวสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ก้าวสู่ “Smart Government" ว่า กระทรวงไอซีที ได้ผลักดันให้มีการจัดตั้ง สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ขึ้น เพื่อให้เป็นหน่วยงานดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านสารสนเทศ และการบริหารจัดการโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสร้างมาตรฐานกลางให้กับไอทีภาครัฐทั้งหมด โดยมีพันธกิจหลักที่มีเป้าหมาย คือ การผลักดันให้ภาครัฐของไทยก้าวสู่การเป็น “Smart Government” อยู่ 4 ประการ ได้แก่ 1.สร้างเครือข่ายและพัฒนาความรู้ไปสู่การเป็น Smart Government ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรไอทีภาครัฐ 2. สร้างโครงสร้างพื้นฐานและแอพพลิเคชั่นร่วม เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ของภาครัฐ เป็นต้น 3. ยกระดับ e-Service และบูรณาการ Back office ด้วยการทำให้แต่ละหน่วยงานภาครัฐสามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกัน เพื่อสร้างบริการใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น และ 4. สร้างสถาปัตยกรรมและมาตรฐานให้เกิดขึ้นในระบบไอทีภาครัฐ โดยให้สอดรับกับแนวนโยบายของกระทรวงไอซีที ที่ต้องการให้ สรอ. ปรับโครงสร้างองค์กรและรูปแบบการปฏิบัติงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายใต้งบประมาณจำกัด รวมทั้งสามารถสร้างการบูรณาการอย่างเป็นระบบและนำไปสู่การใช้ไอทีในภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดงบประมาณโดยรวมได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
ในการผลักดันให้เกิด Smart Government นั้นมีเป้าหมายสำคัญก็คือ การให้ภาคประชาชนได้รับการบริการที่ดียิ่งๆ ขึ้น ภาครัฐจึงต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วและใช้งบประมาณให้น้อยที่สุด สิ่งสำคัญ คือ ต้องเลือกเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด และเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเน้นเรื่องความเร็ว (Speed) เป็นอันดับหนึ่ง กระทรวงไอซีที จึงต้องเร่งให้ สรอ. ดำเนินโครงการที่สนับสนุนการปรับเปลี่ยนภาครัฐบาลไปสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างรวดเร็ว และใช้ต้นทุนต่ำ เพื่อให้เป็นตัวกลางเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐมากกว่าหนึ่งหน่วยงานเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งเพิ่มระดับความเร็วในการเชื่อมโยงบริการระหว่างหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน
“ต่อจากนี้ไปจะได้เห็นโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรับจำนำข้าวทั่วประเทศ หรือโครงการอื่นๆ อีกจำนวนมาก เข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเชื่อมข้อมูลแต่ละหน่วยงานถึงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการบริการไปสู่ภาคเอกชน ส่วนบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สมาร์ทการ์ดก็ต้องสามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น โดยภายในครึ่งปีนี้คาดว่าจะเริ่มมีบริการต่างๆ ของภาครัฐทยอยเข้ามาใช้ระบบฐานข้อมูลบัตรประชาชน ดังนั้น Roadmap ที่ สรอ. กำลังดำเนินการจะเป็นการทำให้มาตรฐานของต้นแบบถูกยกขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง หรือการทำให้เกิด Paradigm Shift โดยใช้ความเร็ว (Speed) เป็นตัวขับเคลื่อน และมีระดับนโยบายช่วยส่งเสริม โดยเฉพาะกฎระเบียบ และการประสานงาน” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว
ด้าน ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. เปิดเผยว่า การวางโครงสร้างพื้นฐานนั้นถือว่าเป็นแผนดำเนินการเร่งด่วนของ สรอ. โดยจะมีการวางระบบ Government Data Center หรือศูนย์ข้อมูลกลางภาครัฐให้มีมาตรฐานและแข็งแกร่งเพื่อรองรับระบบฐานข้อมูลของทุกหน่วยงาน และศูนย์ฯ นี้จะเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่ระบบ Government Cloud Service ซึ่งจะทำให้การบริการภาครัฐเข้าสู่ระบบออนไลน์อย่างสมบูรณ์แบบ โดยอาศัยการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านโครงสร้างเครือข่ายอย่าง Government Information Network 2.0 (GIN 2.0) ซึ่งเป็นงานที่กระทรวงไอซีทีได้มอบหมายให้ สรอ.ดำเนินการ และจะมีการเร่งรัดให้โครงการนี้สำเร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เป็นทางเลือกหลักในการสร้างระบบเครือข่ายทั้งหมด พร้อมกันนี้ยังจะมีการดูแลทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยไอทีของภาครัฐ ผ่านระบบโครงสร้าง Government Security Monitoring (Gov Mon) และระบบ Government Nervous System หรือ GNS ที่ สรอ. จะจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการติดตามสถานภาพการดำเนินงานของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น สรอ. ยังมีแผนงานเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการภายในปี 2555 อีกคือ การสร้างระบบอีเมล์ของภาครัฐหรือ MailGoThai ให้สามารถใช้งานได้จริง และเป็นอีเมล์ที่ติดตัวไปทุกที่แม้จะมีการโยกย้ายตำแหน่งในภายหลัง เพื่อที่บุคลากรภาครัฐจะได้ไม่ต้องใช้งานอีเมล์จากต่างประเทศอีก รวมทั้งยังจะมีการสร้างระบบ e-Government Portal ที่รวบรวมบริการและการแบ่งปันความรู้ในด้านต่างๆ ให้กับบุคลากรภาครัฐและประชาชนทั่วไปในอนาคต ซึ่งเป้าหมายในการดำเนินงานทั้งหมดของ สรอ. กับหน่วยงานภาครัฐ ก็คือการเข้าสู่ระบบ Paperless Government หรือหน่วยงานรัฐไร้กระดาษ
ส่วนในระยะถัดไป สรอ. ได้เตรียมการดำเนินงานเรื่องใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐ หรือ Government Certification Authority (GCA) เพื่อรองรับกระบวนการทำงานทางอิเล็กทรอนิกส์ของข้าราชการให้มีมาตรฐานด้านการสร้างระบบความปลอดภัยของข้อมูลในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคลากรภาครัฐ โดย สรอ. จะทำหน้าที่เป็น Project Management Office : PMO ในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและบริการภาครัฐที่เน้นด้านคุณภาพบริการเป็นหลัก ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจระบบภาครัฐและนำไปสู่การประยุกต์ใช้ระบบไอทีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับเป้าหมายระยะยาวในอีก 4 ปีข้างหน้า สรอ.จะทำให้ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐสามารถทำงานอย่างครบวงจร และต้องเข้าไปอยู่ทุกกระบวนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ โดยสามารถเปิดให้บริการประชาชนแบบไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน แต่สามารถเชื่อมต่อกับบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดได้โดยตรง และข้อมูลจะเชื่อมถึงกันได้ด้วยมาตรฐานเดียวกันรวมถึงมีบริการ IT Service ของภาครัฐที่สามารถจัดซื้อจัดจ้างในแบบบริการสาธารณูปโภค โดยในเบื้องต้นจะผ่านระบบ Cloud Computing และต้องเข้าสู่ระบบจ่ายตามการใช้งานจริง ใช้น้อยจ่ายน้อย ใช้มากจ่ายมาก ซึ่งระยะเวลาการดำเนินงานโครงการ IT ของภาครัฐจะลดลง 30-50 % นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐจะต้องสร้างระบบการทำงานที่บ้านหรือ Work at Home ผ่านโครงสร้างสาธารณูปโภคทางด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพ มีการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ IT ของภาครัฐไปสู่การเป็นเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ (Project Manager) และเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล (MIS Manager) นอกจากนั้นต้องมีการซ้อมแผนสำรองฉุกเฉินเป็นแนวปฏิบัติทั่วไปของหน่วยงานรัฐขึ้นมาอีกด้วย