กรุงเทพ--25 ม.ค.--ยศยาคลินิก
ยศยาคลินิก คลินิกศัลยกรรมความงามและดูแลผิวพรรณ ตอบรับกระแสธุรกิจศัลกรรมและความงามบูม ชูเอ็ดดูเคตคนไทย “สวยอย่างมีสติ” ให้ทำศัลยกรรมอย่างพอเหมาะ เตรียมขยายกลุ่มเป้าหมายแอร์-สจ๊วต โดยการทำโรดโชว์และจัดโปรเฉพาะกลุ่มสร้างแบรนด์รอยัลตี้นางสาวกานต์ณพิชญ์ กุณามา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด “ยศยาคลินิก” กล่าวว่า จากการที่หลายองค์กร โดยเฉพาะล่าสุดศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่า ในปี 2555 ธุรกิจการแพทย์ศัลกรรมความงามจะได้รับความนิยมและมีโอกาสทางธุรกิจสูงนั้น ทาง “ยศยาคลินิก” ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อรองรับกระแสธุรกิจด้านนี้บูมอย่างต่อเนื่อง โดยเจาะไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มนิสิตนักศึกษา คนทำงาน และกลุ่มบุคลากรทางการบิน โดยจะทำกิจกรรมการตลาดและจัดโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะกลุ่มเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น“จากเดิมที่เราเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาและคนทำงานโดยการใช้กิจกรรมการตลาดด้วยการเดินสายไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งออฟฟิศบิลดิ้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ บางเขน รัชดาภิเษก ลาดพร้าว และ วิภาวดีรังสิต แต่ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ในระดับ C ขึ้นไป ซึ่งอาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพ ตลอดจนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม จึงทำให้ชะลอการตัดสินใจใช้บริการในช่วงนี้ เราจึงขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่กลุ่มธุรกิจการบิน สถาบันการศึกษาด้านภาษา บุคลากรด้านธุรกิจการบิน แอร์โฮสเตจ สจ๊วต เพราะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับ B ขึ้นไป มีกำลังซื้อสูง และเป็นกลุ่มที่สนใจในเรื่องความสวยความงาม ทั้งในกลุ่มทรีทเมนต์ และการทำศัลยกรรมตกแต่ง เพิ่มความสวยงามบนใบหน้า ซึ่งขณะนี้เราได้จัดกิจกรรมเดินสายไปตามโรงเรียนและสถาบันการศึกษาด้านภาษาและธุรกิจการบิน การจัดเวิร์คชอปให้ความรู้ มีการจัดโปรโมชั่น ณ จุดขาย การซื้อแพคเกจศัลยกรรมแถมทรีทเมนต์ การจัดแพคเกจชุดเล็กลงในราคาสุดประหยัด เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น”สำหรับเทรนด์ของการศัลยกรรมตกแต่งในปีนี้ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดมองว่า กระแสเกาหลียังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่กระแสของลูกครึ่งก็กำลังกลับมาแรงเช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้คือเป็นการศัลยกรรมที่เน้นความกลมกลืนรับกับใบหน้าทั้งหมด สามารถดึงบุคลิกและจุดเด่นเฉพาะของลูกค้าออกมา โดยจุดขายสำคัญของยศยาคลินิกคือการมีศัลยแพทย์ตกแต่งที่จบสาขานี้มาโดยตรง ทำให้มีองค์ความรู้และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สำหรับการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ ยศยาคลินิกได้ใช้เทคนิคการทำตลาดแบบ Educational Marketing คือการสร้างความรู้และการให้ข้อมูลด้านการทำศัลยกรรมที่ถูกต้อง โดยชูจุดขายว่า “สวยอย่างมีสติ” คือการทำศัลยกรรมให้พอดีและเหมาะสมกับตนเอง การเน้นความเชี่ยวชาญและความสามารถในการรองรับของบุคลากร เพราะศัลยกรรมตกแต่งเป็นศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้ทักษะเฉพาะด้าน ความรู้และประสบการณ์ของแพทย์ โดยเชื่อว่าในไตรมาสแรกของปีจะทำรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาประมาณ 20%“เราเน้นการให้ความรู้กับผู้บริโภค เน้นการที่เรามีศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีองค์ความรู้เชี่ยวชาญแตกต่างจากที่อื่น เพราะการทำศัลยกรรมผู้บริโภคต้องเชื่อมือเชื่อใจหมอ แต่ละปีประเทศไทยสามารถผลิตศัลยแพทย์ตกแต่งจำนวนประมาณ 12-15 คนเท่านั้น ทำให้ปัจจุบันมีแพทย์กลุ่มนี้เพียง 250 — 300 คน ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางที่เฉพาะกลุ่มจริงๆ จำนวนแพทย์จึงไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดศัลยกรรมที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ที่ผ่านมาช่วงปลายปีจะดรอปลงไปบ้างจากวิกฤติน้ำท่วม แต่ยังเชื่อมั่นว่าตลาดยังไปได้ดี สำหรับงบประมาณการตลาดในไตรมาสนี้อยู่ที่ 5-8 ล้านบาท เน้นไปที่การเจาะตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ทั้งการโรดโชว์ การจัดแอคทิวิตี้เฉพาะกลุ่มมากขึ้น รวมทั้งการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางหลักๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยคาดว่าเราน่าจะทำรายได้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วซึ่งถูกผลกระทบจากน้ำท่วมประมาณ 20%”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net