กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ลีสซิ่งกสิกรไทยก้าวสู่ปี 2555 อย่างมั่นคง เชื่อตลาดรถยนต์ฟื้นตัวในไตรมาสแรก พร้อมรับแรงหนุนจากมาตรการรถยนต์คันแรก ประกาศปล่อยกู้สินเชื่อรถยนต์ใหม่ 6 หมื่นล้าน โต 28% ภายใต้การทำงานแบบเครือธนาคารกสิกรไทย เพื่อตอบโจทย์บริการการเงินแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ
นายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี 2554 ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศลดลงกว่า 40% อย่างไรก็ตามจากทิศทางสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นของอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยในช่วงปลายปี 2554 นั้นก็คาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องมายังทิศทางอุตสาหกรรมในช่วงปี 2555 ด้วย โดยเฉพาะในส่วนของกำลังการผลิตที่จะค่อย ๆ ปรับเพิ่มสูงขึ้นนี้ สำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศของไทยปี 2555 นั้น น่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ภายในไตรมาสแรก
ด้านนายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่าในปี 2554 ที่ผ่านมา บริษัท ฯ มียอดปล่อยสินเชื่อรวมที่ 53,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ถึง 28 % โดยในจำนวนนี้เป็นยอดสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่ง (Hire Purchase) จำนวน 31,927 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 %ส่วนยอดสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (Floorplan) ของลีสซิ่งกสิกรไทย ในปี 2554 อยู่ที่ 21,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 52 % สำหรับยอดสินเชื่อคงค้างในระบบ (Outstanding Loan) ณ ปัจจุบัน มีมูลค่ากว่า 63,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18 % โดยเป็นสินเชื่อที่ไม่เกิดให้ก่อรายได้ (NPL) อยู่ที่เพียง 1.04 % ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำมาก ส่วนผลกำไรสุทธิมี 471 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรในปี 2553
นายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2555 บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย ยังคงให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง โดยได้ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 59,908 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัท ฯ มียอดสินเชื่อรวมอยู่ที่ 82,213 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28.79% พร้อมตั้งเป้าผลกำไรที่ 574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.44% และเอ็นพีแอลลดเหลือ 0.92% พร้อมคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมปี 2555 น่าจะทะลุถึง 1.1 ล้านคัน เนื่องจากปัจจัยบวกด้านมาตรการของภาครัฐ ซึ่งได้แก่ นโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรก ซึ่งได้ขยายสิทธิครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ซื้อที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และการผ่อนผันให้สามารถนำเข้ารถยนต์ใหม่ทั้งคัน โดยใช้ฐานภาษีเช่นเดียวกับการผลิตในประเทศ ประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆในตลาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง