กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--IR network
“เสนาดีเวลลอปเม้นท์” เปิดกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจปี 2555 เน้นการ Diversify กระจายความเสี่ยง โดยในปีนี้บริษัทจะขยายฐานการทำธุรกิจ จากธุรกิจบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ไปสู่ธุรกิจเช่า คือ Retail และสนามกอล์ฟ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการขยายทำเลการทำธุรกิจจากในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลไปสู่เมืองพัทยา และในปีนี้ตั้งเป้ายอดโอนไว้ที่ 1,500 ลบ. พร้อมวางแผนเปิด 6 โครงการใหม่แบบครบวงจรธุรกิจทั้งแนวราบ แนวสูงและให้เช่า ครอบคลุมลูกค้าทุกประเภท
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2555 ว่าบริษัทจะเน้นการ Diversify การทำธุรกิจ เพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น และยังเน้นการทำสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคโดยบริษัทจะใช้ CONCEPT GREEN GIVING เป็น CONCEPT หลักในการพัฒนาสินค้าและทำการตลาดในปีนี้ โดยกลุ่มเป้าหมายของบริษัทก็ยังคงอยู่ในกลุ่ม Low-Middle Income เป็นหลัก พร้อมเดินหน้าขยายทำเลจาก กรุงเทพและปริมณฑล ไปยังเมืองพัทยา ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการคมนาคมและเป็นทำเลทองของนักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อีกทำเลหนึ่ง
"แรงบันดาลใจที่ทำให้เกิด GREEN GIVING เกิดจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีแนวคิดว่าเราควรรักษาสมดุลของธรรมชาติเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงอีก โดยการดูแลรักษ์โลก เริ่มต้นได้ง่ายๆ จากการใช้ชีวิตประจำวันของเราเองไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่จะมีนโยบายในการทำธุรกิจที่ช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติไว้ได้"
เป้าหมายในปี 2555 ของ SENA ได้ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 1,800 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอน ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับปี 2554 และวางแผนเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย โครงการแนวราบ 2 โครงการ โครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ธุรกิจเช่า Retail 2 โครงการ พร้อมขยายทำเลไปสู่เมืองพัทยา ด้วยธุรกิจบ้านจัดสรร สนามกอล์ฟ และโรงแรม
“ นอกจากนี้ความกังวลของผู้บริโภคที่มีต่ออุทกภัย คาดว่าจะทำให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะโครงการในทำเลที่เคยเกิดอุทกภัย ทางบริษัทจึงได้วางแผนพัฒนาตัวสินค้าเพื่อลดความกังวลของผู้บริโภคเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วม เช่น วางแผนปรับถมที่ดินให้สูงขึ้นกว่าระดับน้ำท่วมเดิม ในกรณีที่มีโครงการใหม่ในพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม หรือออกแบบให้ห้องควบคุมไฟฟ้าของคอนโดอยู่ในที่ที่สูงขึ้น หรือนำไปไว้ที่ชั้น 2 ของอาคารแทน โดยบริษัทพัฒนาสินค้าโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศสำนักงานขายและทำการตลาดแบบ GREEN GIVING ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางการนำเสนอที่โดนใจผู้บริโภคมากที่สุดในช่วงเวลานี้ พร้อมทั้งให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าว่าในยามที่เกิดเหตุภัยธรรมชาติ หรือ เหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ บริษัทยังคงให้ความดูแลและช่วยเหลือลูกบ้านของเสนาเป็นอย่างดี เหมือนอย่างที่ศูนย์เสนาอาสาได้ดูแลลูกบ้านจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ” ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวในที่สุด