กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--ซีเอ็มโอ
บมจ.ซีเอ็มโอ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีเวนท์ ออร์กาไนเซอร์ เทงบกว่า 150 ล้านบาทรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Infinite Creative Management” พร้อมประกาศความเปลี่ยนแปลง 8 ประการ เพื่อรองรับการเติบโตธุรกิจ ด้านบิ๊ก CMO “เสริมคุณ” เผยจุดยืนใหม่บริษัทจะไม่ใช่แค่บริษัทอีเว้นท์ แต่จะเป็นผู้สร้างการสื่อสารครบวงจรด้วยความคิดสร้างสรรค์ พร้อมเปิดแผนธุรกิจ 3 ปี โกยรายได้ 2,000 ล้านบาท ในปี 2557
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจอีเว้นท์ครบวงจรแห่งอาเซียน เปิดเผยว่า ในปี 2555 บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กรใหม่ ครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โดยใช้งบประมาณ กว่า 150 ล้านบาท ภายใต้แคมเปญ “CMO Moving Forward 2014” โดยชูแนวคิด “Infinite Creative Management” ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดเรื่องราวใหม่ถึง 8 ประการ
ประการที่ 1 CMO’s New Mission : เพื่อประกาศจุดยืนใหม่ของบริษัทฯ ว่าเราจะไม่ได้เป็นเพียงบริษัทที่รับบริหารงานจัดการด้านอีเว้นท์เท่านั้น แต่นับจากนี้ CMO จะเป็นผู้สร้างประสบการณ์ผ่านการสื่อสารครบวงจรด้วยความคิดสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์อย่างแท้จริง (Communications : Experience : Creative Idea : Solutions)
ประการที่ 2 CMO’s New Target : เพื่อประกาศเป้าหมายของบริษัทฯ จะเติบโตสร้างรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท ในปี 2557
ประการที่ 3 CMO’s New Registered Name : เพื่อประกาศเปลี่ยนชื่อใหม่ จากเดิม บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด(มหาชน)
ประการที่ 4 CMO’s New Logo : เพื่อประกาศตราสัญลักษณ์ใหม่ ภายใต้แนวคิด Infinity โดยจะเป็นการวางตัวหนังสือ CMO ซึ่งเป็นชื่อของบริษัท ให้มีลักษณะคล้ายกับสัญลักษณ์ Infinity เพื่อสื่อให้เห็นถึงการเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และก้าวต่อไปของธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง
ประการที่ 5 CMO’s New Challenge : เพื่อประกาศปรับกลยุทธ์และรีแบรนด์หน่วยธุรกิจเดิม ได้แก่ CM Expertise , CMC , cm art , CMEX และ cm mice พร้อมกับประกาศเพิ่มหน่วยธุรกิจใหม่ อีก 2 บริษัท ได้แก่ i-CM และ Odyssey
ประการที่ 6 CMO’s New AEC Horizon : เพื่อประกาศขยายรกิจสู่ต่างประเทศ โดยเห็นโอกาสเติบโตจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ASEAN Economic Community : AEC) โดยตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% ในปี 2557
ประการที่ 7 CMO’s New Business : เพื่อประกาศเพิ่มประเภทธุรกิจ โดยให้บริษัทในเครือมาสร้างธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากความเชี่ยวชาญที่เรามีอยู่
ประการที่ 8 CMO’s New Office : เพื่อประกาศจะลงทุน 150 ล้านบาท เพื่อสร้าง Bangkok Creative Playground บนเนื้อที่ 12 ไร่ ซึ่งที่นี่ คือ สำนักงานใหม่ของ CMO โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2556
“ในการรีแบรนด์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท สาเหตุที่เราต้องภาพลักษณ์ในครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่จะไม่เป็นเพียงบริษัทอีเว้นท์ แต่เราจะเป็นบริษัทฯ ที่สื่อสารด้วยความคิดสร้างสรรค์ พร้อมที่จะรองรับการเติบโตของธุรกิจ บวกกับเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเรามองว่าด้วยศักยภาพด้านบุคคลากร และความคิดสร้างสรรค์ของประเทศไทย จะสามารถสร้างรายได้จากต่างประเทศ ได้เช่นเดียวกันกับธุรกิจอื่นๆ” นายเสริมคุณ กล่าว
สำหรับแผนงานในช่วงระยะเวลา 3 ปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาทในปี 2557 จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 900 ล้านบาท โดยการเติบโตธุรกิจจะมาจากการรับงานภาครัฐ 35% และงานภาคเอกชน 65% ตลอดจนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด ภายใน3ปี
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวอีกว่า ในปี 2555 บริษัทฯ เชื่อว่าภาพรวมงบจัดกิจกรรมของภาคเอกชนจะมากกว่าภาครัฐ เพราะว่า ภาครัฐต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูประเทศหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะที่ภาคเอกชนจะมีการแข่งขันจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขายกันมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าเริ่มแข่งขันกันมาตั้งแต่ต้นปี
นอกจากนี้ในส่วนที่จะขยายงานต่างประเทศ บริษัทฯ วางแผนออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกเราได้ติดต่อกับประเทศกัมพูชา และเวียดนาม เหตุที่เลือก 2 ปรเทศนี้ก่อน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีพื้นที่ติดกับประเทศไทย บวกกับบริษัทฯ มีพันธมิตรที่ติดต่อธุรกิจกันมาอยู่แล้ว ส่วนเฟสที่ 2 จะเริ่มเดินหน้าในปี 56 โดยเราจะมุ่งไปประเทศฟิลิปปินส์ ,มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ ผลงานที่ผ่านมาก็ตอกย้ำความเป็น Crative Mangement ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงทั้งในระดับชาติและระดับสากล อาทิ เป็นผู้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ,งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ,งาน Home Pro Expo, งาน Motor Expo และ การเป็นผู้นำในการสร้างพาวิลเลียนในงานบีโอไอแฟร์ 2011 ซึ่งได้ทั้งหมด 8 พาวิลเลียน เป็นต้น
“ขณะที่ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 2554 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน บริษัทฯ มีรายได้รวม 610 ล้านบาท ส่วนทั้งปีเป้าก็ลดลงจากที่เคยตั้งไว้ว่าจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้อีเว้นท์ใหญ่อย่างงานบีโอไอแฟร์ ถูกเลื่อนมาจัดในต้นปีนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทฯเชื่อว่าด้วยศักยภาพของบริษัท และความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนาบุคคลากร ความคิดสร้างสรรค์ จะทำให้บริษัทถึงเป้า 2,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีได้อย่างแน่นอน” นายเสริมคุณ กล่าวทิ้งทาย