Journey 2: The Mysterious Island (เจอร์นีย์ 2 - พิชิตเกาะพิศวงอัศจรรย์สุดโลก)

ข่าวบันเทิง Tuesday January 24, 2012 18:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--MMM Digital Asset ใจกลางของดินแดนที่ห่างไกลในวันที่สดใส … ป่าร้อนชื้นอันเขียวชอุ่มที่ซ่อนอยู่ในชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะโอวาฮู รัฐฮาวาย ที่นี่เป็น Waimea Falls National Park ของเกาะ ซึ่งมีสายฝนสลับกับแสงแดดจ้าที่ส่องสายรุ้งออกมาภายใต้ต้นไม้ที่เปรียบเสมือนหลังคาจากธรรมชาติ ต้องเดินลุยโคลนผ่านต้นเฟิร์นและดอกไม้ในป่าที่ให้ความรู้สึกถึงการแยกตัวออกจากโลกในส่วนที่เหลือ เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับพยนตร์ที่มีการถ่ายทำในสถานที่บางแห่งที่ตั้งอยู่ใจกลางของฉากในยุคดึกดำบรรพ์ของภาพยนตร์ เรื่อง Journey 2: The Mysterious Island ภาคต่อจากภาพยนตร์เรื่องดังแห่งปี 2009 เรื่อง Journey to the Center of the Earth ในไม่ช้าธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ของสถานที่แห่งนี้ก็ทำให้เกิดป่าในจินตนาการขึ้นมาใหม่ เป็นป่าไม้ที่มีดอกไม้ขนาดใหญ่เท่าต้นไม้ สีเหลืองและส้มที่สว่างสดใสของดอกแทบจะโดดเด่นออกมานอกกรีนสกรีนขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังฉาก แบรด เพย์ตัน เดินอยู่ในฉากที่มีความแปลกและน่าอัศจรรย์นี้ด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดพร้อมรองเท้าบูทที่ดูล้ำสมัยสำหรับเกาะในส่วนนี้ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในการเคลื่อนย้าย และรักษาอุปกรณ์เครื่องมือวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่ล้ำสมัยสำหรับการถ่ายทอดการผจญภัยสำหรับที่นั่น ซึ่งรวมถึงความเพียรพยายามในการรักษาสิ่งแวดล้อมอันเป็นธรรมชาติในขั้นตอนของการถ่ายทำ แต่เพย์ตันก็ไม่มีทางเลือกอื่น “ผมอยากไปสถานที่อย่างฮาวายและเอาตัวละครลงไปเหยียบย่ำโคลน” เขากล่าวในฐานะของทีมงานคนหนึ่งที่ยุ่งกับการจัดฉากต่อไป ท่ามกลางดงดอกไม้ที่อยู่เบื้องหลังเขา “ผมอยากให้พวกเขาได้เห็นป่าไม้และชโลมไปด้วยแสงแดดในบรรยากาศจริงเลยใช้ของจริงทั้งหมด” ในภาพยนตร์เรื่อง Journey 2: The Mysterious Island จะได้เห็นการกลับมาของจอช ฮัตเชอร์สัน ที่รับบทบาทของ ฌอน แอนเดอร์สัน ซึ่งเป็นตัวละครที่ขึ้นเครื่องบินไปผจญภัยสุดมหัศจรรย์ทำนองเดียวกันในภาคแรก การผจญภัยครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อฌอนได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือที่เรียกมาจากพิกัดที่ไม่น่ามีเกาะใดอยู่ สัญญาณนั้นบอกมาแค่เพียง “เกาะมีอยู่จริง” เมื่อฌอนมุ่งมั่นที่ค้นหาที่มาของสัญญาณที่ส่งมา แฮงค์ พ่อเลี้ยงคนใหม่ของเขาซึ่งรับบทโดย ดเวย์น จอห์นสันก็ยืนยันว่าจะไปกับเขาด้วย นักแสดงชายผู้มากประสบการณ์อย่างลูอิซ กุซแมน รับบทเป็น นักขับเฮลิคอปเตอร์ที่จะรับภารกิจพาพวกเขาบินไปที่นั่น ส่วนวาเนสซ่า ฮัดเจนส์ รับบทเป็น ไคลานิ ลูกสาวผู้ฉลาดและเต็มไปด้วยความคิดริเริ่ม นักแสดงในตำนานอย่างไมเคิล เคน ก็มาแสดงร่วมกับเหล่านักแสดงโดยรับบทเป็น อเล็กซานเดอร์ ปู่ของฌอนผู้พบเกาะในตำนานและเป็นผู้ที่ทำให้ฌอนต้องร่วมการผจญภัยสุดตื่นเต้นเพื่อช่วยชีวิตปู่ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพย์ตันเล่าว่าเขาหวังจะ “นำเรื่องราวของฌอนเข้ามาพัฒนา โดยให้มีทิวทัศน์แปลกใหม่ที่น่าอัศจรรย์ รวมถึงฉากของความท้าทายต่างๆ ที่จะพาเขาผจญภัยไปไกลกว่าที่เขาเคยมาก่อน เพราะเขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว เขาอยากสร้างรอยเท้าของเขาขึ้นมาบนโลก ตอนผมอายุ 17 ปี ผมก็อยากทำอะไรด้วยตัวเองและนั่นคือสิ่งที่ฌอนกำลังรู้สึก เขาอยากมีการผจญภัยของตัวเอง เขาต้องการความเป็นอิสระส่วนตัว ในหลายด้านแล้วมันเป็นเรื่องของการที่เขาค้นหาตัวเอง ได้พบความบุคลิกแห่งความเป็นชายและนักผจญภัยทั่วไป” ตัวผู้กำกับเป็นแฟนพันธุ์แท้อย่างยาวนานของนานของนิยายในจินตนาการแนวแฟนตาซีของจูลส์ เวิร์น เจ้าของผลงานนิยายในศตวรรษที่ 19 เรื่อง The Mysterious Island และ Twenty Thousand Leagues Under the Sea ที่ถ่ายทอดเรื่องราวและมอบหัวใจสำคัญของการผจญภัยในเรื่องราว “ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเรื่อง Mysterious Island เมื่อปี 1960” เขาเล่าว่า “นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสประสบการณ์ของจูลส์ เวิร์น แต่ผมเริ่มทำหนังแอนิเมชั่นแบบสต็อปโมชั่น ตอนเป็นเด็กผมเป็นพวกคลั่งหนังสือแนวไซไฟและแฟนตาซี ผมอ่านเยอะมาก แม่ของผมมีห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือแนวไซไฟและแฟนตาซีที่บ้าน ตอนผมอายุ 7 ขวบผมเลยเข้าไปอ่านหนังสือของจูลส์ เวิร์น และ เอช.จี. เวลส์ อ่านทุกอย่างที่มือผมจะเอื้อมไปหยิบได้ถึง” เพย์ตันได้รับเนื้อหาสาระที่มีอิทธิพลเป็นแรงบันดาลใจของเขา เขาอยากสร้างภาพยนตร์ในจินตนาการทั้งหมดเป็นแนวไซไฟ “ตามหลักของเอช. จี. เวลส์ ทั้งหมดจะเป็นเรื่องแฟนตาซีที่เกิดขึ้นในโลกอื่น แต่จูลส์ เวิร์น กล่าวว่าแฟนตาซีเกิดขึ้นในโลกของเราเองได้” เพย์ตันอธิบายว่า “ฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่อยู่ห่างไกลจากโลกแฟนตาซีเลย นี่เป็นการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ของจริงที่อยู่ในโลกตามหลักวิทยาศาสตร์ของเรา