พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มีนาคม 47 “สรอรรถ” เตือนพ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลลูกหลานให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ข่าวทั่วไป Thursday March 18, 2004 09:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐสภาได้ผ่านร่างพ.ร.บ.ด้านสังคมในปี พ.ศ. 2546 จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 นั้น สำหรับพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มีนาคม ศกนี้ โดยเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.ดังกล่าว มุ่งหวังที่จะรักษาผลประโยชน์ ปกป้อง คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็กเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งจะเห็นได้จากมาตรการในเรื่องห้ามมิให้เด็กซื้อหรือเสพสุราหรือบุหรี่ หรือเข้าไปในสถานที่เฉพาะเพื่อการจำหน่ายหรือเสพสุราหรือบุหรี่ ตามมาตรา 45 มาตรา 26 (3) (7) และมาตรา 78 ที่ระบุว่า เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซื้อหรือเสพสุราหรือบุหรี่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจสอบถามข้อมูลจากเด็กและมีหนังสือเรียกผู้ปกครองมาประชุม เพื่อว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน หรือให้เด็กทำงานบริการสังคม หรือทำงานสาธารณประโยชน์ และอาจวางข้อกำหนดให้ผู้ปกครองต้องดูแลเด็กเพื่อไม่ให้เด็กกระทำผิดอีก หากเด็กกระทำผิดซ้ำให้ผู้ปกครองมาทำทัณฑ์บนและวางเงินประกัน ถ้ากระทำผิดทัณฑ์บนก็จะถูกริบเงินประกันตาม มาตรา 45 และมาตรา 39
นายสรอรรถ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครองหรือบุคคลใดที่มีพฤติการณ์หรือเจตนาว่ามีส่วนยินยอม รู้เห็นเป็นใจหรือสนับสนุน ส่งเสริมให้มีการกระทำความผิดอื่นๆตามกฎหมายดังกล่าว ก็อาจจะมีความผิดฐานส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดได้ ซึ่งกฎหมายนี้กำหนดให้มีบทลงโทษคือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 26 มาตรา 45 และมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
นายสรอรรถ กล่าวตอนท้ายว่า พ.ร.บ.นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มีนาคม ศกนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินการตามพ.ร.บ.นี้น่าจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน ซึ่งนับว่าเป็นบทบาทสำคัญประการหนึ่งที่ภาครัฐได้พยายามยื่นมือเข้าไปให้การคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็กๆ ลูกหลานของเรา ผมจึงขอส่งสัญญาณเตือนมายังพ่อแม่ ผู้ปกครอง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ขอให้พยายามติดตามดูแล เอาใจใส่และเพิ่มความระมัดระวังในการอบรมเลี้ยงดู สั่งสอนบุตรหลานของท่านให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพราะต่อจากนี้ไป หากท่านปล่อยปละละเลย เด็กในปกครองของท่านไปประพฤติตนไม่สมควร หรือมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด เช่น กรณีแก๊งแข่งมอเตอร์ไซค์ รถซิ่ง บนท้องถนน ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อสุจริตชนแล้ว บุคคลที่เกี่ยวข้องก็อาจจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายใหม่ดังกล่าวด้วย--จบ--
-สพ-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