กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--สสวท.
หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ตั้งอยู่ที่ศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีภารกิจในการแสวงหา จัดเก็บ อนุรักษ์ รักษาสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ นอกจากนั้นยังมีการจัดฉาย และกระตุ้นให้สังคมมองเห็นภาพยนตร์เป็นศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ให้ผู้ชมทุกเพศวัยมองว่าภาพยนตร์สามารถสร้างความรู้ให้กับเราได้ ถ้าหากเราที่สนใจที่จะเรียนรู้จากมัน
ด้วยเหตุนี้เองหอภาพยนตร์จึงได้เข้าร่วมจัดฉายภาพยนตร์ในเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ต่อเนื่องกันมาสองปีแล้ว โดยเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 7 ซึ่งมีประเด็นหลักเกี่ยวกับป่าไม้และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตินี้มีอุปสรรคต้องเลื่อนการจัดฉายจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มาเป็นเดือนมกราคมในปีนี้แทน โดยจะจัดฉายไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้เท่านั้น
นายสัณห์ชัย โชติรสเศรณี ผู้ช่วยผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ได้บอกกับเราว่า ทางหอภาพยนตร์ได้ส่งจดหมายเชิญชวนไปตามโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดนครปฐมรวมทั้งเขตใกล้เคียง ผลการตอบรับค่อนข้างน่าพอใจ มีการจัดฉาย 9 รอบ และลัญจรไปฉายที่โรงเรียนในเขตภาษีเจริญอีก 1 รอบ ทั้งยังเอื้อเฟื้อจัดเตรียมอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียนที่มาชมภาพยนตร์ในเทศกาลนี้ทุกคณะ หากมาชมในช่วงบ่ายก็จะเตรียมอาหารว่างให้
เท่าที่สังเกตนักเรียนสนุกสนานและชอบมาก พวกเขาได้ประโยชน์จากภาพยนตร์ที่ชมและสนุกไปกับมัน แม้ว่าบางครั้งเด็กๆ อาจจะงงกับพืชและสัตว์ที่พวกเขาไม่เคยรู้จักจากการชมภาพยนตร์ต่างประเทศ แต่ก็ได้ความรู้และพยายามเชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิมของเขา
ปีนี้นอกจากการสรุปความคิดรวบยอดหลังจากชมภาพยนตร์เสร็จแล้ว ทางหอภาพยนตร์ ยังได้หากิจกรรมพิเศษเพิ่มเติมคือจัดหากิจกรรมวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับภาพยนตร์มาให้น้อง ๆ ได้ร่วมสนุก ทั้งกิจกรรมกล้องสลับสลาย และมหัศจรรย์การหมุน ซึ่งสนุกกันทั้งเด็กๆ และทั้งผู้จัดกิจกรรมกันเลยทีเดียว
สำหรับกิจกรรมมหัศจรรย์การหมุนนั้น เด็กๆ ได้วาดภาพลงในแผ่นกระดาษสีขาวที่ตัดเป็นวงกลมและร้อยเชือกทั้งสองด้านไว้แล้ว เป็นภาพอะไรก็ได้ตามแต่จินตนาการ ที่น้องๆ อยากให้ทั้งสองภาพอยู่ในรูปเดียวกัน เช่น ปลากับขวดโหล เป็ดกับแม่น้ำ นกกับกรง น้องๆ บางคนวาดงูกับโซ่ งูกับกรง แต่วัตถุหนึ่งภาพที่วาดต้องวาดกลับหัว เสร็จแล้วก็หมุนกระดาษนั้นเร็วๆ ก็จะมองเห็นทั้งสองภาพนั้นกลายเป็นภาพเดียวกัน ซึ่งเป็นการทดลองง่ายๆ สนุก ๆ เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีทฤษฎีภาพติดตานั่นเอง
โรงเรียนกสิณธรวิทยา เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่ให้ความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เป็นอย่างมาก โดยได้ส่งคณะคุณครูและนักเรียนทุกคนในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ ป. 1 — ป.6 หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาชมภาพยนตร์ที่จัดฉายในเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ในครั้งนี้
วันนี้เด็กๆ ชั้น ป.1 ของโรงเรียนกสิณธรวิทยา ได้เข้ามาชมภาพยนตร์วิทยาศาสตร์และร่วมกิจกรรมกันอย่างตั้งอกตั้งใจ ทั้งความสนใจในการชมภาพยนตร์ เสียงหัวเราะชอบใจในตอนที่สนุก ความตั้งใจในการตอบคำถาม และร่วมกิจกรรม ความตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นภาพติดตาที่เกิดจากการหมุนจากเหล่าเด็ก ๆ ได้สร้างความปลาบปลื้มยินดีให้แก่ผู้จัดมิใช่น้อย
หลังจากชมภาพยนตร์วิทยาศาสตร์และทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์เสร็จแล้ว ก่อนกลับไปที่โรงเรียนน้องๆ ทั้งได้รู้จักกับกล้องฉายภาพยนตร์ 16 มิลลิเมตร ซึ่งได้ฉายภาพยนตร์จากฟิล์มเรื่องทอมกับเจอรรี่ให้ชมสด ๆ ซึ่งการได้ชมภาพยนตร์แบบนี้รู้สึกว่าสนุกและตื่นตาตื่นใจมากเลยนะเออ.
มาดูกันว่าเด็กๆ เหล่านี้รู้สึกอย่างไรกันบ้าง
เด็กชายนิธาน พรหมสุวรรณ (นิธาน) บอกว่า ผมชอบดูสารคดีเพราะสนุก มาชมหนังวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ชอบ ได้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติซึ่งเกี่ยวข้องกับวิชาวิทยาศาสตร์ ดูแล้วจำเนื้อหาได้ ตอบคำถามได้ ชอบเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ พละศึกษา พอดูหนังแล้วรู้สึกชอบวิทยาศาสตร์มากขึ้น
เด็กชายนราธร ประทุมชัย (คิม) เล่าว่า ตนเองนั้นชอบดูหนังเกี่ยวกับสัตว์ ชอบดูสารคดี ได้ดูบ่อยๆ ที่บ้าน มาชมภาพยนตร์ที่หอภาพยนตร์แห่งนี้จึงรู้สึกชอบและสนุกตื่นเต้นไปกับหมูป่า และเสือที่ได้ชม รู้สึกว่าวิทยาศาสตร์อยู่ใกล้ตัวเรา มีประโยชน์กับเรา การเรียนวิทยาศาสตร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์กับตัวเรา
“หนูวาดนกกับกรงค่ะ” เด็กหญิงมินตยา บุญประภา (แอน) บอกเสียงแจ๋ว “ส่วนหนู .ปลากับขวดโหลค่ะ” เด็กหญิงเกสรา พรมสี (เมจิ) กล่าวเสียงใส เด็กน้อยทั้งสองคนบอกกับเราว่าสนุกจังที่ได้ทดลองมหัศจรรย์การหมุนแล้วมองเห็นภาพติดตาเหมือนอย่างที่พี่วิทยากรบอกเป๊ะเลย มาดูหนังวันนี้ได้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ได้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์นั้นอยู่ใกล้ตัวเรา ไปทางไหนก็อยู่รอบๆ ตัวเรา อยู่กับเราตลอด การเรียนวิทยาศาสตร์จึงจำเป็น หนูชอบเรียนวิทยาศาสตร์ค่ะ
มาดูความคิดเห็นในส่วนของคุณครูกันบ้าง คุณครูวิภารัตน์ สรวงท่าไม้ คุณครูโรงเรียนกสิณธรวิทยา เล่าให้เราฟังว่า ทางโรงเรียนมองว่าเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นี้มีประโยชน์ สามารถนำมาใช้เป็นสื่อประกอบการสอนได้ ให้เด็กๆ ได้เห็นภาพจริง โรงเรียนพาเด็กๆ มาชมเทศกาลนี้เป็นปีแรก พบว่านักเรียนมีความสนุก ตื่นเต้น พอใจมาก อย่างนักเรียน ป. 4 — ป. 6 กลับไปโรงเรียนก็นำกล้องสลับลายไปเล่นต่ออย่างสนุกสนาน อย่างในวันนี้เด็ก ป. 1 แม้ว่าจะยังเล็กก็มีความสนใจ สนุกและเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากการเข้าร่วมเทศกาล ฯ ได้ดี ปีหน้าถ้าหอภาพยนตร์จัดฉายก็อยากจะมาอีก
ท้ายสุดนี้ นายสัณห์ชัย โชติรสเศรณี ผู้ช่วยผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ได้กล่าวทิ้งท้ายกับเราว่า นอกจากการจัดฉายภาพยนตร์ในเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 7 แล้ว ทางหอภาพยนตร์ยังจัดฉายหนังให้เขาชมฟรีทุกวัน วันธรรมดา ฉายเวลา 17.30 น. วันหยุดเสาร์อาทิตย์และหยุดนักขัตฤกษ์ฉายเวลา 13.00 น. โดยได้จัดฉายต่อเนื่องไปตลอด และมีพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทยให้เข้าชมฟรีได้ทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์จำนวน 3 รอบ เวลา 10.oo 13.00 น. และ 15.00 น.
นอกจากนั้นหอภาพยนตร์ยังมีโครงการโรงหนังโรงเรียน เพื่อใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ต่าง ๆ โรงเรียนที่สนใจสามารถนำคณะครูและนักเรียนมาชมฟรีได้ที่หอภาพยนตร์แห่งนี้ได้ โดยติดต่อที่ โทร. 0-2482-2013 หรือ 0-2482-2014 สำหรับปีนี้ได้ทำรายการภาพยนตร์ที่จะจัดฉายในโครงการโรงหนังโรงเรียนไว้แล้วให้ทางโรงเรียนได้เลือกชม ส่วนปีหน้าคาดว่าจะปรับเปลี่ยนรายการภาพยนตร์เป็นหนังเกี่ยวกับอาเซียน เพื่อให้เด็กๆ ได้รู้จักประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายการเข้าร่วมประชาคมอาเซียนของไทย