และเป็นการแผ่ขยายเรื่องราวและถ่ายทอดให้มีความกลมกลืนแบบใหม่” ตอนนี้ฉากพร้อมสำหรับเหล่านักแสดงแล้ว ระบบกล้อง Fusion 3D ขนาดมหึมามีการพัฒนาขึ้นมาครั้งแรกเพื่อให้จับภาพที่มีความลึกและความถูกต้องในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในภาพยนตร์เรื่อง Avatar กล้องถูกวางอยู่บนเครนขนาดยักษ์ที่หมุนไปมาบนฉาก ผู้อำนวยการสร้าง โบว์ ฟลินน์ กลับมาร่วมงานจากเรื่อง Journey ในภาคแรก พร้อมกับทริปป์ วินสัน และ ชาร์ล็อตต์ ฮักกินส์ เล่าว่าพวกเขามีข้อได้เปรียบจากบทเรียนต่างๆ ที่เรียนรู้มาจากหนังภาคแรก ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกที่ถ่ายทำโดยใช้เทคโนโลยี 3 มิติแบบใหม่นี้ “หนังภาคนี้ง่ายกว่าหนังภาคแรก เพราะพวกเราเป็นกลุ่มแรกที่ได้ใช้เทคโนโลยีนั้น แต่ตอนนี้พวกเราเป็นผู้ชำนาญไปแล้ว” ฟลินน์เล่าว่า “ตอนนี้เทคโนโลยีมีความละเอียดอ่อนมากขึ้น และกล้องก็มีขนาดเล็กและเบาลง แต่มีการเริ่มใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้นเพราะเราสามารถออกแบบภาพยนตร์ในรูปแบบ 3 มิติได้จริงเลย ตัวอย่างเช่น ฉากนี้ทั้งหมดถูกออกแบบมาด้วยจินตนาการว่ากำลังถ่ายทำด้วยกล้อง เราไม่สามารถทำแบบที่เคยทำกับหนัง 2 มิติได้อีกต่อไป เราต้องยอมรับและปรับตัวเข้ากับมัน” “สำหรับหนังแอ็คชั่นแบบนี้ จำเป็นที่เราต้องออกแบบฉากต่างๆ ให้มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุด ซึ่งแบรดสร้างทางเลือกที่ฉลาดมากขึ้นมา” วินสันเสริมว่า “ฉากเหล่านี้มีความอลังการและสร้างขึ้นมาเพื่อการแสดงในรูปแบบ 3 มิติ แต่แบรดก็ใช้กับช่วงจังหวะที่ดูแล้วไม่มีความโดดเด่นต่อการแสดง 3 มิติด้วย” ใบไม้พัดไหวอย่างมีชีวิตชีวา เกสรปลิวลอยไปมา (จริงๆ แล้วใช้แทนขี้เถ้าจากธรรมชาติด้วยสิ่งที่เรียกว่า Palmer’s Powder) ไปทั่ว เพย์ตันย้ายมาสู่กองถ่ายแห่งหนึ่ง ซึ่งมีจอมอนิเตอร์ 3 มิติ ที่ถูกป้องกันจากละอองฝนโดยให้มาอยู่ภายใต้ที่พักชั่วคราว เพื่อดูภาพตามจินตนาการแบบ 3 มิติถูกถ่ายทอดออกมาแบบสดๆ “แอ็คชั่น” เขาพูดเบาๆ แต่เสียงดังก้องไปทั่วฉาก แล้วผู้มีใบหน้าที่คุ้นตาก็เดินผ่านทุ่งหญ้าเข้ามาคนเดียวไมเคิล เคน ในรูปลักษณ์ที่มีหนวดสีขาวปกคลุม ใส่กำไลและสร้อยคอรูปกระดูก ท่าทางสับสนเหมาะกับตัวละคร อเล็กซานเดอร์ แอนเดอร์สัน ของเขา เขาเดินทางผ่านป่าที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้ คนต่อมาคือดเวย์น จอห์นสัน ผู้รับบทเป็น แฮงค์ พ่อเลี้ยงของฌอน ผู้ไม่เห็นด้วยกับการหนีออกจากเกาะของพวกเขา ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกาะจมไปอยู่ใต้พื้นมหาสมุทร โดยมีกุซแมนที่รับบทเป็น กาบาโต้ นักขับเฮลิคอปเตอร์เป็นผู้ติดตาม