ภารกิจในการคืนคนดีที่สังคมยอมรับกับกิจกรรม“ทูบีนัมเบอร์วัน”

ข่าวทั่วไป Tuesday January 24, 2012 16:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--4P News and Art “การทำผิดพลาดแล้วมาอยู่แบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนไม่ดี เชื่อว่าทุกคนมีความดีอยู่ในตัวเอง แต่เมื่อทำผิดพลาดแล้วก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ เมื่อพ้นโทษออกไปก็ให้นำประสบการณ์ที่ได้ไปเป็นอุทาหรณ์แก่คนอื่นให้รู้ถึงโทษ และพิษภัยของยาเสพติด” พระดำรัสของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีที่ทรงประทานแก่นักโทษเด็ดขาดหญิงรายหนึ่ง เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านเสด็จเปิดศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ณ ทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก เพื่อให้การแนะนำและให้กำลังใจแก่นักโทษหญิงซึ่งได้สร้างความปลาบปลื้มแก่นักโทษยิ่งนัก หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ ที่ปรึกษาสำนักงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันกล่าวว่าการน้อมนำโครงการ TO BE NUMBER ONE มาดำเนินการในเรือนจำและทัณฑสถาน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังทุกคนได้รับการพัฒนาวิชาการต่างๆ และได้ทำกิจกรรมที่ถนัด ทั้งด้านการเกษตร กีฬา ดนตรี การประพันธ์ นอกจากจะช่วยในการสันทนาการแล้วยังถือเป็นส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้ต้องขังได้นำไปใช้ในการหาเลี้ยงชีพหลังจากที่พ้นโทษออกไปด้วย ปัจจุบันได้ดำเนินการจัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE และศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ในเรือนจำและทัณฑสถานครอบคลุมทั่วประเทศแล้วกว่า13 แห่ง มีสมาชิก รวม 10,218 คน โดยทัณฑสถานหญิงพิษณุโลกเป็นหนึ่งใน 13 ทัณฑสถานนำร่อง ตามนโยบายกรมราชทัณฑ์ที่น้อมนำโครงการ TO BE NUMBER ONE มาดำเนินการในเรือนจำ ซึ่งผู้ต้องขังในทัณฑสถานมีความตื่นตัวและให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของชมรมเป็นอย่างมากและในปีงบประมาณ พ.ศ.2555นี้ มีแผนที่จะขยายการดำเนินงานชมรม TO BE NUMBER ONE ไปยังเรือนจำและทัณฑสถานเพิ่มขึ้นจาก 13 แห่ง เป็น 20 แห่ง โดยจะเน้นคุณภาพการดำเนินงาน ด้วยการกำหนดให้มีดัชนีชี้วัดและตัววัดผลผลิตของโครงการทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ นางบุษบา ศักรางกูร ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก กล่าวว่าทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก มีผู้ต้องขังร้อยละ 80 เป็นผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผู้ต้องขังส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน รายได้น้อย ขาดการเอาใจใส่จากครอบครัว การแก้ไขฟื้นฟูพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังจึงเป็นภารกิจหลัก มีการพัฒนาผู้ต้องขังโดยส่งเสริมด้านการศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็น การจัดการศึกษาสายสามัญและขั้นพื้นฐาน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้รับการศึกษาระดับต่างๆตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังส่งเสริมกิจกรรมด้านการฝึกอบรมพัฒนาทักษะวิชาชีพ การอบรมทางศีลธรรมจรรยา ตลอดจนกิจกรรมทางศาสนา การจัดสวัสดิการและนันทนาการต่างๆ เพื่อพัฒนาให้แก่ตัวผู้ต้องขังเอง นางบุษบา กล่าวต่อว่าทัณฑสถานหญิงพิษณุโลกยังได้นำยุทธศาสตร์โครงการ TO BE NUMBER ONE มาดำเนินงานด้านกิจกรรมชมรม โดยจัดให้มีการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ให้สมาชิกภายในทัณฑสถานหญิง ได้ตระหนักถึงพิษภัยของยาเสพติด ส่งเสริมให้สมาชิกได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ตามความถนัดและส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกได้ออกไปบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์แก่สังคมภายนอก ตามแนวคิดของโครงการ “เป็นหนึ่งได้โดยไม่พึ่งยาเสพติด” เช่น จัดให้สมาชิกออกไปสอนอาชีพแก่กลุ่มแม่บ้านในชุมชนตำบลวังทอง ออกไปทำความสะอาดวัดในเขตตำบลวังทอง และ ออกบรรยายประสบการณ์ความผิดพลาดเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่เยาวชนในสถานศึกษา “สำหรับการดำเนินงานในส่วนของศูนย์เพื่อนใจฯภายใต้นวัตกรรม ศิลปะสร้างสรรค์ TO BE NUMBER ONE สร้างคน ซึ่งจะเป็นกิจกรรมในลักษณะสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ ให้สมาชิกได้ปรับทุกข์และทำกิจกรรมสร้างสุขตามที่ตนถนัด อีกทั้งยังส่งเสริมให้มีการพัฒนา EQ ด้วยการให้บริการทดสอบความฉลาดทางอารมณ์เพื่อให้ผู้ต้องขังได้เข้าใจในสภาวะทางจิตใจของตนเองและจัดให้มีการอบรมพัฒนาจิตใจตามศาสนาที่ตนนับถือ ซึ่งผู้ต้องขังได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากและได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของชมรม และกิจกรรมที่ได้รับความสนใจมากเป็นอันดับต้นๆคือ วาดภาพ ศิลปะ นาฎศิลป์ และการฝึกอบรมวิชาชีพนวดแผนไทย ซึ่งกิจกรรมของชมรมฯและของศูนย์ฯจะช่วยพัฒนาให้ผู้ต้องขัง ได้รับการแก้ไขฟื้นฟูพัฒนาพฤตินิสัยให้กลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคม และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก”ผอ.ทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