กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,664.50 USDต่อออนซ์ ลดลง 13.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับลดลง เมื่อค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง หลังจากกรีซไม่สามารถเจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชนได้สำเร็จ
Key Points in Gold Market
o ในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,667 USDต่อออนซ์ ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานนี้อยู่ระหว่าง 1,661.00 — 1,680.00 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับลดลง เมื่อไม่สามารถผ่านเส้น down trend line บริเวณ 1,680 USDต่อออนซ์ได้ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน การไม่สามารถทะลุผ่านเส้น down trend line ได้ ทำให้คาดว่าราคามีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,644 และเส้น MA 34 วันบริเวณ 1,630 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญในสัปดาห์นี้ ส่วนแนวต้านวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,670/1,680 ส่วนแนวรับระดับวันคาดว่าที่บริเวณ 1,660 / 1,656 ค่าเงินยูโรในช่วงเช้าวันนี้ทรงตัวในระดับ 1.30 USDต่อยูโร ซึ่งแข็งค่าขึ้นได้จากระดับอ่อนค่าสุดของเมื่อวานที่ 1.295 USDต่อยูโร เมื่อวานนี้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเนื่องจาก กรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชนไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยถ้าหากว่าเจ้าหนี้ภาคเอกชนยอมลดยอดหนี้ลง 50% อัตราดอกเบี้ยที่เจ้าหนี้ต้องการคือ 4.0% แต่รัฐบาลกรีซยอมจ่ายเพียง 3.5% ส่วนราคาน้ำมันดิบ Nymex เมื่อวานปรับลดลง 0.63 USDต่อบาร์เรล ปิดที่ 98.95 USDต่อบาร์เรล เมื่อการปิโตรเลียมสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต๊อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 7.3 ล้านบาร์เรลสูงกว่าคาด
o ภาพทางเทคนิคต้องติดตามการอ่อนตัวลงของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ว่าสามารถยืนเหนือเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,644และเส้น MA 34 วันบริเวณ 1,630 ได้หรือไม่ การเล่นรอบในระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ 1,660/1,656 แนวต้าน 1,670/1,680 หรือรออ่อนตัวบริเวณแนวรับ เปิด Long โดยมีจุด stop loss ที่บริเวณ 1,654 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,630 แนวต้านบริเวณ 1,700
o ภาพในระยะสัปดาห์เป็น neutral เมื่อยังไม่สามารถทะลุผ่านเส้น down trend line แต่ยังสามารถยืนเหนือเส้น MA 200 วัน และยืนเหนือ 1,650 USDต่ออออนซ์ได้ ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง นักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาอ่อนตัว และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ โดยมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ ด้านปัจจัยพื้นฐานค่าเงินยูโรชะลอการแข็งค่า และเงิน USD ทรงตัว การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในยุโรปประสบความสำเร็จ และการประกาศการให้ความช่วยเหลือทางเงินเพิ่มขึ้นของ IMF อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นสู่แนวต้านของราคาทองคำในแต่ละรอบจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ เนื่องจาก ภาพทางเทคนิคในระยะกลางยังถูกกดด้วยเส้น Down Trend Line ส่วนข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรปยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามต่อไป
o ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำและต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ ในสัปดาห์หน้าอินเดียจะขึ้นภาษีการนำเข้าทองคำ 90% และขึ้นภาษีโลหะเงินเพิ่มขึ้น 2 เท่า อาจทำให้มีความต้องการทองคำลดลง การเข้าอัดฉีดเงินของธนาคารกลางยุโรป และการประชุม FOMC หรือการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐในวันที่ 24 — 25 ม.ค.
o ราคาโลหะเงินปิดที่ 31.98 USDต่อออนซ์ ปิดลดลง 0.30 USDต่อออนซ์โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.86 — 32.47 ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 6.05 ตัน เหลือถือโลหะเงินจำนวน 9,510.70ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.8/31.5 แนวต้านบริเวณ 32.7/33.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.5 — 33.0
o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,250.53 ตัน
Technical Analysis:
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,656/1,644 และแนวต้านที่ 1,680/1,700 กราฟรายวัน แสดงสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม ซึ่งหากราคาทองคำสามารถทะลุผ่าน Down Trend line ราคามีแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน แต่หากราคาทองคำหลุดกรอบ 3 เหลี่ยม อาจมีแนวโน้มอ่อนตัวอีกครั้ง โดย ณ ระดับราคา 1,664 เป็นแนวรับสำคัญ ทั้งนี้ เส้น Stochastic ที่อยู่ในโซน overbought และหักหัวลง เป็นสัญญาณกดดันราคา คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,656 — 1,680 แนะนำ Trading ในกรอบ หรือรออ่อนตัวบริเวณแนวรับ เปิด Long เล่นรอบ โดยมีจุด stop loss บริเวณ 1,654
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.8/31.5 แนวต้านบริเวณ 32.7/33.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.5 — 33.0