ทำหน้าที่แบกมะม่วงยักษ์ของเกาะชิ้นหนึ่ง ฮัตเชอร์สันและฮัดเจนส์รับบทเป็นฌอนและไคลานิที่ดึงรอกเมื่อเครนขนาดใหญ่เลื่อนลงมาจับภาพการแสดง ฮัตเชอร์สันก็หยุดมองขึ้นไปบนท้องฟ้า “นี่คือหุบเขาแห่งดอกไม้” ฟลินน์บอกเราหลังจากการถ่ายทำ “ในเกาะแห่งนี้เกิดวิวัฒนาการขึ้นมาเป็นพิเศษ ฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่ปกติมีขนาดเล็กก็จะมีขนาดใหญ่ และมันวิเศษมากที่ได้เล่นกับความยิ่งใหญ่แบบนั้นโดยเฉพาะในรูปแบบ 3 มิติ เรายิ่งสนุกสนานมากขึ้นเมื่อได้พาผู้ชมเข้าสู่ฉากแอ็คชั่นและทิวทัศน์ที่มีความแปลกและน่าพิศวงเหล่านี้” เมื่อผ่านไป 2-3 เทค เราก็ได้รู้ถึงผลที่ตามมาจากการที่ดอกไม้มีขนาดใหญ่ นั่นคือผึ้งมีขนาดยักษ์ “ที่นี่มีผึ้งขนาดใหญ่ยักษ์อยู่” เพย์ต้นเล่าให้เราฟังว่า “ที่นี่มีผีเสื้อยักษ์ กิ้งก่ายักษ์ และช้างจิ๋ว ฉากต่างๆ ถูกออกแบบมาให้สัตว์เหล่านี้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้ชมแล้วเกิดความตลกขึ้นมา” เมื่อเราทำการสำรวจโลกของจูลส์ เวิร์น เราต้องเตรียมรับสิ่งที่ไม่คาดคิดเอาไว้ สำหรับองค์ประกอบในการสร้างสรรค์ “ชาวเวอร์เนียน” เพย์ตันและผู้เขียนบทภาพยนตร์ไบรอันและมาร์ค กันน์ ได้เรียงร้อยเอาไว้ตลอดเรื่องราว ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ดเวย์น จอห์นสัน รู้สึกมีความสุข “บอกตามตรงว่าหลายอย่างที่เกิดขึ้นมันน่าตื่นเต้นจริงๆ และผมตื่นเต้นที่ผู้ชมจะได้เห็นสิ่งเหล่านั้นด้วย” เขากล่าว ความกระตือรือร้นและความสนใจของจอห์นสันเป็นสิ่งที่ช่วยผู้กำกับได้มาก “ดเวย์นอยากเพิ่มระดับทุกอย่าง” เพย์ตันกล่าว “ทุกอย่างที่ดเวย์นได้สัมผัส เขาอยากมั่นใจว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะทำได้ และช่วยให้ทีมงานได้ทำงานได้ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ด้วย เวลาที่วนเวียนกับคนแบบนั้น เราก็อยากตักตวงผลประโยชน์จากความสามารถของเขาให้มากที่สุดเท่าที่เราทำได้ และนั่นก็ทำให้หนังสนุกมากขึ้นด้วย” จอห์นสันปรากฏตัวขึ้นมาอย่างสง่าผ่าเผยในเสื้อแขนกุด เขาดูเหมาะกับบทบาทจากประสบการณ์เบื้องต้นของเขาในฐานะ “The Rock” ซึ่งเป็นนักแสดงมวยปล้ำมืออาชีพชื่อดัง นักแสดงที่แสดงในภาพยนตร์ เช่น The Mummy Returns, Fast Five, Get Smart และ The Tooth Fairy เป็นพระเอกในบ้านเกิดที่ฮาวายและรู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาที่นี่ “จริงๆ แล้วผมไม่ได้เกิดที่นี่ แต่ผมมีช่วงเวลาดีๆ ที่เติบโตขึ้นที่ฮาวาย” เขาเล่าว่า “จริงๆ แล้วผมเกิดที่ซาน ฟรานซิสโก แต่ผมรู้สึกแปลกใจที่ได้กลับมาแสดงหนังที่นี่ ผมน่าจะโตขึ้นในที่ๆ อยู่ห่างไกลออกไปอีก 1 ชั่วโมงซึ่งอยู่ตรงใจกลางเมือง