กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--แมงป่อง
บริษัท แมงป่อง จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดธุรกิจเอนเตอร์เทนเม้นท์ซอฟท์แวร์รวมถึงการถือครอง ลิขสิทธิ์ ทั้งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายภาพยนตร์ในรูปแบบวีซีดี, ดีวีดี และเพลงในรูปแบบ เทป, ซีดี ที่มีคุณภาพและมีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย บริหารงานโดยคุณกิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ในวงการต่างยอมรับในฝีมือการบริหารงานมานานกว่า 23 ปี
ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่าน บริษัท แมงป่อง มีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในทุกๆ ด้าน ทั้งในด้านนโยบายผลิตภัณฑ์ ที่มุ่งเน้นผลิตสินค้าให้ทันสมัย โดยการเลือกสรรผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ อีกทั้งให้ตรงตามความต้องการของตลาดทุกเพศทุกวัยตามสโลแกน "แมงป่องที่สุดของนักดูหนังฟังเพลง" ในปีที่ผ่านมายังเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยศักยภาพและประสบการณ์การบริหารงาน จึงได้ขยายไลน์ธุรกิจก้าวไปถึงการเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ โดยได้ตั้ง บริษัท นครไทยพิคเจอร์ จำกัด เพื่อดูแลการสร้างภาพยนตร์ไทยสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ไปแล้ว คือ เรื่องบุปผาราตรี ที่ได้ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค เป็นผู้กำกับฯ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวตลก-สยองขวัญ สำหรับโปรเจคในเรื่องต่อไปที่กำลังเตรียมงานสร้างอยู่คือ บุปผาราตรี 2 และ สายล่อฟ้า โดยภาพยนตร์ในแต่ละเรื่องของแมงป่องจะเน้นคุณภาพและตรงความต้องการของตลาดเป็นหลัก ส่วนบริษัท แมงป่อง พิกเจอร์ จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลการผลิตภาพยนตร์โฮมมูฟวี่ เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดบันเทิงอีกทางหนึ่งในรูปแบบวีซีดีและดีวีดี โดยตั้งเป้าได้วางจำหน่าย เดือนละ 2-3 เรื่องล่าสุดที่ผลิตคือ เรื่องสังข์ทอง, แฟนฉันต้องหาร 2 และกินรี เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจใหม่ที่แมงป่องได้จัดทำ โดยเปิดค่ายเพลงพร้อมกัน 3 ค่ายได้แก ค่ายไฮเยสมิวสิค ประกอบธุรกิจผลิตเพลงแนวป๊อป ได้เปิดอัลบั้มแรกไปแล้วในอัลบั้ม "ปุ๊ก อะไลฟ์" ค่ายพิจิกเร็คคอร์ดประกอบธุรกิจผลิตเพลงในแนว INDY ในอัลบั้ม "เรนโบว์ คอนเน็คชั่น" และอัลบั้ม "เซิร์ฟซาวด์" ศิลปินซาวด์เซิร์ฟ และค่ายดังดัง จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตเพลงแนวลูกทุ่ง อัลบั้ม"ใจก่อการร้าย" ศิลปิน สีไพร สารีวงษ์, อัลบั้ม "ต่องแต่ง" ศิลปินโอ รัฐมนต์, อัลบั้ม "ติ๋ม บาร์เบอร์" ศิลปิน สายฝน อุทัยรัตน์ และอัลบั้ม "กระต่ยอ้อนจันทร์" ศิลปิน กระต่ายขาว ดาวรุ่ง ซึ่งบริษัทแมงป่องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ในการผลิตและจัดจำหน่ายทั่วประเทศ
ซึ่งธุรกิจโดยรวมของแมงป่องและบริษัทในเครือ ในปีที่ผ่านมาสามารถทำรายได้ถึง 1,500 ล้านบาท และในปี 2547 ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 1,800 ล้านบาท ในส่วนของตลาดโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของแมงป่องนั้น ในปีนี้ตลาดโตมากขึ้น เนื่องจากฮาร์ดแวร์มีราคาที่ถูกลง ดังนั้นแมงป่องจึงมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นที่สำคัญก็คือ แมงป่องจะเน้นลงทุนเองและร่วมทุนกับพันธมิตรเป็นหลัก ในปัจจุบันแมงป่องมีเอาท์เล็ตกว่า 160 สาขา และมีร้านค้าพันธมิตรทั้งหมดประมาณ 300 รายทั่วประเทศ ส่วนการขยายเอาท์เล็ตนั้นจะเน้นโลเกชั่นเป็นหลักมากกว่าที่จะเน้นไปเรื่องขนาด
แต่ความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจสายบันเทิงของแมงป่องยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ในปี 2547 นี้ได้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และระดมทุนจากประชาชน เพื่อนำเงินทุนที่ได้ไปใช้ในการจัดหาลิขสิทธิ์ เพื่อนำมาผลิตสินค้าซอฟท์แวร์เอนเตอร์เทนเม้นท์ตามความต้องการของตลาดที่มีสูงขึ้น เนื่องจากปัจจุบันตลาดของธุรกิจโฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากการที่สินค้ามีความหลากหลายและสามารถหาซื้อได้ทั่วไปประกอบกับการที่เครื่องเล่นและแผ่นวีซีดี ดีวีดี มีราคาถูกลง จึงส่งผลดีต่อธุรกิจแมงป่องและทำให้บริษัทมีศักยภาพที่แข็งแกร่งมากขึ้น (ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 275 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 275 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 1 บาทเป็นทุนชำระแล้วจำนวน 220 ล้านบาท การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 55 ล้านหุ้น ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะได้รับอนุญาตในการเสนอขายหุ้นจาก กลต. และทำการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้)
ซึ่งทั้งหมดนี้คุณกิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร เป็นผู้ผลักดันให้แมงป่องกลายเป็น "ที่สุดของความบันเทิงสำหรับนักดูหนังฟังเพลง"
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท แมงป่อง จำกัด(มหาชน)
คุณสุภาวดี ธีระพรสถานนท์ โทร.(01)627-2964
คุณปวีณา นาคน้อย โทร.(09)481-8340
โทร.(02)872-9595 ต่อ 608,607--จบ--
-ลจ/กภ-