กรุงเทพ--24 ม.ค.--อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแทนส์
นายสมนึก โอวุฒิธรรม ประธานกรรมการบริหาร เลคิเซ่กรุ๊ป และบริษัท เลคิเซ่ ไลท์ติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลอดไฟและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานไฟฟ้าเลคิเซ่ (LeKise) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานตามแผนที่คาดไว้ โดยมีอัตราการเติบโต 30% จากปี 2010 สำหรับผลการดำเนินธุรกิจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มคอนซูมเมอร์ คิดเป็นสัดส่วน 60 %ของผลประกอบการ กลุ่มโปรเจ็ค คิดเป็นสัดส่วน 15 %ของผลประกอบการ และกลุ่มตลาดต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 25 %ของผลประกอบการ สำหรับในปี 2012 คาดว่าจะมีผลประกอบการรวมเพิ่มขึ้น 35% โดยกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจสูงสุดคือกลุ่มโปรเจ็ค ทั้งนี้เกิดจากการที่บริษัทได้สร้างการรับรู้และวางแผนขยายตลาดในกลุ่มธุรกิจนี้มาอย่างต่อเนื่องนานถึง 4 ปี รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าสำหรับภาพรวมธุรกิจหลอดไฟและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานไฟฟ้าในปี 2012 นายสมนึกกล่าวว่า กระแสการรับรู้เรื่องการประหยัดพลังงานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แต่ในปีนี้สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงมากขึ้นคือการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์หลอดไฟ โดยเฉพาะหลอดประเภท LED ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น หลอด LED จะไม่เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ให้แสงสว่าง แต่จะกลายเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่างเพื่อการตกแต่งในแบบต่าง ๆ รวมทั้งการนำไปใช้ในงานโฆษณาด้วย หลอด LED มีคุณสมบัติหลากหลาย สามารถประหยัดพลังงานได้สูงมาก จึงมีราคาต่อหน่วยสูงกว่าหลอด T5 แบบเดิม ส่งผลให้มูลค่ารวมทางธุรกิจสูงขึ้นด้วย โดยคาดว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจ LED มีอัตราเติบโตไม่น้อยกว่า 10% อย่างแน่นอนนายสมนึกกล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจของบริษัทว่า บริษัทได้เปิดไลน์การผลิตหลอดไฟฟ้าประเภท LED อย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมาโดยใช้งบประมาณมากกว่า 100 ล้านบาท การเปิดไลน์ผลิตใหม่นี้ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ผลิตไทยเพียงรายเดียวที่มีขบวนการผลิตและเทคโนโลยีการผลิตหลอดไฟและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจร บริษัทมั่นใจว่าหลอดไฟประเภท LED จะได้รับการตอบรับที่ดีโดยเฉพาะในงานกลุ่มโปรเจ็คต่างๆ ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ LED รูปแบบใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ร่วมทั้งมีแผนจะขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากตลาดต่างประเทศ ประมาณ 100 ล้านบาท และในปี 2012 บริษัทคาดว่าจะใช้งบส่งเสริมการตลาดและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องประมาณ 60 ล้านบาท
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net