ตอนนั้นอายุ 13-14 ปี ผมรักแฮร์ริสัน ฟอร์ด และ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นการได้หวนกลับมาและสนุกกับการแสดงหนังผจญภัยแบบนี้เป็นความโชคดีของผมแล้ว” ในภาพยนตร์ตัวละครของจอห์นสันได้ถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยลงรอยกันกับลูกเลี้ยงของเขา พร้อมแสดงกับคริสติน เดวิส (Sex and the City) ที่รับบทแสดงเป็น ลิซ แม่ของฌอน “ตอนนี้ครอบครัวของเราค่อนข้างมีปัญหา และผมอยากทำให้กลับมากลมเกลียวกัน” จอห์นสันอธิบายว่า “นั่นคือสิ่งที่ผลักดันแฮงค์ มันเป็ฯสิ่งสำคัญสำหรับเราที่ต้องมีความสัมพันธ์แบบพ่อลูกที่เหนียวแน่นกับฌอน แต่ก็ยังเคารพในความเป็นจริงที่ว่าพ่อของเขาได้เสียไปแล้ว เมื่อเราหยิบยกเรื่องขึ้นมา แฮงค์กำลังพยายามประคองดูแลความสัมพันธ์กับลูกเลี้ยงของเขา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นตัวผลักดันจึงมีความน่าสนใจและค่อนข้างเจ็บปวดอยู่บ้าง แต่เป็นความสนุกสนานระหว่างตัวละครทั้ง 2 เพราะฌอนไม่ใช่เด็กอีกแล้ว เขาโตเป็นหนุ่มที่พบประสบการณ์ร้ายๆ มาเยอะมาก” จอช ฮัตเชอร์สัน แสดงในภาพยนตร์เรื่องแรกตอนยังเป็นเด็ก แต่ตอนนี้โตขึ้นเป็นหนุ่มที่ยิ้มง่ายและมีอารมณ์ขัน ส่วนตัวละครของเขาคราวนี้ก็แตกต่างจากเที่ยวที่แล้วเช่นกัน “เขาดูกระตือรือร้นมากขึ้นเกี่ยวกับการไปผจญภัย เขาพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การผจญภัยอย่างเต็มรูปแบบ” ฮัตเชอร์สันเล่าในช่วงพักระหว่างฉากที่ต้องแสดงกับวาเนสซ่า ฮัดเจนส์ “ความสัมพันธ์ของเขากับแฮงค์ ซึ่งเป็ฯตัวละครของดเวย์นมีแรงผลักดันที่น่าสนใจมาก เพราะในตอนแรกพวกเขาไม่เข้าใจกันและมันเกี่ยวกับว่าพวกเขาเริ่มเข้ากันได้อย่างไรและได้เรียนรู้อะไรกันหลายอย่าง” ความสัมพันธ์ของฮัตเชอร์สันกับเพื่อนร่วมนักแสดงของเขาต่างจากตัวละครของพวกเขาอย่างลิบลับ “ดเวย์นเจ๋งมาก” เขาเล่าว่า “เขาเป็นเท็ดดี้แบร์ยักษ์ เขาตัวใหญ่มาก ดูน่ากลัว แต่เขาเป็นคนน่รัก สนุกสนาน ทำอะไรติ๊งต๊องและไร้สาระเหมือนพวกเรา เราเลยเข้ากันได้ดีมาก” นักแสดงวัยรุ่นทั้ง 2 อย่างฮัดเจนส์และฮัตเชอร์สันพบว่าตัวเองได้สำรวจเกาะ และได้ว่ายน้ำหรือโต้คลื่นบนชายหาดที่เลื่องชื่อในช่วงพักของพวกเขา “พวกเรายังเด็กและเป็นคนที่มีความสนุกสนาน มีความร่าเริงอย่างเต็มที่ ผมเลยคิดว่าการมีใครสักคนแบบนั้นในฉากมันทำให้สนุกมากขึ้น เพราะเราจะได้หัวเราะและฆ่าเวลาไป” ฮัตเชอร์สันเล่าว่า “มีบางสิ่งเกี่ยวกับการได้อยู่ที่ฮาวาย คือเรารู้สึกได้ถึงพลังของการไล่ล่าพลุ่งพล่านในตัวเรา ฟังดูแปลกแต่ความรู้สึกแบบนั้นมันออกมาจากที่นี่ ทุกคนต่างรู้สึกได้แบบนั้น”“มันเรียบง่ายมาก” ฮัดเจนส์กล่าวเสริมว่า “มันทำให้เราลืมเรื่องของเราและเปิดรับทุกอย่างรอบตัวเราได้” นักแสดงวัยรุ่นจากภาพยนตร์เรื่อง High School Musical อย่างฮัดเจนส์ไม่ได้ร้องเพลงระหว่างแสดงเรื่อง Journey 2: The Mysterious Island แต่เธอได้ร้องเบื้องหลังฉาก “เธอชอบเต้นตลอด” ฮัตเชอร์สันอธิบาย“และร้องเพลงด้วย” ฮัดเจนส์พูดเสียงสูง นักแสดงวัยรุ่นหญิงบรรยายถึงตัวละครไคลานิของเธอเองว่า “สนุกมาก เธอเป็นชาวเกาะ เธอติดอยู่ในการผจญภัยนี้ที่ขัดแย้งกับความตั้งใจของเธอ แต่ตลอดเวลาฌอนก็ให้เธอเปิดใจรับมันเพราะปกติเธอจะทำตามความคิดตัวเอง” ไคลานิเป็นเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวในการผจญภัย “มันเลยเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องคอยเฝ้าระวังหนุ่มๆ มันวิเศษมาก ฉันหมายถึงทุกคนเจ๋งสุดๆ ฉันเข้ากับพวกเขาได้ดีมาก”ลูอิซ กุซแมน รับบทแสดงเป็น กาบาโต้ พ่อของไคลานิ ที่เราเห็นในช่วงแรกว่าเขากำลังเคี้ยวมะม่วงยักษ์ “ผมเดาว่าเขาหิวแล้วไปเจอมะม่วงยักษ์เข้าเลยจัดการซะ” กุซแมนกล่าวติดตลกต่อว่า “ผมไม่กินมะม่วงเยอะในเดือนเดียว! แต่ตัวละครนั้นเราก็รู้กันดีว่าเป็นคนง่ายๆ สบายๆ นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมรักในบทบาทนี้” กุซแมนเป็นผู้ถ่ายทอดการแสดงที่น่าจดจำในภาพยนตร์ เรื่อง Traffic, Carlito’s Way และ Boogie Nights เขาสนุกกับโอกาสที่จะได้นำอารมณ์ขันของเขามาพัฒนาสู่ตัวละครกาบาโต้ “เมื่อนานมาแล้วผู้คนพูดว่า ‘เราเห็นคุณเป็นคนร้ายตลอดเลย’ และอะไรแบบนั้น” เขาเล่าว่า “ผมรักสิ่งที่ผมแสดงในหนังดราม่าและคอมเมดี้ แต่บทบาทนี้ผมได้สนุกไปกับมันมาก ผมคิดว่ามันถูกประพันธ์มาอย่างดีและผมก็สนุกกับเวลาที่ได้แสดงด้วย” ฮัดเจนส์เรียกกุซแมนในฉากว่า “พ่อ” “เขาไม่ได้เป็นสุดที่รักเท่านั้น ทุกสิ่งที่ออกมาจากปากของเขาเป็นเรื่องน่าตลกและเขาก็เป็นแบบนั้นตลอด” เธอพูดต่อว่า “บอกได้เลยว่าสำหรับเขาแล้วในการแสดงเป็นพ่อของฉันถือเป็นเกียรติ ฉันเรียกเขาว่าพ่อตลอดเวลา เขาเป็นผู้ชายที่น่าทึ่ง” กาบาโต้ทำธุรกิจให้บริการด้านเฮลิคอปเตอร์สำหรับนักท่องเที่ยวจากปาเลา และน่าจะเป็นเพียงผู้เดียวที่พาฌอนและแฮงค์ไปยังพิกัดที่มีสัญญาณปรากฏได้ “พวกเขามาหากาบาโต้และเขาพูดว่า ‘ได้เลย ผมจะพาคุณไป คิด 2 พันเหรียญนะ’” กุซแมนอธิบายต่อว่า “เขาแนะนำพวกเขาให้รู้จักกับลูกสาว แล้วเธอก็จัดการให้พวกเขาจ่าย 3 พันเหรียญ เธอเป็นนักธุรกิจได้เก่งกว่า เราจึงไปลงเอยที่เกาะมหัศจรรย์ ส่วนกาบาโต้ก็กลายเป็นนักท่องเที่ยว” จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายคือ อเล็กซานเดอร์ แอนเดอร์สัน ปู่ผู้เป็นไอดอลของฌอนที่เขาเดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือไมเคิล เคน ผู้รับบทแสดงเป็นบรรพบุรุษตระกูลแอนเดอร์สันดูสบายๆ และมีความสุขในฉากของหนังที่แตกต่างจากหนังที่เขาแสดงอย่างสิ้นเชิง “ผมรับบทปู่เป็นครั้งแรก และก็แสดงหนัง 3 มิติเป็นครั้งแรกด้วย” นักแสดงผู้มีชื่อเสียงของภาพยนตร์ไตรภาค The Dark Knight trilogy และเจ้าของรางวัล Oscar จากเรื่อง Hannah and Her Sisters และ The Cider House Rules ครั้งหนึ่งเคนเคยแสดงเป็นกัปตันนีโมในภาพยนตร์ทางทีวีของชาวออสเตรเลียน เรื่อง The Mysterious Island รู้สึกตื่นเต้นที่ได้แสดงตัวละครที่เป็นแรงดลใจของเขาให้มีชีวิตชีวา “สิ่งเดียวที่ผมใส่เข้าไปในตัวละครของผมคือไอเดียต่างๆ ของจูลส์ เวิร์น” เคนเล่าว่า “อเล็กซานเดอร์มีความมุ่งมั่นมากและกล้าหาญสุดๆ เขาเป็นผู้ชายที่กล้าหาญมากและผมก็รักเขาเหลือเกิน” “อเล็กซานเดอร์รักทุกย่างก้าวของการผจญภัยนี้ ส่วนไมเคิลก็นำความสนุกสนานมาใส่ในการแสดงได้อย่างเต็มที่” ผู้อำนวยการสร้าง ชาร์ล็อตต์ ฮักกินส์ เล่าว่า “พอเขาสวมเครื่องแต่งกาย เขาก็ยิ้มกว้างและพูดว่า ‘ผมดูเหมือนปู่ของอินเดียน่า โจนส์เลย’”เคนผู้รับบทเป็นปู่รู้สึกดีใจที่ท้ายที่สุดมีโอกาสได้แสดงหนังที่หลานๆ ของเขาจะเพลิดเพลินได้ “ผมคิดว่านี่จะเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของพวกเขาที่สุดท้ายจะได้ดูซะที” เขาเล่าว่า “ผมพูดถึงผมได้ขี่ผึ้งไปรอบๆ ผมว่ามันใช้ได้เลยนะ ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นในหนังมาก่อน” ฉากขี่ผึ้งทำให้เคนมีโอกาสได้แสดงผาดโผนบนสายขึงระโยงระยางที่สร้างขึ้นมาโดยผู้ควบคุมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ ปีเตอร์ เชสนีย์ มันเรียกว่า Bee Buck ซึ่งในภายหลังจะถูกแทนที่ด้วยผึ้งขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ “พวกเขามีถุงสีฟ้าขนาดยักษ์อยู่บนเครน เราต้องนั่งลงบนถุงที่จะกลายเป็นผึ้ง” เขาอธิบายว่า “มันไม่ได้เคลื่อนที่สูงมากนัก เพราะมันไม่มีอะไรแขวน ไม่มีอะไรเป็นตัวควบคุมผึ้ง” เขาหัวเราะ “แต่สตั๊นท์แมนของผมเก่งมาก เราแสดงได้มากเท่าที่ต้องการโดยไม่ดูตลก ผมไม่ได้พูดว่าผมเป็นสตั๊นท์แมน แต่ผมอยากแสดงให้มากเท่าที่ผมจะทำได้” “เขาพูดถึงเรื่องผึ้งอาทิตย์แล้วอาทิตย์เล่า” จอห์นสันหัวเราะ“เขาตื่นเต้นกับมันมาก” จอห์นสันพูดต่ออย่างรวดเร็วว่าเขาตื่นเต้นมากที่มีโอกาสทำงานร่วมกับผู้มีชื่อเสียงแห่งตำนาน” จอห์นสันเล่าถึงมิตรภาพระหว่างแฮงค์และอเล็กซานเดอร์ว่า “มีทั้งจิกกัดและความตลก ตัวละครของเราคอยหยอกล้อกันไปมาในหนังตลอดทั้งเรื่อง เราแสดงเต็มที่ซึ่งผมชอบมาก แต่ชอบในความสนุกสนานนะ”“โชคดีที่ดเวย์นเป็นคนน่ารักมาก” เคนเล่าเสริมอย่างติดตลกว่า “คุณคงไม่อยากไปแหย่เขา” ในอีกด้านหนึ่งของสวนธรรมชาติ มีต้นไม้ที่ล้มอยู่ซึ่งถูกวางบนพื้นของป่า เพื่อทำให้เป็นฐานสำหรับการตัดไม้ระหว่างฉากที่ไล่ล่ากับกิ้งก่ายักษ์ ในมุกตลกแบบคลาสสิคกิ้งก่าจะก้าวมาที่ปลายท่อนซุง ซึ่งจะขยับท่อนซุงไปอีกด้านหนึ่ง และสตั๊นท์แมนจะยืนอยู่บนนั้นกลางอากาศ สำหรับฉากผาดโผนเมื่อหลายปีก่อน ทีมงานด้านเอ็ฟเฟ็กต์ต้องประดิษฐ์ต้นไม้ต่างๆ จากต้นไม้ที่ตายแล้วและเศษซากอื่นๆ ที่ตกลงมาระหว่างการแสดง แต่ตอนนี้มาถึงจุดสำคัญของเรื่อง เมื่อเพย์ตันมาแสดงในฉาก ทีมตากล้องก็มั่นใจในระบบ Fusion อันมหึมาที่ถูกตั้งไว้เพื่อจับภาพความเจริญเติบโตที่น่าทึ่งอย่างชัดเจน ลงไปสู่วัตถุที่มีขนาดจิ๋วซึ่งกำลังลอยอยู่ในอากาศที่สอดส่องแสงอาทิตย์ผ่านยอดไม้ ทีมงานปรับเปลี่ยนในช่วงนาทีสุดท้าย ส่วนเพย์ตันก็กลับไปเข้าฉาก ความต้องการของเขาที่อยากสร้างสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์หลายอย่างให้เป็นไปได้ เช่น ตัวเลื่อยตัดท่อนซุงจะมีการทดสอบจริงเมื่อทีมงานย้ายไปที่โรงถ่ายในวิลมิงตันทางตอนเหนือของคาโรไลน่า ที่นั่นกำลังยุ่งกับการสร้างแทงก์ขนาดยักษ์เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ที่บรรจุน้ำได้ 750,000 แกลลอน และเป็นห้องโถงใต้น้ำที่มีความลึกลับมาก ฉากนี้ดึงดูดความสนใจย้อนกลับไปที่แรงบันดาลใจของภาพยนตร์ นั่นคือ จูลส์ เวิร์น และ Nautilus เรือดำน้ำของกัปตันนีโม “Nautilus ถูกรวมเข้ามาในหนัง 100%” เพย์ตันเล่าว่า “ในหนังของเรานีโมมีหลุมฝังพิเศษที่คนงานของเขาสร้างขึ้นมาให้บนเกาะมหัศจรรย์ The Nautilus ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขู่ผู้คนและฝังเรือไว้ มันถูกสร้างขึ้นให้ตั้งใจดูเหมือนปีศาจแห่งทะเล และนั่นคือความรู้สึกที่อิงมาจาก Nautilus และอินเดียแดงในโลกของกัปตันนีโม มันให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกับ Nautilus แบบใดที่เราเคยเห็นมา” แต่สำหรับตอนนี้จำเป็นต้องมีฉากผาดโผน และเราทำได้แค่อึ้งไปกับสิ่งที่ผู้สร้างภาพยนตร์และทีมงานศิลป์สร้างขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดความงดงามของป่าไม้ในยุคแรกตามธรรมชาติ รู้เลยว่าพวกเขาใช้วิชวลเอ็ฟเฟ็กต์เพื่อเพิ่มความงดงามด้วยภาพอันน่าอัศจรรย์ที่ไม่ใช่ธรรมชาติ เช่น ภูเขาไฟที่มีทอง นกกินเนื้อและกิ้งก่าขนาดยักษ์ ทำให้มีความน่าอัศจรรย์ น่าตื่นเต้น และสิ่งที่ไม่คาดฝัน ซึ่งล้วนสร้างความตื่นตาในระบบ 3 มิติ ภาพยนตร์เรื่อง Journey 2: The Mysterious Isl and จะเริ่มฉาย 2 กุมภาพันธ์ 2012 ผลงานจากวอร์เนอร์ บราเดอร์ พิก เจอร์ส

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