กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--ปตท.สผ.
ปตท.สผ. ปี 2554 มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากปี 2553 พร้อมเริ่มการผลิตก๊าซฯ จากโครงการบงกชใต้ครึ่งแรกของปี และผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งมอนทาราในครึ่งหลังของปี 2555
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ (Mr. Anon Sirisaengtaksin) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยผลการดำเนินงานก่อนตรวจสอบ (Unaudited) สำหรับปี 2554 ว่า ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติจำนวน 1,659 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้น 367 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือคิดเป็นร้อยละ 28 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 1,292 ล้านดอลลาร์ สรอ. และมีอัตราผลตอบแทน (กำไรจากการดำเนินงานตามปกติ) ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return from normal operation on shareholders’ equity) อยู่ที่ร้อยละ 28
สำหรับรายได้รวมของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อย ในปี 2554 มีจำนวน 5,685 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 173,375 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1,153 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปี 2553 ซึ่งมีรายได้รวม 4,532 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 143,506 ล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้จากราคาขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยสำหรับปี 2554 เพิ่มขึ้นเป็น 55.49 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยสำหรับปี 2553 ที่ 44.83 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และมีปริมาณขายเฉลี่ยปี 2554 ที่ 265,047 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณการขายเฉลี่ยในปี 2553 ที่ 264,575 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยปริมาณขายที่เพิ่มส่วนใหญ่เกิดจากโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย-บี 17 โครงการแคนาดา ออยล์ แซนด์ เคเคดี และโครงการเวียดนาม 16-1
นายอนนต์เพิ่มเติมว่า หากพิจารณากำไรสุทธิรวม 1,468 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 44,748 ล้านบาท) อาจเห็นว่าเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปี 2553 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 1,380 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 43,774 ล้านบาท) ทั้งนี้เนื่องจากในปี 2554 มีค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานปกติ ได้แก่ ผลกระทบทางบัญชีจากภาษีเงินได้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการแปลงค่าสินทรัพย์ที่เป็นฐานภาษีจากเงินดอลลาร์ สรอ. เป็นเงินบาทเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเงินค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง และผลกระทบทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นการกู้ยืมเงินระหว่างกันของ ปตท.สผ. และบริษัท พีทีทีอีพี แคนาดา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. เนื่องจากเงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ. ซึ่งรายการข้างต้นเป็นรายการทางบัญชี มิได้กระทบกระแสเงินสด หรือสะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด
สำหรับความก้าวหน้าที่สำคัญในการดำเนินงานปี 2554 นี้ มีโครงการเวียดนาม 16-1 ซึ่งได้เริ่มการผลิตน้ำมันดิบเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ปัจจุบัน มีอัตราการผลิตสูงขึ้นเป็น 32,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนโครงการแคนาดา ออยล์ แซนด์ เคเคดี ซึ่งเริ่มการผลิตเมื่อต้นปี มีการผลิตต่อวันสูงสุดได้ถึง 18,190 บาร์เรลต่อวัน และขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการติดตั้งเครื่องผลิตไอน้ำ (Steam Generator) เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มอัตราการผลิตเป็น 22,000 บาร์เรลต่อวัน
โครงการบงกชใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบระบบการทำงาน คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตก๊าซธรรมชาติได้ภายในครึ่งแรกของปี 2555 โดยจะมีอัตราการผลิตที่ประมาณ 320 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน สำหรับการพัฒนาแหล่งมอนทารามีความคืบหน้าตามลำดับ โดยยังคงเป้าหมายเริ่มการผลิตไว้ที่ครึ่งหลังของปี 2555 เช่นกัน ส่วนโครงการพม่า ซอติก้า อยู่ระหว่างงานก่อสร้างแท่นผลิตหลัก แท่นหลุมผลิต และท่อส่งก๊าซธรรมชาติ คาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตได้ในปี 2556